นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

ลูกเรียนอนุบาล 3 กี่ขวบ แนะนำแบบฝึกหัดอนุบาล 3 ที่น่าสนใจ

Enfa สรุปให้

  • ลูกเรียนอนุบาล 3 กี่ขวบ โดยทั่วไปเด็กที่เข้าเรียนชั้น อนุบาล 3 จะมีอายุ 5 ปีบริบูรณ์ หรือนับถึงวันที่ 16 พ.ค. ของปีการศึกษานั้น ๆ ซึ่งอาจอยู่ในช่วงอายุ 5-6 ปี

  • อนุบาล 3 เป็นช่วงวัยที่มีพัฒนาการก้าวกระโดดในทุกด้าน ทั้งกล้ามเนื้อที่คล่องแคล่วขึ้น การใช้ภาษาที่ซับซ้อน และการรู้จักควบคุมอารมณ์และเข้าสังคม 

  • แบบฝึกหัดอนุบาล 3 เป็นเครื่องมือช่วยเสริมทักษะที่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม แบบฝึกหัดอนุบาล 3 ที่ดีควรเน้นการบูรณาการความรู้ ทั้งคณิตศาสตร์ ภาษา และการพัฒนากล้ามเนื้อมือมัดเล็ก 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ช่วงชั้นอนุบาลเป็นช่วงเวลาทองของการพัฒนาสำหรับเด็ก ๆ เลยล่ะค่ะ และช่วงวัยอนุบาล 3 ยังเป็นโค้งสุดท้ายก่อนที่ลูกรักจะก้าวเข้าสู่การศึกษาภาคบังคับอย่างเต็มตัวในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อีกด้วย การทำความเข้าใจว่าในช่วงวัยนี้ลูกของเรามีพัฒนาการอย่างไร มีความพร้อมแค่ไหน และต้องเรียนรู้อะไรบ้าง จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่ 

โดยการเตรียมความพร้อมที่ดีไม่ใช่แค่การเน้นด้านวิชาการเท่านั้น แต่คือการส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านให้สมดุลและมั่นคง ในบทความนี้ Enfa จะแนะนำวิธีเตรียมตัวสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกวัยอนุบาล 3 อย่างเหมาะสม ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

 

อนุบาล 3 กี่ขวบ

สำหรับพ่อแม่ที่สงสัยว่าลูกควรเรียนอนุบาล 3 อายุเท่าไหร่นั้น ตามหลักเกณฑ์การรับนักเรียนของกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยโดยทั่วไป กำหนดอายุของเด็กที่เข้าเรียนในระดับชั้นอนุบาลไว้ดังนี้ค่ะ

  • อนุบาล 1 อายุ 3 ปีบริบูรณ์
  • อนุบาล 2 อายุ 4 ปีบริบูรณ์
  • อนุบาล 3 อายุ 5 ปีบริบูรณ์

ทั้งนี้ การนับอายุจะนับจนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม ของปีการศึกษานั้น ๆ โดยส่วนใหญ่เด็กที่เข้าเรียน อนุบาล 3 จะมีอายุอยู่ในช่วง 5 – 6 ปี ซึ่งวัยนี้เป็นช่วงวัยที่ลูกรักของเราจะมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญก่อนเข้าเรียน ป.1 นั่นเองค่ะ 

 

อนุบาล 3 เรียนอะไรบ้าง

การเรียนรู้ในระดับชั้นอนุบาล 3 จะเน้นที่การเตรียมความพร้อมทั้ง 4 ด้าน เพื่อให้เด็กสามารถปรับตัวและประสบความสำเร็จในการเรียนระดับประถมศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2560 ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเด็กอนุบาล 3 เรียนอะไรบ้างนั้น มีดังนี้

  • การเรียนรู้เกี่ยวกับตนเอง คือ ชื่อ สกุล เพศ การรู้จักอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การดูแลตนเอง เช่น การแปรงฟัน การขับถ่าย การล้างมือ และการรักษาความปลอดภัยเบื้องต้น
  • การเรียนรู้เกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อม คือ ครอบครัว โรงเรียน เพื่อนบ้าน อาชีพ และสถานที่สำคัญต่าง ๆ
  • การเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติรอบตัว คือ ชื่อสัตว์ พืช ธรรมชาติรอบตัว ฤดูกาล การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการสังเกตสิ่งต่าง ๆ
  • การเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว คือ อาหาร เครื่องแต่งกาย ยานพาหนะ การสื่อสาร เทคโนโลยี และการเปรียบเทียบขนาด รูปร่าง

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเด็กอนุบาลอีกหลากหลายที่ทางโรงเรียนควรจัดขึ้นเพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ดังนี้

  • ด้านร่างกาย ควรมีกิจกรรมเคลื่อนไหวและการออกกำลังกาย เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ให้แข็งแรง เช่น วิ่ง กระโดด ปีนป่าย และกล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น การใช้กรรไกร การจับดินสอ
  • ด้านอารมณ์และจิตใจ ควรมีกิจกรรมศิลปะ ดนตรี และการเล่นอิสระ เพื่อให้เด็กรู้จักจัดการกับอารมณ์ ควบคุมตนเอง และมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของ กิจกรรมเด็กอนุบาล ที่สำคัญ
  • ด้านสังคม ควรมีกิจกรรมการเล่นกลุ่ม การเล่นบทบาทสมมติ และกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อฝึกการเข้าสังคม การแบ่งปัน การรอคอย และการปฏิบัติตามกฎกติกา
  • ด้านสติปัญญาและภาษา ควรมีกิจกรรมภาษา และคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมการคิด การใช้ภาษาที่ถูกต้อง การเชื่อมโยงความคิด และการแก้ปัญหาอย่างง่าย

 

พัฒนาการอนุบาล 3

ในช่วงวัย 5-6 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยเด็กอนุบาล 3 ถือเป็นช่วงที่พัฒนาการของเด็กมีความพร้อมเกือบเต็มที่ก่อนเข้า ป.1 หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าอนุบาล 3 ต้องรู้อะไรบ้าง สามารถตรวจสอบได้จากเช็กลิสต์นี้ 

ด้านร่างกาย

  • สามารถทรงตัว ชก เตะ ขว้างได้ดีขึ้น 
  • เริ่มตัด แปะ วาดภาพได้ชัดขึ้น ใช้กรรไกร จับดินสอได้อย่างถูกต้อง 

ด้านสังคมและอารมณ์

  • เล่นร่วมกับเพื่อน แบ่งของ เข้าแถว รอคิว และรู้จักกฎของห้องเรียน 
  • เริ่มมีความเป็นตัวของตัวเอง พูดแสดงความคิดเห็น และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น 

ด้านภาษาและการรู้หนังสือ

  • เริ่มเข้าใจว่า “ตัวอักษรแทนเสียง” และอาจเริ่มอ่านคำง่าย ๆ ได้ 
  • เริ่มเขียนชื่อ เขียนคำง่าย ๆ และประโยคสั้น ๆ ได้ 

ด้านความคิดและการแก้ปัญหา

  • เริ่มตั้งคำถาม อยากรู้อยากเห็น และสามารถทำกิจกรรมที่ใช้ตรรกะ แก้ปัญหาแบบง่ายๆ 

 

อนุบาล 3 อ่านหนังสือไม่ออก

อีกประเด็นที่สร้างความกังวลให้คุณพ่อคุณแม่มากที่สุดในช่วงอนุบาล 3 คือเรื่องความพร้อมด้านวิชาการโดยเฉพาะการอ่านและการเขียน ทำให้หลายคนกังวลใจเรื่องลูกอนุบาล 3 อ่านหนังสือไม่ออก หรือยังสะกดคำไม่ได้อย่างคล่องแคล่ว ถือเป็นเรื่องผิดปกติไหม ซึ่งความจริงแล้วตามหลักพัฒนาการและการศึกษาปฐมวัยนั้น เป้าหมายหลักของเด็กวัยนี้คือการเตรียมความพร้อมด้านการอ่านโดย

  • ความตระหนักรู้ด้านเสียง โดยการแยกเสียงพยัญชนะ สระ การเล่นสัมผัสคล้องจอง เช่น รู้ว่า "หมา" กับ "มา" เสียงคล้ายกัน
  • การจดจำตัวอักษร รู้จักชื่อและเสียงของพยัญชนะและสระบางตัว
  • ความเข้าใจในภาษาเขียน รู้ว่าตัวอักษรและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ใช้สื่อความหมาย และอ่านจากซ้ายไปขวา

ซึ่งการเตรียมพร้อมดังกล่าวเป็นสิ่งที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมลูกได้ ดังนี้ 

  • อ่านนิทานให้ฟังเป็นประจำ ชี้ตัวอักษรตามคำที่อ่าน เพื่อให้ลูกเห็นความเชื่อมโยงระหว่างเสียงกับสัญลักษณ์
  • เล่นเกมภาษา เล่นเกมคำคล้องจอง ทายคำ หรือใช้บัตรคำ
  • สร้างบรรยากาศ จัดมุมหนังสือที่น่าสนใจ เปิดโอกาสให้ลูกเลียนแบบการอ่านหนังสือ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการสอนเด็กอ่านหนังสือในช่วงวัยนี้

