นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

รู้จักถุงน้ำคร่ำ! น้ำคร่ำสีอะไร น้ำคร่ำกับฉี่ต่างกันอย่างไร

Enfa สรุปให้

  • ถุงน้ำคร่ำคือ เยื่อบางสองชั้นที่ห่อหุ้มทารกภายในมดลูก ภายในมีน้ำคร่ำซึ่งเป็นของเหลวใสที่ช่วยรองรับและป้องกันแรงกระแทกจากภายนอก ควบคุมอุณหภูมิภายในครรภ์ ช่วยให้ทารกเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ รวมถึงมีบทบาทในการพัฒนาอวัยวะสำคัญ เช่น ปอด กล้ามเนื้อ และระบบประสาท
  • น้ำคร่ำสีอะไร น้ำคร่ำที่ดีควรมีลักษณะใสหรือสีเหลืองอ่อนคล้ายฟางข้าว และมีกลิ่นเฉพาะที่ไม่เหม็น การสังเกตสีของน้ำคร่ำเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากน้ำคร่ำเปลี่ยนสี เช่น เขียว น้ำตาล แดง หรือขุ่น อาจสะท้อนภาวะผิดปกติในครรภ์ 
  • น้ำคร่ำกับฉี่ต่างกันอย่างไร น้ำคร่ำมีประกอบด้วยน้ำเป็นหลัก รวมถึงสารอาหาร ฮอร์โมน เซลล์จากผิวหนังของทารก และสารชีวภาพอื่น ๆ ขณะที่ปัสสาวะคือของเสียที่ถูกขับออกมาจากไตและมักมีสารยูเรียหรือเกลือแร่ต่าง ๆ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายของผู้หญิงจะเปลี่ยนแปลงไปมากมาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตของอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิดขึ้น ถุงน้ำคร่ำคือหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังแรกของลูกน้อย ซึ่งช่วยในการดูแลและปกป้องทารกตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันที่คลอดออกมา ถุงน้ำคร่ำไม่ได้เป็นเพียงของเหลวธรรมดาในร่างกาย แต่เป็นพื้นที่แห่งการพัฒนา เจริญเติบโต และความปลอดภัยที่ช่วยให้ลูกน้อยสามารถเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบในครรภ์

ในบทความนี้ Enfa จะพาคุณแม่มาทำความรู้จักกับถุงน้ำคร่ำให้มากขึ้น โดยเฉพาะคำถามยอดฮิต น้ำคร่ำสีอะไร น้ำคร่ำกับฉี่ต่างกันอย่างไร น้ำคร่ำแตกอาการเป็นอย่างไร น้ำคร่ำแตกกี่ชั่วโมงถึงคลอด เป็นต้น

 

ถุงน้ำคร่ำคืออะไร


ถุงน้ำคร่ำ คือ เยื่อบางสองชั้นที่ห่อหุ้มทารกอยู่ภายในมดลูก โดยมีชั้นในที่เรียกว่าอะมิออน (Amnion) และชั้นนอกที่เรียกว่าคอริออน (Chorion) ภายในถุงนี้เต็มไปด้วยน้ำคร่ำ ซึ่งเป็นของเหลวใสที่ช่วยรองรับและป้องกันแรงกระแทกจากภายนอก อีกทั้งยังควบคุมอุณหภูมิภายในครรภ์ ช่วยให้ทารกเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ รวมถึงมีบทบาทในการพัฒนาอวัยวะสำคัญ เช่น ปอด กล้ามเนื้อ และระบบประสาท ถุงน้ำคร่ำจึงเป็นเหมือนบ้านหลังแรกที่ปลอดภัยและพร้อมจะหล่อเลี้ยงชีวิตใหม่ให้เติบโตอย่างมั่นคงนั่นเอง

 

น้ำคร่ำกับฉี่ต่างกันอย่างไร


ในช่วงปลายของการตั้งครรภ์ การขับถ่ายปัสสาวะของลูกน้อยในถุงน้ำคร่ำทำให้ปัสสาวะของทารกกลายเป็นส่วนหนึ่งของน้ำคร่ำ แต่ทั้งสองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน น้ำคร่ำมีองค์ประกอบซับซ้อนกว่าปัสสาวะมาก ประกอบด้วยน้ำเป็นหลัก รวมถึงสารอาหาร ฮอร์โมน เซลล์จากผิวหนังของทารก และสารชีวภาพอื่น ๆ ที่มีบทบาทในการพัฒนาระบบต่าง ๆ ในร่างกายลูก ในขณะที่ปัสสาวะคือของเสียที่ถูกขับออกมาจากไตและมักมีสารยูเรียหรือเกลือแร่ต่าง ๆ 

ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกว่ามีของเหลวไหลออกจากช่องคลอด และสงสัยว่าเป็นน้ำคร่ำหรือฉี่ สามารถสังเกตได้โดยน้ำคร่ำจะเป็นน้ำไหลต่อเนื่อง ออกมาเรื่อย ๆ แม้ไม่ได้เบ่งหรือขยับตัว ไม่สามารถควบคุมการไหลได้ และไม่มีกลิ่นฉุนแบบปัสสาวะ ขณะนี่ปัสสาวะหรือฉี่มักจะเกิดขณะไอ จาม หรือเบ่งแรง ๆ มีปริมาณน้อย ๆ หยุดได้เมื่อลองเกร็งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และมีกลิ่นเฉพาะของปัสสาวะ โดยอาจไหลออกทีละนิด ไม่ได้ไหลต่อเนื่องยาวนาน

 

น้ำคร่ำสีอะไร


น้ำคร่ำที่ดีควรมีลักษณะใสหรือสีเหลืองอ่อนคล้ายฟางข้าว และมีกลิ่นเฉพาะที่ไม่เหม็น การสังเกตสีของน้ำคร่ำเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากน้ำคร่ำเปลี่ยนสี เช่น เขียว น้ำตาล แดง หรือขุ่น อาจสะท้อนภาวะผิดปกติในครรภ์ โดยสีของน้ำคร่ำและความหมายที่ควรระวัง ได้แก่

  • สีใสหรือเหลืองอ่อน หมายถึงภาวะปกติ
  • สีเขียว อาจมีขี้เทาจากทารกปนอยู่ แสดงว่าทารกเครียด
  • สีน้ำตาลเข้มหรือดำ ขี้เทาเก่า อาจเสี่ยงต่อภาวะขาดออกซิเจน
  • สีแดงหรือชมพู มีเลือดปน อาจเกิดจากรกลอกตัวบางส่วน
  • น้ำขุ่น มีกลิ่นเหม็น อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ 

 

น้ำคร่ำขุ่น คืออะไร


น้ำคร่ำขุ่นหมายถึงของเหลวที่มีลักษณะไม่ใส อาจมีสีเทาอมน้ำตาล หรือมีลักษณะคล้ายหนอง การที่น้ำคร่ำขุ่นไม่ใช่เรื่องปกติ และมักเกิดจากการติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำหรือมีขี้เทาปริมาณมากปนอยู่ การติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำเป็นภาวะที่อันตรายทั้งต่อแม่และลูก อาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด ติดเชื้อในกระแสเลือด หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ การสังเกตความเปลี่ยนแปลงของน้ำคร่ำเมื่อมีน้ำไหลออกจากช่องคลอดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ควรใส่ใจอย่างยิ่ง 

 

น้ำคร่ำแตก อาการอย่างไร


เมื่อน้ำคร่ำแตก คุณแม่จะรู้สึกถึงน้ำใส ๆ ไหลออกจากช่องคลอด โดยไม่สามารถควบคุมได้ ต่างจากปัสสาวะที่สามารถกลั้นได้ น้ำคร่ำมักไหลต่อเนื่องและทำให้รู้สึกเปียกอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องออกแรงเบ่ง ลักษณะของน้ำคร่ำที่ไหลออกมา ได้แก่

  • ลักษณะใส หรือสีเหลืองอ่อน
  • ไม่มีสีหรือกลิ่นเหม็น
  • ไหลต่อเนื่อง ควบคุมไม่ได้
  • บางรายเริ่มเจ็บท้องคลอดตามทันที บางรายยังไม่เจ็บ

หากคุณแม่สงสัยว่าน้ำที่ไหลออกมาเป็นน้ำคร่ำ ควรไปโรงพยาบาลทันทีเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และลูก

 

น้ำคร่ำแตกกี่ชั่วโมงถึงคลอด


โดยทั่วไปหลังจากน้ำคร่ำแตกแล้ว มักจะเกิดการเจ็บท้องคลอดภายในเวลา 12 ถึง 24 ชั่วโมง หากเกินกว่านั้นโดยยังไม่มีการเจ็บท้องคลอด แพทย์อาจพิจารณาเร่งคลอดหรือให้ยาเพื่อกระตุ้นการบีบตัวของมดลูก การปล่อยให้รอนานเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในโพรงมดลูกและส่งผลต่อลูกน้อยได้ โดยเฉพาะในรายที่น้ำคร่ำแตกก่อนครบกำหนดคลอด การเฝ้าระวังจากแพทย์อย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การคลอดเป็นไปอย่างปลอดภัยและลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

การรู้จักและเข้าใจหน้าที่ของถุงน้ำคร่ำและน้ำคร่ำเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพของตนเองและลูกน้อยได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยให้รับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น น้ำคร่ำแตก หรือน้ำคร่ำผิดปกติ ได้อย่างมีสติและปลอดภัย ถุงน้ำคร่ำไม่ใช่เพียงของเหลวในครรภ์ แต่เป็นสภาพแวดล้อมที่หล่อเลี้ยงชีวิตหนึ่งให้พร้อมเผชิญโลกภายนอกได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อย เริ่มต้นด้วยโภชนาการผ่านคุณแม่


คุณภาพของน้ำคร่ำและสุขภาพของถุงน้ำคร่ำได้รับอิทธิพลโดยตรงจากโภชนาการของคุณแม่ การรับประทานอาหารที่หลากหลายและครบถ้วน เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก โฟเลต วิตามิน A และ C รวมถึงการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ล้วนส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของน้ำคร่ำโดยตรง โดยอาหารที่แนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ได้แก่

  • ผักใบเขียว เช่น คะน้า ตำลึง บรอกโคลี
  • ผลไม้สด โดยเฉพาะผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง ส้ม
  • แหล่งโปรตีน เช่น ไข่ นม ถั่ว เนื้อปลา
  • ธัญพืชไม่ขัดสี และอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ตับ ไก่แดง
  • น้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8–10 แก้ว

ทั้งนี้ ระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนในปริมาณมากเกินไป เพราะจะมีส่วนทำให้เกิดความเสี่ยงน้ำคร่ำน้อยหรือผิดปกติ นอกจากนี้ โภชนาการที่เหมาะสมของคุณแม่ยังส่งต่อถึงลูกน้อยในครรภ์ การเลือกโภชนาการที่ดีจึงเป็นเสาหลักของสุขภาพลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์ทั้งสุขภาพของลูกน้อย ตลอดจนพัฒนาการทางสมองอีกด้วย 

 

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama