ท่านอนให้นมลูก เข้าเต้าท่านอน ควรระวังอะไรบ้าง

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• ท่านอนให้นม
• ให้นมท่านอน ดีอย่างไร
• เข้าเต้าท่านอน ควรระวังอะไรบ้าง
• ให้นมลูกท่านอน แล้วลูกแหวะนม บอกอะไร
• เลือกโภชนาการที่มี MFGM เพื่อ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่า

สำหรับคุณแม่มือใหม่ การให้นมลูก อาจเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อร่างกายยังอ่อนเพลียจากการคลอดหรือเมื่อต้องลุกขึ้นให้นมลูกกลางดึกหลายครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่แม่ทุกคนต้องรู้และฝึกฝนคือการให้นมลูก โดยเฉพาะท่าให้นมแบบต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้แม่และลูกได้ผ่อนคลายมากขึ้น

ในบทความนี้ Enfa จะพาคุณแม่ทุกท่านมารู้จักกับท่านอนให้นม ท่าให้นมที่สะดวกสบายที่สุด แต่ก็มีข้อควรระวังมากที่สุดเช่นกัน ให้นมท่านอนดีอย่างไร เข้าเต้าท่านอนต้องระวังอะไรบ้าง มาอ่านกันเลยค่ะ

ท่านอนให้นม

ท่านอนให้นมลูก คือ หนึ่งในท่าอุ้มลูกเข้าเต้า 4 ท่า โดยเป็นการให้นมขณะคุณแม่นอนตะแคง และให้ลูกน้อยนอนตะแคงหันเข้าหาแม่ ตัวลูกชิดกับลำตัวแม่ในลักษณะท้องชนท้อง (belly-to-belly) ศีรษะลูกอยู่ในระดับเดียวกับหัวนม

การจัดท่านี้มักใช้หมอนรองศีรษะและระหว่างเข่า เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อแม่ไม่ตึงจนเกินไป ลูกสามารถดูดนมได้โดยไม่ต้องมีการยกตัวขึ้นมานั่ง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในช่วงกลางคืนหรือหลังคลอดที่คุณแม่ยังเจ็บแผล

นอกจากนี้ ท่านอนให้นมยังถูกแนะนำสำหรับคุณแม่ที่มีเต้านมขนาดใหญ่หรือมีปัญหาเจ็บหลัง เพราะทำให้ลูกสามารถดูดนมได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องให้แม่ก้มตัวหรือนั่งนาน ๆ ด้วยค่ะ

ให้นมท่านอน ดีอย่างไร

ให้นมท่านอน ดีอย่างไร อาจไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางเลือกเพื่อความสะดวกสบายสำหรับคุณแม่เท่านั้น แต่ท่าเข้าเต้าแบบนอนยังมีประโยชน์หลายด้านทั้งต่อตัวคุณแม่และลูกน้อย ดังนี้

1. ช่วยให้คุณแม่พักผ่อนได้มากขึ้น เพราะการใช้ท่านอนให้นมช่วยให้ยังคงอยู่ในท่านอนและผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กับการให้นม เมื่อลูกอิ่มแล้วสามารถวางหลับข้าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องลุกขึ้นบ่อย
   
2. เหมาะสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด เพราะหลังการผ่าตัดคลอด การขยับตัวหรือการนั่งให้นมอาจทำให้เจ็บแผล ท่านอนให้นมช่วยลดแรงกดและแรงตึงที่หน้าท้อง จึงเป็นท่าที่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์หลายแห่ง โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด
   
3. ควบคุมการไหลของน้ำนมได้ดีกว่า โดยเฉพาะคุณแม่บางคนที่มีปัญหาน้ำนมไหลแรง ทำให้ลูกสำลักได้ง่าย การให้นมท่านอนช่วยลดแรงโน้มถ่วงให้นมไหลช้าลง ทำให้ลูกสามารถดูดกลืนได้ง่ายขึ้น
   
4. ช่วยให้ลูกดูดนมติดเต้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่ที่มีเต้านมขนาดใหญ่หรือนมคัดตึง การจัดท่านอนให้นมทำให้ลูกเข้าถึงหัวนมได้สะดวกมากกว่าท่านั่ง ส่งผลให้ latch หรือการอมเต้าแนบสนิทขึ้น ลดโอกาสหัวนมแตกหรือเจ็บเต้า
   
5. ลดความเมื่อยล้าและอาการปวดกล้ามเนื้อ เพราะท่านั่งให้นมนาน ๆ อาจทำให้ปวดไหล่ หลัง หรือข้อมือ แต่ท่าเข้าเต้าแบบนอนให้นมช่วยให้ร่างกายคุณแม่ได้พักผ่อนกล้ามเนื้อ ใช้แรงน้อยลง
   