ทั้งนี้ หากลูกมีปัญหาในการจดจำตัวอักษรหรือเสียงตั้งแต่ชั้นอนุบาลต้น ๆ เช่น จำตัวอักษรได้น้อยกว่า 10 ตัว หรือแม้จะได้รับความช่วยเหลืออย่างสม่ำเสมอแล้วแต่ยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้ในอนาคตค่ะ

 

อนุบาล 3 เขียนไม่ได้

เช่นเดียวกับการอ่านเลยค่ะ การที่ลูกอนุบาล 3 เขียนไม่ได้ หรือเขียนพยัญชนะหรือตัวเลขได้ไม่สวยงาม ก็ยังไม่เป็นเรื่องใหญ่ ที่ต้องกังวลจนเกินเหตุค่ะ โดยทักษะที่สำคัญกว่าในช่วงวัยนี้คือความพร้อมด้านการเขียน ดังนี้

  • ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดเล็ก สามารถจับดินสอ ปากกา หรือพู่กันได้อย่างถูกต้องและมั่นคง 
  • การประสานงานของตาและมือ สามารถลากเส้นตามรอยประ คัดเส้นพื้นฐาน เช่น เส้นตรง เส้นโค้ง วงกลม หรือคัดตัวอักษรตามแบบได้อย่างไม่หลุดนอกเส้นมากนัก
  • ทักษะการลอกแบบ สามารถลอกเลียนแบบการเขียนรูปร่าง ตัวอักษร หรือตัวเลขง่าย ๆ ได้

การส่งเสริมลูกให้มีความพร้อมด้านการเขียนสามารถใช้กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กโดยให้ลูกเล่นปั้นดินน้ำมัน ใช้กรรไกรตัดกระดาษ ฉีกปะ ร้อยลูกปัด หรือตักน้ำหรือทราย เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมือให้แข็งแรงได้ รวมถึงการฝึกคัดง่าย ๆ โดยใช้สมุดคัดที่เส้นบรรทัดไม่ซับซ้อน หรือเริ่มจากการให้ลูกลากเส้นตามรอยประก่อนที่จะเริ่มคัดตัวอักษรอย่างเต็มรูปแบบ

สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรรู้คือ อย่าบังคับให้เด็กเขียนมาก ๆ ในขณะที่กล้ามเนื้อมือยังไม่พร้อม เพราะอาจทำให้ลูกรู้สึกต่อต้านการเรียนรู้ได้ค่ะ ซึ่งหากลูกยังไม่พร้อมควรหาของเล่นเด็กที่เสริมทักษะกล้ามเนื้อมือจะดีกว่าการบังคับให้คัดลายมือ

 

แบบฝึกหัดอนุบาล 3

การใช้แบบฝึกหัดอนุบาล 3 เป็นเครื่องมือที่ดีในการทบทวนและเสริมสร้างทักษะที่ลูกเรียนรู้มาที่โรงเรียน แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่หักโหมจนเกินไป และเลือกแบบฝึกหัดที่เน้นการบูรณาการและการเล่นสนุกมากกว่าการท่องจำ โดยมีตัวอย่างแหล่งแบบฝึกหัดอนุบาล 3 ฟรี ดังนี้

  • ใบงานอนุบาล 3 แบบฝึกหัดปฐมวัย เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids รวมชุดแบบฝึกทั้งลากเส้น ลากจุด จับคู่ วาดรูป ระบายสี ฝึกเขียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์สำหรับเด็กอนุบาล 3 โดยเฉพาะ www.amarinbabyandkids.com
  • แบบฝึกหัดอนุบาล 3 กว่า 30 ชุด ครบทุกทักษะ www.amarinbabyandkids.com-2
  • แบบฝึกหัดอนุบาล แจกฟรี เว็บไซต์ YoungCiety www.youngciety.com
  • แบบฝึกหัดอนุบาลกว่า 50 แบบฝึกหัด เว็บไซต์โรงเรียนเทศบาลอากาศอำนวย www.learneducation.co.th
  • เว็บไซต์ เช่น K5 Learning แจกแบบฝึกหัด Pre-K/Kindergarten (ภาษาอังกฤษ/คณิตศาสตร์) www.k5learning.com

นอกจากนี้ ยังสามารถหาซื้อหนังสือแบบฝึกหัดตามมาตรฐาน สพฐ. ซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป โดยควรเลือกชุดที่มีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งคณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และทักษะการคิด รวมถึงสมุดคัดลายมือ คัดตัวเลข โดยเลือกแบบที่มีขนาดตัวอักษรใหญ่ชัดเจน และมีรูปภาพประกอบที่น่าสนใจ

 

อนุบาล 3 กับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

เมื่อลูกเข้าสู่ชั้นอนุบาล 3 หมายความว่าเหลือเวลาอีกเพียง 1 ปีก็จะเข้าสู่การเรียนระดับประถมศึกษา ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของวัยเด็กก่อนเข้าสู่ช่วงวัยเรียน สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้และให้ความสำคัญเป็นพิเศษมี ดังนี้

 

สุขภาพกายและจิตที่สมบูรณ์

  • โภชนาการและการนอน ควรให้ลูกได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน โดยเฉพาะอาหารเช้าที่สำคัญต่อการเรียนรู้ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน และเพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่เหมาะสมควรเน้นอาหารครบ 5 หมู่ ลดหวาน มัน เค็ม และฝึกให้ลูกกินผักผลไม้เป็นประจำ
  • การตรวจสุขภาพ ควรพาไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนตามกำหนดกับกุมารแพทย์เป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกมีการเติบโตตามเกณฑ์และไม่มีปัญหาสุขภาพที่อาจส่งผลกระทบต่อการเรียน เช่น ปัญหาการมองเห็นหรือการได้ยิน

 

ทักษะการช่วยเหลือตนเอง (Self-Help Skills) และการปรับตัว

  • การเข้าห้องน้ำและทำความสะอาดตนเองหลังขับถ่ายได้
  • การรับประทานอาหาร เก็บภาชนะ และดื่มน้ำด้วยตนเอง
  • การจัดเก็บของใช้ส่วนตัว เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า
  • การแก้ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยตนเอง เช่น ล้มแล้วลุกได้ ถูกเพื่อนแกล้งแล้วสามารถบอกครูได้
    สร้างกิจวัตรประจำวันไปโรงเรียนที่สม่ำเสมอ เช่น การตื่นนอน การทานอาหารเช้า และการจัดกระเป๋า จะช่วยให้ลูกปรับตัวเข้ากับชีวิตในโรงเรียนได้อย่างราบรื่นและลดความเครียดจากการเปลี่ยนช่วงชั้นเรียน

 

สัญญาณเตือนที่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

  • ปัญหาด้านอารมณ์/พฤติกรรม มีอารมณ์รุนแรง ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ง่าย ๆ ไม่สามารถแยกจากพ่อแม่ได้ หรือมีปัญหาด้านสมาธิ
  • พัฒนาการล่าช้าหลายด้าน ซึ่งความล่าช้าไม่ได้จำกัดอยู่แค่การอ่านเขียน แต่รวมไปถึงการใช้กล้ามเนื้อ ภาษา และสังคมร่วมด้วย ควรปรึกษากุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็กเพื่อประเมินและวินิจฉัยอย่างละเอียด

 

Enfagrow A+ แบรนด์เดียวที่เสริม MFGM

เอนฟาโกร เอพลัส มายด์โปร สูตรเฉพาะที่มี MFGM, DHA, 2’-FL และวิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่

พัฒนาการเด็ก 4 ขวบ
พัฒนาการเด็ก 5 ขวบ
พัฒนาการเด็ก 6 ขวบ
เตรียมอนุบาลกี่ขวบ 
อนุบาล 1 กี่ขวบ
อนุบาล 2 กี่ขวบ
ป.1 กี่ขวบ
พัฒนาการ 4 ด้าน
เมนูอาหารสําหรับวัยก่อนเรียน 3-6 ปี
เมนูข้าวกล่องไปโรงเรียนง่ายๆ
นิทานสำหรับเด็ก

 

  • กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://academic.obec.go.th/images/document/1590998426_d_1.pdf. [4 พฤศจิกายน 2568].
  • Amarin baby and kids. ชวนแม่มาเช็ก พัฒนาการ เด็ก 4 ขวบ ลูกวัย 4 ขวบ ควรส่งเสริมทักษะอะไรดี. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.amarinbabyandkids.com/toddler-kids/pre-school/4-years-old-milestones/. [4 พฤศจิกายน 2568].
  • กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. พัฒนาการเด็กวัย 5-6 ปี. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก  https://www.dcy.go.th/public/mainWeb/file_download/1646581348466-777890150.pdf. [4 พฤศจิกายน 2568].
  • TruePlookpanya. 6 สัญญาณ บอกปัญหาด้านการอ่าน สำหรับลูกน้อยในวัยอนุบาล. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/93831. [4 พฤศจิกายน 2568].

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama