อาการคัดเต้านมเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเป็นผลจากการที่ร่างกายสร้างน้ำนมมากขึ้น ทำให้เต้านมแม่ใหญ่ขึ้น หนักขึ้น และบวม อาการคือเต้านมจะแข็งขึ้นและมีอาการปวด บวม ร้อน เต้านมมีสีแดงขึ้น บางครั้งอาจมีไข้ต่ำๆ และอาจทำให้สับสนกับโรคอักเสบติดเชื้อที่เต้านมได้ อาการคัดเต้านมอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ต่อไปนี้ค่ะ

  • คุณแม่มือใหม่อุ้มให้นมลูกผิดท่า ส่วนลูกก็ดูดนมผิดวิธี

  • คุณแม่อาจพยายามจำกัดเวลาให้นม และอาจให้นมไม่บ่อยเท่าที่ควร

  • การให้นมหรืออาหารเสริมอื่นๆ แก่ลูก โดยผ่านขวดนม ซึ่งเท่ากับลดความถี่ที่ลูกจะได้ดูดนมจากเต้าคุณแม่

  • การให้ลูกดูดจุกหลอกบ่อยเกินไป

  • การที่แม่ต้องเปลี่ยนเวลาให้นมเพื่อเตรียมกลับไปทำงาน

  • ตัวลูกมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดูดนม เช่น นอนหลับตลอดคืน

  • เด็กบางคนมีแรงดูดน้อย ทำให้ไม่สามารถดูดนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • แม่มีความเครียด อ่อนเพลีย หรือมีภาวะโลหิตจาง

  • เต้านมสร้างน้ำนมมากเกินไป แต่ไม่สมดุลกับการระบายน้ำนมออกโดยการให้ลูกดูด

  • หัวนมเป็นแผล

  • ความผิดปกติของเต้านม 

      อาการคัดเต้านมอาจนำไปสู่ภาวะท่อน้ำนมอุดตันหรือเต้านมอักเสบได้ ดังนั้นควรพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นเสียแต่เนิ่นๆ หากป้องกันและแก้ไขได้ถูกวิธี อาการจะหายไปภายใน 1-2 วัน ปัญหาไหนอีกบ้างนะที่เป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่ รู้ก่อนแก้ไขก่อนได้เพียงร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา คลิก

เทคนิคแก้ปัญหาอาการคัดเต้านม


  • หัวใจสำคัญคือต้องเริ่มต้นที่การให้ลูกดูดอย่างถูกวิธีและการอุ้มให้นมลูกอย่างถูกท่า

  • ให้ลูกดูดบ่อยๆ และนานเท่าที่ลูกต้องการ ในช่วงแรก คุณแม่ควรพยายามปลุกลูกให้ดูดนมทุก 2-3 ชั่วโมง การให้ลูกดูดนมจากเต้าช่วยให้นมไหลได้ดี และช่วยระบายนมออกจากเต้า ทำให้เต้านมไม่เต็มจนคัด

  • หลีกเลี่ยงการใช้ขวดนมเสริมการให้นม หรือใช้จุกหลอกบ่อยเกินไป

  • ก่อนให้ลูกดูดนม พยายามบีบนมด้วยมือหรือปั๊มนมออกก่อนเล็กน้อยเพื่อให้เต้านม ลานนม และหัวนมนิ่มลง หรือนวดเต้านมให้นุ่มและร้อนขึ้น

  • ความเย็นอาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี คุณแม่บางคนใช้ใบกะหล่ำปลีช่วยบรรเทาอาการเต้าคัด โดยนำกะหล่ำที่แช่เย็นหรือที่อุณหภูมิห้องมาตัดให้เป็นช่องสำหรับหัวนม และวางลงบนเต้านม โดยสวมไว้ในเสื้อชั้นใน คอยเปลี่ยนเป็นใบใหม่เมื่อใบเก่าเหี่ยวลง

  • เมื่อต้องกลับไปทำงาน พยายามปั๊มนมในเวลาเดียวกับที่ลูกเคยดูดนมที่บ้าน

  • พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบหมู่ และดื่มน้ำให้มากพอ นี่เป็นหลักการพื้นฐานสำคัญสำหรับคุณแม่ที่ปรารถนาความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทุกคน

  • สวมเสื้อชั้นในที่พอดี ไม่รัดเกินไป

  • หากมีอาการเต้านมคัดเกิน 2 วัน หลังจากพยายามรักษาด้วยตัวเองแล้ว ให้ปรึกษาคุณหมอ พยาบาล หรือที่ปรึกษาด้านนมแม่ตามโรงพยาบาลหรือคลินิกนมแม่ใกล้บ้าน

 

นมแม่ดีที่สุดโดยเฉพาะน้ำนมเหลืองที่มีแลคโตเฟอร์ริน


แลคโตเฟอร์ริน โปรตีนในนมแม่ที่จะพบได้มากที่สุดในน้ำนมเหลือง หรือน้ำนมระยะแรกที่จะไหลออกมาใน 1-3 วันแรกหลังคลอด ซึ่งทำหน้าที่ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา จึงช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย, MFGM เยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในน้ำนม ช่วยให้เซลล์ไขมันคงรูปอยู่ได้ในน้ำนม MFGM ประกอบด้วยสารอาหารต่างๆ เช่น โปรตีนต่างๆ และไขมันเชิงซ้อน ซึ่งล้วนแต่เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสมองเด็ก และมีดีเอชเอ กรดไขมันที่ช่วยพัฒนาสมองเด็กนั่นเอง

นมแม่ดีที่สุดโดยเฉพาะน้ำนมเหลืองที่มีแลคโตเฟอร์ริน