เข้าเต้าท่านอน ควรระวังอะไรบ้าง

เข้าเต้าท่านอนควรระวังเรื่องความปลอดภัยของทารกมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะความเสี่ยงของภาวะการเสียชีวิตเฉียบพลันในทารก (SIDS) และอันตรายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ขณะที่คุณแม่ใช้ท่านอนให้ลูกเข้าเต้า จึงควรระมัดระวังดังนี้

1. ความปลอดภัยขณะหลับ โดยหากคุณแม่เผลอหลับในขณะให้นม มีโอกาสเสี่ยงที่ลูกจะสำลักหรือขาดอากาศได้
   
2. น้ำนมไม่ถูกดูดออกหมด อาจทำให้เกิดท่อน้ำนมอุดตันหรือเต้านมอักเสบได้ คุณแม่ควรสลับไปใช้ท่านั่งหรือตำแหน่งอื่นบ้าง เพื่อให้เต้านมระบายอย่างทั่วถึง
   
3. ปัญหาลูกแหวะนม เพราะท่านอนทำให้แรงโน้มถ่วงไม่ช่วยดึงนมลงในกระเพาะอาหาร หากลูกมีอาการกรดไหลย้อนหรือระบบย่อยอาหารยังไม่สมบูรณ์ จะมีโอกาสแหวะนมได้บ่อยขึ้น ควรจัดศีรษะลูกให้สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย และอุ้มพาดบ่าหลังให้นมเสร็จเพื่อช่วยให้เรอออก
   
4. กล้ามเนื้อตึงหากนอนในท่าเดิมนาน ๆ คุณแม่บางคนอาจปวดไหล่หรือคอหากอยู่ในท่าเดิมนานเกินไป จึงควรสลับข้างซ้าย-ขวาในการให้นมทุกครั้ง
   

ให้นมลูกท่านอน แล้วลูกแหวะนม บอกอะไร

ให้นมลูกท่านอน แล้วลูกแหวะนมเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยในทารกแรกเกิดถึงช่วง 6 เดือนแรก เนื่องจากระบบย่อยอาหารและหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์เต็มที่ การที่ลูกแหวะนมหลังให้นมลูกท่านอนเข้าเต้าอาจไม่ได้หมายความว่ามีสิ่งผิดปกติเสมอไป แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ควรให้ความสำคัญและสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกแหวะนมอาจเป็นสัญญาณของสิ่งต่อไปนี้

• การพัฒนาการระบบย่อยอาหาร เพราะทารกแรกเกิดมีหูรูดกระเพาะอาหารที่ยังทำงานไม่สมบูรณ์ ทำให้มีโอกาสแหวะนมได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อนอนราบหลังให้นม
• อาการกรดไหลย้อน โดยหากลูกแหวะนมบ่อย ๆ มีอาการร้องกวนมาก หรือมีน้ำนมไหลออกทางจมูก ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อประเมินว่ามีภาวะกรดไหลย้อนหรือไม่
• คุณแม่มีนมไหลแรงเกินไป โดยหากคุณแม่มีน้ำนมพุ่งแรง การให้นมลูกท่านอนอาจทำให้ลูกกลืนไม่ทันและแหวะนมบ่อย อาจลองปรับท่าเป็นนั่งหรือ cradle hold ที่ช่วยให้ลูกควบคุมการดูดกลืนได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือหากลูกแหวะนมแต่ยังน้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์ ไม่มีอาการหอบเหนื่อยหรือหยุดหายใจ ส่วนใหญ่ถือว่าเป็นภาวะปกติของทารก แต่ถ้ามีอาการรุนแรงควรรีบพบแพทย์ทันทีค่ะ

เลือกโภชนาการที่มี MFGM เพื่อ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่า

นอกจากการดูแลสุขอนามัย สุขภาพโดยรวม และเฝ้าสังเกตพัฒนาการของของลูกน้อยว่าเหมาะสมตามวัยแล้วหรือไม่แล้ว การดูแลด้านโภชนาการตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกของชีวิตนั้น ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญให้กับชีวิตของลูก จะช่วยให้ลูกพร้อมเติบโตมาเป็นเด็กที่ทั้งฉลาดทางความคิดและฉลาดทางอารมณ์

โดยโภชนาการที่สำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับก็คือนมแม่ เพราะในนมแม่ที่มี MFGM หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และทักษะ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น

*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561