นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

ท้องแต่ไม่มีอาการอะไรเลย ผิดปกติไหม คุณแม่มือใหม่ควรรู้

Enfa สรุปให้

  • ท้องแต่ไม่มีอาการอะไรเลย สามารถเกิดขึ้นได้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติในบางคน แต่ควรตรวจและฝากครรภ์กับแพทย์เพื่อยืนยันความปลอดภัย

  • ความเชื่อที่ว่าไม่แพ้ท้องเลยได้ลูกสาวหรือลูกชาย จริง ๆ แล้วอาการแพ้ท้องไม่สามารถบอกเพศลูกได้ ไม่สามารถดูได้จากการแพ้ท้อง เพราะไม่มีหลักฐานทางการแพทย์รองรับ

  • ท้องแต่ไม่มีอาการแพ้ท้อง ไม่ได้หมายความว่าตั้งครรภ์ผิดปกติ อาจเกิดจากร่างกายปรับตัวได้ดีต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน แต่ยังจำเป็นต้องตรวจติดตามสุขภาพกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

คุณแม่หลายคนมักคิดว่าการตั้งครรภ์ต้องมีอาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ เหนื่อยง่าย หรืออารมณ์แปรปรวน แต่ในความเป็นจริงมีคุณแม่จำนวนไม่น้อยที่ท้องแต่ไม่มีอาการอะไรเลย จนบางครั้งกังวลว่าเป็นเรื่องผิดปกติหรือไม่ การไม่มีอาการที่ชัดเจน เช่น ประจำเดือนขาด แต่ไม่รู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ อาจทำให้สับสนและไม่มั่นใจ ใครที่กำลังสงสัยเรื่องนี้ วันนี้ Enfa มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ

 

ท้อง แต่ไม่มีอาการอะไรเลย ปกติไหม

แม้โดยทั่วไปอาการคนท้องมักเริ่มตั้งแต่ช่วง 4–6 สัปดาห์แรก แต่ก็มีบางคนตั้งครรภ์แล้วไม่มีอาการอะไรเลย ซึ่งถือว่าปกติได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อฮอร์โมน hCG ที่หลั่งเพิ่มขึ้นหลังการฝังตัวของตัวอ่อนด้วยค่ะ

โดยในหลายกรณี คุณแม่อาจจะสังเกตแค่ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด แต่ไม่มีอาการร่วม เช่น เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม หรือเต้านมคัดตึง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าการตั้งครรภ์ผิดปกติ ตราบใดที่ยังมีการตรวจติดตามและฝากครรภ์กับแพทย์ตามกำหนด

 

ท้อง แต่ไม่มีอาการแพ้ท้อง เพราะอะไร

การที่คุณแม่ท้องแต่ไม่มีอาการแพ้ท้องสามารถอธิบายได้จากหลายปัจจัย เช่น ระดับฮอร์โมนที่แตกต่าง ความไวของร่างกายต่อสารเคมีจากรก หรือสุขภาพร่างกายโดยรวม

บางงานวิจัยระบุว่าหากร่างกายตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างสมดุล ก็อาจไม่เกิดอาการ เช่น เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม ที่มักพบในหญิงตั้งครรภ์ทั่วไป ขณะที่บางคนกลับมีอาการคนท้องไม่รู้ตัว เพราะไม่มีสิ่งใดบ่งชี้ชัดเจนจนกว่าจะตรวจร่างกายได้เช่นกัน

 

ไม่แพ้ท้องเลย VS แพ้ท้องหนักมาก อาการคนท้องแตกต่างกันเพราะอะไร

อาการตั้งครรภ์มีตั้งแต่ไม่รู้สึกอะไรเลย ไปจนถึงมีแพ้ท้องหนักมาก หรือภาวะ Hyperemesis Gravidarum ที่รุนแรงถึงขั้นต้องรักษาในโรงพยาบาล ความแตกต่างนี้มาจากการตอบสนองทางพันธุกรรม ฮอร์โมน และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

ในบางรายที่ไม่แพ้ท้องเลย อาจสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ในขณะที่ผู้ที่มีอาการมากอาจมีน้ำหนักลด ขาดน้ำ และอ่อนเพลีย จึงต้องพบแพทย์เพื่อดูแลใกล้ชิด ทั้งนี้ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มไหน ควรเข้าใจว่าอาการแพ้ท้องบอกเพศลูก หรือการทายเพศลูกในท้องจากอาการแพ้ท้องนั้นเป็นเพียงความเชื่อ ไม่ใช่หลักฐานทางการแพทย์ค่ะ

 

ถ้าไม่มีอาการแพ้ท้องจะท้องไหม

หลายคนสงสัยว่าถ้าไม่มีอาการแพ้ท้องเลย แปลว่าจะไม่ได้ตั้งครรภ์หรือเปล่า ไม่มีอาการอะไรเลยแต่ท้องได้ไหม คำตอบคือต่อให้ไม่มีอาการแพ้ท้องเลยก็ยังสามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติ โดยอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่ใช่เครื่องยืนยันการตั้งครรภ์เสมอไป

ทั้งนี้ การยืนยันการตั้งครรภ์ที่ชัดเจนที่สุดคือการตรวจร่างกาย เช่น ตรวจเลือดเพื่อวัดฮอร์โมน hCG หรือการอัลตราซาวนด์ ไม่ควรรอจนมีอาการชัดเจน เพราะบางครั้งผู้หญิงอาจมีเพียงประจำเดือนขาดโดยไม่มีอาการอื่นร่วมด้วยก็ได้

 

ไม่แพ้ท้อง กลัวท้องลม ทำยังไงดี

ความกังวลเรื่องท้องลมมักเกิดขึ้นเมื่อไม่มีอาการใด ๆ เลย ทั้งที่ตรวจพบการตั้งครรภ์ การท้องลมคือภาวะที่มีการฝังตัวของไข่แต่ตัวอ่อนไม่เจริญเติบโต ซึ่งสามารถตรวจพบได้จากการทำอัลตราซาวนด์

  • วิธีป้องกันความเครียดและยืนยันความปลอดภัย ได้แก่
  • เข้ารับการฝากครรภ์และอัลตราซาวนด์ตั้งแต่ไตรมาสแรก
  • สังเกตอาการผิดปกติ เช่น เลือดออก ปวดท้องรุนแรง
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อให้มั่นใจว่าการตั้งครรภ์ดำเนินไปตามปกติ

 

ไม่แพ้ท้องเลยได้ลูกสาวหรือลูกชาย

นอกจากความเชื่อเรื่องแพ้ท้องบอกเพศลูกแล้ว ยังมีความเชื่อพื้นบ้านอีกเรื่องว่าอยากได้ลูกสาวหรืออยากได้ลูกชายทำนายได้จากอาการแพ้ท้อง คือ แพ้ท้องหนักจะได้ลูกสาว หรือไม่แพ้ท้องเลยจะได้ลูกชาย ซึ่งในทางการแพทย์ยังไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจน แม้ว่าบางงานวิจัยพบแนวโน้มเล็กน้อยระหว่างอาการคลื่นไส้กับเพศทารก แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นกฎตายตัวค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าหากคุณแม่ไม่แพ้ท้องมีบุญมาก ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีความเชื่อมโยงใดกับเรื่องบุญบาป ส่วนเรื่องของรู้เพศทารกอย่างแม่นยำต้องตรวจด้วยอัลตราซาวนด์หรือนวัตกรรมการตรวจ NIPT เท่านั้น

 

อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อย เริ่มต้นด้วยโภชนาการผ่านคุณแม่

สุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อยเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงที่อยู่ในครรภ์ การที่คุณแม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนและเหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างสมอง ร่างกาย และภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรง การใส่ใจโภชนาการจึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีที่สุดของลูก โดยในแต่ละวัน คุณแม่ควรเลือกอาหารที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และกรดไขมันจำเป็น เช่น DHA โฟเลต แคลเซียม และโคลีน ซึ่งล้วนมีบทบาทต่อการพัฒนาสมองและการเจริญเติบโตของทารก 

ซึ่งนอกจากการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นประจำในทุกมื้อแล้ว คุณแม่ยังสามารถเสริมด้วยนมบำรุงครรภ์และให้นมบุตร เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ อาจเลือกดื่มนมเอนฟามาม่า เอพลัส วันละ 2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมและโคลีนตามความต้องการของคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรในแต่ละวัน (THAI DRI)

โภชนาการที่ดีไม่เพียงช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่แข็งแรง แต่ยังช่วยปกป้องคุณแม่จากภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคโลหิตจาง ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เมื่อแม่สุขภาพดี ลูกก็จะได้รับการดูแลที่สมบูรณ์ไปพร้อมกัน ดังนั้น ทุกคำที่แม่เลือกกินในวันนี้ คือการวางรากฐานสู่อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อยอย่างแท้จริง

 

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama