Enfa สรุปให้

  • ผดร้อนทารก คือ ผดสีแดงเม็ดเล็ก ๆ ที่ขึ้นตามร่างกายของทารก ซึ่งผดเม็ดเล็ก ๆ เหล่านี้จะส่งผลให้ทารกมีอาการคัน ไม่สบายตัว ยุกยิกตลอดเวลา

  • ผดร้อน เกิดขึ้นจากสาเหตุหลัก คือ ต่อมเหงื่ออุดตัน ทำให้เหงื่อไม่สามารถไหลหรือระเหยออกมาภายนอกได้ ทำให้เหงื่อเหล่านั้นตกค้างอยู่ใต้ผิวหนัง เกิดการอักเสบและกลายเป็นผื่นขึ้นมา

  • อย่างไรก็ตาม ผดร้อนทารกนั้นสามารถหายเองได้ในระยะเวลาเพียง 2-3 วันเท่านั้น หรือเมื่ออุณหภูมิในร่างกายและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยเย็นลง ผดร้อนก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • ผดร้อนคืออะไร
     • สาเหตุของผดร้อนในทารก
     • วิธีรักษาผดร้อนในทารก
     • ไขข้อข้องใจอาการผดร้อนของทารกกับ Enfa Smart Club

ผดร้อนทารก อีกหนึ่งปัญหาสุขภาพผิวหนังของลูกที่กวนใจคุณพ่อคุณแม่ ยิ่งเห็นผดผื่นเล็ก ๆ ลุกลามขึ้นตามตัวของลูก ก็ยิ่งตกใจ กลัวว่าลูกจะเป็นอันตรายรุนแรงหรือเปล่า วันนี้ Enfa จะพาคุณพ่อคุณแม่มารู้จักกับ ผดร้อนในเด็ก ให้มากขึ้นกันค่ะ

ผดร้อนทารก คืออะไร


ผดร้อนทารก คือ ผดสีแดงเม็ดเล็ก ๆ ที่ขึ้นตามร่างกายของทารก ซึ่งผดเม็ดเล็ก ๆ เหล่านี้จะส่งผลให้ทารกมีอาการคัน ไม่สบายตัว ยุกยิกตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผดร้อนเหล่านี้จะผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนเต็มร่างกายไปหมดู มองดูแล้วน่าตกใจ แต่ผดร้อนก็ไม่ได้เป็นอันตรายทางสุขภาพที่รุนแรงนะคะ ที่เราเห็นกันว่าผดร้อนนั้นขึ้นตามตัวทารกจนน่ากลัว นั่นก็เป็นเพราะทารกมีผิวบอบบางมาก จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดผดร้อนลุกลามมากกว่าในผู้ใหญ่

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

ผดร้อนทารกเกิดจากอะไร  


ผดร้อน ผดผื่นทารก เกิดขึ้นจากสาเหตุหลัก คือ ต่อมเหงื่ออุดตัน เมื่อต่อมเหงื่อเกิดการอุดตัน จะทำให้เหงื่อไม่สามารถไหลออกมาภายนอกได้ และเหงื่อก็ไม่สามารถจะระเหยบนผิวหนังได้ด้วย เมื่อเหงื่อระบายออกมาไม่ได้ หยดเหงื่อเหล่านั้นก็จะติดอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบและกลายเป็นผื่นขึ้นมา

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต่อมเหงื่ออุดตันนั้น ก็มาจากหลายปัจจัยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น:

  • สภาพอากาศที่ร้อนชื้นหรือร้อนมาก

  • ทารกมีไข้สูง

  • ทารกที่อยู่ในตู้อบหลังเกิด มีโอกาสเสี่ยงที่ต่อมเหงื่อจะอุดตัน

  • สวมใส่เสื้อผ้าหลายชั้น หรือเสื้อผ้าหนามากเกินไป ทำให้เหงื่อไม่สามารถระเหยออกมาได้

  • การเสียดสีระหว่างผิวหนังและเสื้อผ้า

ลูกเป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ อาการแบบนี้ใช่ผดร้อนในทารกหรือเปล่า

แค่เห็นว่าลูกมีผื่นเม็ดเล็ก ๆ ขึ้นมาตามร่างกาย ก็ยังไม่สามารถจะฟันธงได้ทันทีว่าเป็นผดร้อน เพราะผื่นเม็ดเล็ก ๆ นั้นอาจจะเป็นลมพิษ ผื่นผ้าอ้อม หรือผื่นภูมิแพ้ผิวหนังก็ได้

ดังนั้น เห็นแค่ผื่นเม็ดเล็ก ๆ อาจจะยังไม่พอ ต้องสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยค่ะ

ซึ่งผดร้อนนั้น จะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส ๆ หรือตุ่มแดงขนาดเล็ก เหมือนหยดเหงื่อที่ติดอยู่ใต้ผิวหนัง ของเหลวในตุ่มใสนั้นอาจเป็นสีขาวใสหรือสีน้ำนม สามารถพบได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้

  • หน้าผาก

  • คอ

  • รักแร้

  • ก้น

  • ขาหนีบ

  • ไหล่

  • หน้าอก

  • ข้อพับข้อศอก

  • หลังเข่า

และผดเหล่านี้ก็จะก่อให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง ไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว

ผดร้อนทารกกี่วันหาย

โดยปกติแล้วผดร้อนจะหายเองได้เมื่ออุณหภูมิในร่างกายและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยเย็นลง โดยอาจใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 วันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนอาจมีอาการดีขึ้นเพียง 1-2 วัน เด็กบางคนอาจใช้เวลานานกว่านั้น

แต่ถ้าผ่านไป 3 วัน หรือนานกว่านั้น แล้วผดร้อนไม่มีท่าทีว่าจะทุเลาลง หรือมีผดร้อนเพิ่มมากขึ้น ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที

ผดร้อนเด็กรักษายังไง


ผดร้อนในทารก สามารถหายเองได้เมื่ออุณหภูมิในร่างกายและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยเย็นลง โดยไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการรักษาเฉพาะทาง

ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้อาการผดร้อนของทารกค่อย ๆ ดีขึ้นได้ ดังนี้

  • พยายามเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ทารกบ่อย ๆ

  • เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่รัดแน่น และไม่สวมเสื้อผ้าให้ลูกหลายชั้นจนเกินความจำเป็น

  • อาบน้ำเด็กทารกด้วยน้ำอุ่น เพื่อเปิดรูขุมขน

  • หลังอาบน้ำไม่ต้องเช็ดตัวทารก แต่ซับเบา ๆ เท่านั้นพอ

  • ดูแลอากาศภายในบ้านหรือในห้องของทารกให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม และมีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว

  • หลีกเลี่ยงการใช้ครีม น้ำมันหอมระเหย หรือขี้ผึ้ง เพราะเสี่ยงจะทำให้อาการต่อมเหงื่ออุดตันแย่ลง

  • เปิดพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ เพื่อไม่ให้อุณหภูมิในร่างกายของทารกสูง หรือรู้สึกร้อน เพราะยิ่งอากาศร้อนมากเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยงจะทำให้ต่อมเหงื่ออุดตันเพิ่มขึ้น

  • ให้ทารกดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย และช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลง

ยาทาผดผื่นทารก เลือกยังไงดี

คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนอาจหาซื้อยาทาผดร้อนทารกมาใช้เองโดยไม่ปรึกษาแพทย์

ซึ่งจริง ๆ แล้วอาการผดร้อนในทารกนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ยาใด ๆ เพราะสามารถที่จะหายเองได้ค่ะ

หากอาการไม่ดีขึ้น หรือเป็นมาก ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนที่จะเลือกซื้อยาทาใด ๆ มาใช้บรรเทาอาการคันให้กับลูก เพราะการใช้ยาใดกับเด็กโดยแพทย์ไม่อนุญาต อาจเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ค่ะ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้เด็ก

ไขข้อข้องใจอาการผดร้อนของทารกกับ Enfa Smart Club


 ลูกเป็นผดร้อนทำยังไงดี?

อาการผดร้อนของทารกสามารถหายเองได้โดยไม่จำเป็นต้องรับการรักษาเฉพาะทางค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากลูกมีอาการผดร้อน คุณพ่อคุณแม่ควรทำให้อุณหภูมิร่างกายของทารกลดลง เมื่อตัวเย็นขึ้น อาการผดร้อนต่าง ๆ ก็จะลดลง

รวมถึงอาจใช้วิธีดังต่อไปนี้เพื่อช่วยให้อาการผดร้อนในเด็กดีขึ้น

  • พยายามเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ทารกบ่อย ๆ

  • เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่รัดแน่น และไม่สวมเสื้อผ้าให้ลูกหลายชั้นจนเกินความจำเป็น

  • อาบน้ำเด็กทารกด้วยน้ำอุ่น เพื่อเปิดรูขุมขน

  • หลังอาบน้ำไม่ต้องเช็ดตัวทารก แต่ซับเบา ๆ เท่านั้นพอ

  • ดูแลอากาศภายในบ้านหรือในห้องของทารกให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม และมีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว

  • หลีกเลี่ยงการใช้ครีม น้ำมันหอมระเหย หรือขี้ผึ้ง เพราะเสี่ยงจะทำให้อาการต่อมเหงื่ออุดตันแย่ลง

  • เปิดพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ เพื่อไม่ให้อุณหภูมิในร่างกายของทารกสูง หรือรู้สึกร้อน เพราะยิ่งอากาศร้อนมากเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยงจะทำให้ต่อมเหงื่ออุดตันเพิ่มขึ้น

  • ให้ทารกดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย และช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลง

 ลูกมีผดขึ้นตามตัว รู้ได้ยังไงว่าเป็นผดร้อน?

หากมีผดขึ้นตามตัวลูก เป็นเรื่องยากค่ะถ้าจะเจาะจงทันทีว่าเป็นผดร้อน เพราะผดที่ขึ้นตามผิวหนังของทารกนั้น อาจหมายถึงอาการทางผิวหนังอื่น ๆ เช่น ลมพิษ ผื่นผ้าอ้อม เป็นต้น

ดังนั้น เห็นแค่ผื่นเม็ดเล็ก ๆ อาจจะยังไม่พอ ต้องสังเกตอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยค่ะ

ซึ่งผดร้อนนั้น จะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส ๆ หรือตุ่มแดงขนาดเล็ก เหมือนหยดเหงื่อที่ติดอยู่ใต้ผิวหนัง ของเหลวในตุ่มใสนั้นอาจเป็นสีขาวใสหรือสีน้ำนม สามารถพบได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้

  • หน้าผาก

  • คอ

  • รักแร้

  • ก้น

  • ขาหนีบ

  • ไหล่

  • หน้าอก

  • ข้อพับข้อศอก

  • หลังเข่า

และผดเหล่านี้ก็จะก่อให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง ไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว

 ลูกเป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ คัน ใช่ผดร้อนไหม?

อาจเป็นผดร้อน หรือไม่ใช่ผดร้อนก็ได้ค่ะ เพราะผดผื่นเหล่านี้ อาจหมายถึงโรคผิวหนังอื่น ๆ  เช่น ลมพิษ ผื่นแพ้ผิวหนัง หรือผื่นผ้าอ้อม เป็นต้น

ซึ่งผดร้อนนั้น จะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส ๆ หรือตุ่มแดงขนาดเล็ก เหมือนหยดเหงื่อที่ติดอยู่ใต้ผิวหนัง ของเหลวในตุ่มใสนั้นอาจเป็นสีขาวใสหรือสีน้ำนม สามารถพบได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้

  • หน้าผาก

  • คอ

  • รักแร้

  • ก้น

  • ขาหนีบ

  • ไหล่

  • หน้าอก

  • ข้อพับข้อศอก

  • หลังเข่า

และผดเหล่านี้ก็จะก่อให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง ไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว

 ผดใส ๆ ขึ้นหน้าทารก ลูกมีผื่นคันขึ้นตามตัว แต่ไม่มีไข้ อันตรายไหม?

โดยมากแล้วผดผื่นต่าง ๆ ของทารกนั้นไม่ได้มีอันตรายรุนแรง และมักจะหายได้เองภายใน 2-3 วัน แต่ถ้าพ้นจาก 3-4 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันทีค่ะ

 ผื่นเม็ดเล็กๆ ขึ้นตามตัว แบบนี้ เป็นอะไรกันแน่?

ทารกที่มีผื่นเล็ก ๆ ขึ้นตามตัว เป็นเรื่องยากที่จะสันนิษฐานได้ทันที เพราะผื่นที่เห็นนั้นอาจเป็นผดร้อน หรือผดที่เกิดจากอาการแพ้ต่าง ๆ ก็ได้

ทางที่ดีควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา

 ลูกเป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ ที่แขน อาการแบบนี้ภูมิแพ้หรือผดร้อน?

อาจเป็นทั้งผดร้อนหรือภูมิแพ้ก็ได้ค่ะ ทางที่ดีควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจิวินิจฉัยจะดีที่สุด เพื่อที่แพทย์จะได้ทำการวินิจฉัยและทำการรักษาได้ตรงจุด

 วิธีแก้ผดผื่นทารกอย่างไรให้หายไว?

ผดผื่นทารกมักดีขึ้นเองภายใน 2-3 วัน แต่คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ โดยการทำอุณหภูมิร่างกายของทารกให้เย็นขึ้น เมื่อตัวเย็นขึ้น อาการผดร้อนต่าง ๆ ก็จะลดลง

  • รวมถึงอาจใช้วิธีดังต่อไปนี้เพื่อช่วยให้อาการผดร้อนในเด็กดีขึ้นก็ได้เช่นกัน

  • พยายามเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ทารกบ่อย ๆ

  • เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่รัดแน่น และไม่สวมเสื้อผ้าให้ลูกหลายชั้นจนเกินความจำเป็น

  • อาบน้ำเด็กทารกด้วยน้ำอุ่น เพื่อเปิดรูขุมขน

  • หลังอาบน้ำไม่ต้องเช็ดตัวทารก แต่ซับเบา ๆ เท่านั้นพอ

  • ดูแลอากาศภายในบ้านหรือในห้องของทารกให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม และมีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว

  • หลีกเลี่ยงการใช้ครีม น้ำมันหอมระเหย หรือขี้ผึ้ง เพราะเสี่ยงจะทำให้อาการต่อมเหงื่ออุดตันแย่ลง

  • เปิดพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ เพื่อไม่ให้อุณหภูมิในร่างกายของทารกสูง หรือรู้สึกร้อน เพราะยิ่งอากาศร้อนมากเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยงจะทำให้ต่อมเหงื่ออุดตันเพิ่มขึ้น

  • ให้ทารกดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย และช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลง


    บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์