นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คนท้องตัวร้อนแต่ไม่มีไข้ ทำความเข้าใจอาการและวิธีดูแล

Enfa สรุปให้

  • คนท้องตัวร้อนแต่ไม่มีไข้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้น และอัตราเผาผลาญสูงขึ้น มักไม่อันตราย แต่ควรสังเกตอาการร่วมเสมอ

  • คนท้องมีอาการหนาวสั่นตอนกลางคืน อาจเกิดจากฮอร์โมน ระบบไหลเวียน หรือสภาพแวดล้อม หากเป็นเพียงครั้งคราวถือว่าปกติ แต่ถ้าร่วมกับไข้หรืออาการผิดปกติอื่นควรพบแพทย์

  • คนท้องร้อนวูบวาบเป็นอาการที่พบได้ในช่วงตั้งครรภ์ เกิดจากความผันผวนของฮอร์โมน มักดีขึ้นหลังคลอด และสามารถบรรเทาได้ด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ และปรับสิ่งแวดล้อมให้สบาย

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

คุณแม่ตั้งครรภ์มักเผชิญการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งฮอร์โมน การไหลเวียนเลือด และการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ หนึ่งในอาการคนท้องระยะแรกที่พบได้บ่อยคือรู้สึกตัวร้อนแต่ไม่มีไข้ อาการนี้อาจทำให้กังวลว่าเป็นสัญญาณผิดปกติหรือไม่ บทความนี้ Enfa จะอธิบายสาเหตุ ความแตกต่างจากการเป็นไข้จริง ๆ รวมถึงคำแนะนำการดูแลตนเอง เพื่อช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์สบายใจและมั่นใจมากขึ้นค่ะ

 

คนท้องตัวร้อน แต่ไม่มีไข้ เกิดจากอะไร


อาการคนท้องตัวร้อน แต่ไม่มีไข้ เกิดจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของอีกหนึ่งชีวิต โดยมีปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้

  • ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
    ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนสูงขึ้น ส่งผลให้ศูนย์ควบคุมอุณหภูมิในสมองไวต่อความร้อนมากขึ้น ทำให้ร่างกายรู้สึกอุ่นกว่าปกติแม้ไม่มีไข้จริง
  • ปริมาณเลือดเพิ่มขึ้น
    ร่างกายผลิตเลือดมากขึ้นถึง 30–50% เพื่อเลี้ยงทารกและรก เลือดที่ไหลเวียนมากขึ้นทำให้ผิวหนังอุ่นขึ้นและอาจรู้สึกร้อนง่าย
  • อัตราเผาผลาญสูงขึ้น
    ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ ทำให้เกิดความร้อนในร่างกายมากกว่าปกติ
  • ปัจจัยสิ่งแวดล้อม
    อากาศร้อน ความชื้นสูง เสื้อผ้าที่รัดแน่น หรือห้องนอนที่อับก็ทำให้คนท้องรู้สึกร้อนโดยไม่เกี่ยวกับการติดเชื้อ

โดยทั่วไปแล้วอาการคนท้องตัวร้อนนี้ถือว่าไม่ใช่โรคนะคะ แต่เป็นการตอบสนองของร่างกายต่อการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของการตั้งครรภ์นั่นเอง

 

อาการหนาว ๆ ร้อน ๆ ของคนท้อง ปกติไหม


อาการหนาว ๆ ร้อน ๆ ของคนท้องเป็นเรื่องปกติมากค่ะ คนท้องมีอาการตัวร้อนเกิดจากศูนย์ควบคุมอุณหภูมิในสมอง (ไฮโปทาลามัส) ที่กำลังพยายามปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและสภาวะร่างกายที่เปลี่ยนไป บางครั้งร่างกายอาจจะตอบสนองไวเกินไป เมื่อรู้สึกร้อน ร่างกายจะพยายามระบายความร้อนออกอย่างรวดเร็วด้วยการขับเหงื่อและขยายหลอดเลือด ซึ่งอาจทำให้คุณแม่รู้สึกเย็นวาบลงทันที ในทางกลับกัน เมื่อรู้สึกเย็น ร่างกายก็จะพยายามสร้างความร้อนด้วยการหดตัวของกล้ามเนื้อ จนอาจเกิดอาการหนาวสั่นได้ 

อาการคนท้องร้อนวูบวาบก็เป็นส่วนหนึ่งของกลไกนี้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นฉับพลันบริเวณใบหน้า ลำคอ และหน้าอก แล้วตามมาด้วยเหงื่อออกและรู้สึกหนาวในภายหลัง ซึ่งเป็นคนละอาการกับคนท้องไม่สบายหรือป่วยมีไข้ค่ะ

 

คนท้องร้อนวูบวาบ จะหายเมื่อไหร่


คนท้องร้อนวูบวาบเป็นอาการที่มักเกิดที่ใบหน้า คอ และหน้าอก และอาจมีเหงื่อออกตามมา พบได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกเนื่องจากฮอร์โมนผันผวน และมักชัดเจนขึ้นในไตรมาสสองและสามโดยเฉพาะตอนกลางคืน ส่วนใหญ่อาการคนท้องตัวร้อนตลอดจะดีขึ้นหลังคลอดเมื่อระดับฮอร์โมนกลับสู่ภาวะปกติ

แม้อาการนี้ไม่อันตราย แต่สามารถทำให้รบกวนการนอนได้ จึงควรปรับสิ่งแวดล้อม เช่น เปิดพัดลม ดื่มน้ำเย็น หรือใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศดี

 

คนท้องหนาวง่าย ปกติไหม


ตรงกันข้ามกับการร้อนวูบวาบ คนท้องบางคนกลับมีอาการหนาวง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะปลายมือปลายเท้า สาเหตุที่พบได้ เช่น

  • ความดันโลหิตต่ำ ทำให้เลือดไปเลี้ยงผิวหนังไม่พอ
  • โลหิตจาง หรือขาดธาตุเหล็ก พบบ่อยในคนท้อง ทำให้ร่างกายทนต่อความหนาวได้น้อย ควรรับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็ก 
  • ระบบหมุนเวียนเลือดปรับตัว อาจทำให้คุณแม่รู้สึกเย็นง่าย โดยเฉพาะเมื่อนั่งหรือนอนนาน ๆ

ถ้าคนท้องหนาวง่ายแต่ไม่มีอาการร่วมอื่น มักถือว่าปกติ แต่หากมีอาการซีด เหนื่อยง่าย เวียนหัวบ่อย ควรตรวจเลือดหาโรคโลหิตจางค่ะ

 

คนท้องตัวร้อนแต่ไม่มีไข้ กับคนท้องเป็นไข้ตัวร้อน แยกได้อย่างไร


คนท้องตัวร้อนแต่ไม่มีไข้กับคนท้องเป็นไข้ตัวร้อนนั้นต่างกันหลายอย่าง เพื่อไม่ให้สับสน ลองเปรียบเทียบความแตกต่างได้ดังนี้


ตัวร้อนแต่ไม่มีไข้

  • อุณหภูมิเมื่อวัดยังปกติ (<37.5°C)
  • อาการร้อนเกิดเป็นช่วง ๆ ไม่ต่อเนื่อง
  • ไม่มีอาการติดเชื้อ เช่น ไอ เจ็บคอ หรือหนาวสั่นรุนแรง

 

ตัวร้อนเพราะเป็นไข้

  • วัดไข้ได้สูง ≥38°C
  • มักมีอาการอื่นร่วม เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ไอ น้ำมูก หรืออาการติดเชื้อ
  • อาจอันตรายหากปล่อยทิ้งไว้ เพราะไข้สูงส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้

ดังนั้น หากไม่แน่ใจ ควรวัดไข้ทุกครั้งเพื่อแยกอาการ และหากพบไข้สูงควรพบแพทย์ทันที

 

คนท้องมีอาการหนาวสั่นตอนกลางคืน ปกติไหม


คนท้องมีอาการหนาวสั่นตอนกลางคืน ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุดังนี้

  • ความผันผวนของฮอร์โมนที่ควบคุมอุณหภูมิ
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายตอบสนองไว
  • ห้องนอนที่เย็นหรือผ้าห่มไม่เหมาะสม
  • ภาวะขาดน้ำ

โดยทั่วไปถ้าคนท้องมีอาการหนาวสั่นตอนกลางคืนเป็นครั้งคราวถือว่าปกติ แต่หากเกิดร่วมกับอาการ ปวดท้อง น้ำคร่ำรั่ว หรือมีไข้ ควรรีบตรวจเพิ่มเติมค่ะ

 

คำแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่เมื่อมีอาการตัวร้อนระหว่างตั้งครรภ์


เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุของอาการตัวร้อนระหว่างตั้งครรภ์แล้ว การรับมือกับอาการตัวร้อนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป โดยคุณแม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ พยายามดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8-10 แก้ว การรักษาความชุ่มชื้นให้ร่างกายจะช่วยควบคุมอุณหภูมิได้ดีขึ้น
  • เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสม สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย หรือผ้าลินิน ซึ่งระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ที่รัดรูป
  • แต่งตัวเป็นชั้น ๆ การใส่เสื้อผ้าหลาย ๆ ชั้นที่สามารถถอดออกได้ง่าย จะช่วยให้คุณแม่ปรับตัวตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงระหว่างวันได้สะดวก
  • อาบน้ำด้วยอุณหภูมิปกติ การอาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำอุ่นเล็กน้อย ไม่ใช่น้ำร้อนจัดหรือเย็นจัด จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นและผ่อนคลาย
  • ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หากรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมา ให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นประคบบริเวณใบหน้า ลำคอ หรือข้อมือ จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • ควบคุมสภาพแวดล้อม พยายามอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศให้อุณหภูมิห้องเย็นสบาย
  • พกพัดและสเปรย์น้ำแร่ เป็นไอเทมที่ช่วยชีวิตได้ดีเมื่อต้องออกไปข้างนอก
  • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มกระตุ้น อาหารรสเผ็ดจัด เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน (ชา กาแฟ) และแอลกอฮอล์ สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการร้อนวูบวาบได้
  • ออกกำลังกายเบา ๆ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น โยคะคนท้อง หรือการเดิน จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้นและควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อย เริ่มต้นด้วยโภชนาการผ่านคุณแม่


สุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อยเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงที่อยู่ในครรภ์ การที่คุณแม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนและเหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างสมอง ร่างกาย และภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรง การใส่ใจโภชนาการจึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีที่สุดของลูก โดยในแต่ละวัน คุณแม่ควรเลือกอาหารคนท้องที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และกรดไขมันจำเป็น เช่น DHA โฟเลต แคลเซียม และโคลีน ซึ่งล้วนมีบทบาทต่อการพัฒนาสมองและการเจริญเติบโตของทารก 

ซึ่งนอกจากการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นประจำในทุกมื้อแล้ว คุณแม่ยังสามารถเสริมด้วยนมบำรุงครรภ์และให้นมบุตร เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ อาจเลือกดื่มนมเอนฟามาม่า เอพลัส วันละ 2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมและโคลีนตามความต้องการของคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรในแต่ละวัน (THAI DRI)

โภชนาการที่ดีไม่เพียงช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่แข็งแรง แต่ยังช่วยปกป้องคุณแม่จากภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคโลหิตจาง ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เมื่อแม่สุขภาพดี ลูกก็จะได้รับการดูแลที่สมบูรณ์ไปพร้อมกัน ดังนั้น ทุกคำที่แม่เลือกกินในวันนี้ คือการวางรากฐานสู่อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อยอย่างแท้จริง

 

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama