นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คัดเต้าเป็นก้อน ปั๊มไม่ออก อาการที่คุณแม่ให้นมไม่ควรมองข้าม

Enfa สรุปให้

  • อาการคัดเต้าเป็นก้อน ปั๊มไม่ออก มักเกิดจากการปล่อยน้ำนมค้างเต้าเป็นเวลานาน ลูกดูดไม่เกลี้ยง หรือตกรอบปั๊ม
  • ยาละลายท่อนมอุดตัน หรือ เลซิติน (Lecithin) เป็นสารที่ช่วยลดความหนืดของน้ำนม ทำให้น้ำนมไหลได้ดีขึ้น รับประทานวันละ 1,200 มก. วันละ 1-2 ครั้ง และลดปริมาณลงเมื่ออาการดีขึ้นได้ 
  • คัดเต้า แต่ปั๊มไม่ออก จำเป็นต้องรีบรักษาหรือควรไปพบแพทย์ หากไม่ดีขึ้น หรือปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป จากอาการคัดเต้าเป็นก้อน อาจรุนแรงมากขึ้นเป็นเต้านมอักเสบ และเป็นฝีเต้านม

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

อาการคัดเต้าเป็นก้อน หรือเต้านมคัดตึงเป็นก้อนแข็ง เป็นภาวะปกที่เกิดขึ้นได้ในเพศหญิง เช่น ช่วงก่อนมีประจำเดือน แต่สำหรับคุณแม่หรือว่าที่คุณแม่นั้นอาจพบอาการคัดเต้ารุนแรงกว่าตอนยังไม่ตั้งครรภ์ เนื่องจากเต้านมผลิตน้ำนมเตรียมพร้อมให้นมบุตร หากไม่ได้ให้นมลูกหรือไม่ได้ปั๊มออก อาจเกิดอาการคัดเต้า เต้าอักเสบ ท่อน้ำนมตันได้ ในบทความนี้ Enfa จะพาคุณแม่มาไขข้อข้องใจอาการคัดเต้าเป็นก้อน ปั๊มไม่ออกกันค่ะว่าเป็นอย่างไร

 


 

คัดเต้าเป็นก้อน ปั้มไม่ออก

อาการคัดเต้า เต้าเป็นก้อน ปั๊มไม่ออก คือ อาการที่เต้านมมีความแข็ง ตึง หรือปวด อันเนื่องมาจากการสะสมของน้ำนมหรือการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อในเต้านม อาการนี้สามารถเกิดได้ในหลายสถานการณ์ เช่น หลังคลอด การหยุดให้นม หรือจากฮอร์โมนผิดปกติ

ลักษณะอาการคัดเต้าเป็นก้อนที่พบได้บ่อย คือ เต้านมแข็งกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณลานนมหรือหัวนม มีอาการปวดหรือตึงที่เต้านม รู้สึกปวดหน่วงที่บริเวณเต้านม เต้านมอาจดูบวมแข็งหรือมีอาการแดงเหมือนอักเสบ บางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย ในคุณแม่ให้นมบุตรหัวนมอาจแข็งตึงมากกว่าปกติ ทำให้ทารกดูดนมได้ยาก

สาเหตุของของอาการเต้านมคัดเป็นก้อน อาจเกิดจากการที่เต้านมผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้นและมีการสะสมของน้ำนมทำให้ท่อน้ำนมอุดตัน หรืออาจเกิดจากฮอร์โมนผิดปกติ ซึ่งอาการเต้านมคัดยังเป็นภาวะที่เกิดขึ้นในผู้หญิงทั่วไปไม่ใช่เฉพาะคุณแม่ให้นมเท่านั้น ดังนั้น จึงอาจแยกสาเหตุได้ 2 ประเภท ดังนี้

 

  • เต้าแข็งเป็นก้อนเจ็บ มีลูก

อาการเต้าแข็งเป็นก้อนเจ็บในคุณแม่หลังคลอดนั้น มักมีสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการสะสมของน้ำนมในเต้านม โดยเฉพาะเมื่อทารกดูดนมไม่เกลี้ยง หรือท่อน้ำนมอุดตัน ทำให้เกิดก้อนแข็งในเต้านม มีอาการเจ็บและตึง ปวดบวม อักเสบ และคุณแม่อาจมีไข้ร่วมด้วย

 

  • เต้าแข็งเป็นก้อน ไม่มีลูก

ส่วนอาการเต้าแข็งเป็นก้อนในผู้หญิงที่ไม่มีลูกนั้น มักมีสาเหตุมาจากระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ก่อนมีประจำเดือน แต่กรณีนี้จะมีอาการเต้าคัดตึงไม่มาก ไม่มีอาการปวดหรือเจ็บบวมแดง และเป็นไม่นานก็หายไป

แต่หากมีอาการเต้าแข็งเป็นก่อนเจ็บรุนแรง ทั้งที่ไม่มีลูก เต้านมไม่มีการผลิตน้ำนม อาจเกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อในเต้านม รวมถึงการมีซีสต์หรือก้อนเนื้อ ควรไปพบแพทย์

 

เต้าแข็งเป็นก้อนเจ็บ คัดเต้าเป็นก้อน เกิดจากอะไร

สำหรับคุณแม่หลังคลอด 2-3 วัน จะมีฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดการผลิตน้ำนมมากขึ้น หากไม่สามารถระบายน้ำนมออกด้วยการให้ลูกดูดให้เกลี้ยงเต้าหรือปั๊มออก จะทำให้เกิดน้ำนมค้างเต้าเป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการเต้าแข็งเป็นก้อน คัดเต้าเป็นก้อน และเจ็บ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น

  • ท่าในการอุ้มเข้าเต้าไม่ถูกต้อง ทำให้ลูกไม่ดูด หรือดูดลำบาก
  • คุณแม่ให้ลูกดูดนมเพียงข้างเดียวและลูกดูดนมไม่เกลี้ยงเต้า
  • คุณแม่ปล่อยให้น้ำนมค้างอยู่ในเต้านมนาน (ตกรอบปั๊ม)
  • ใส่เสื้อชั้นในที่คับแน่นจนเกินไป ทำให้เกิดความไม่สบายตัว
  • คุณแม่การเคยมีภาวะเต้านมอักเสบจากการให้นมบุตรในอดีต
  • คุณแม่มีภาวะเครียด ทำให้การหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้น้ำนมไหลลดลง
  • คุณแม่รับประทานอาหารไม่เพียงพอ ขาดสารอาหาร
  • การสูบบุหรี่

เพื่อป้องกันการเกิดภาวะเต้านมคัด ท่อน้ำนมอุดตัน ที่อาจนำไปสู่ภาวะเต้านมอักเสบและเต้านมเป็นฝี คุณแม่ควรให้ลูกดูดนมเข้าเต้าอย่างถูกวิธีและให้ลูกดูดนมให้เกลี้ยงเต้า

หากไม่เกลี้ยงเต้าคุณแม่สามารถปั๊มนมออกหลังจากลูกดูดเสร็จหรือใช้มือบีบออกจนเกลี้ยงเต้า และควรปั๊มนมออกทุก 3 ชั่วโมง

นอกจากนี้ คุณแม่ควรผ่อนคลายความเครียดหรือวิตกกังวล พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมาก ๆ และไม่สวมเสื้อชั้นในรัดแน่นเกินไป

 

เต้าแข็งเป็นก้อนเจ็บ มีไข้

เมื่อคุณแม่มีอาการเต้านมคัดเป็นก้อนแล้วไม่ได้รับการแก้ไขและปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน น้ำนมจะข้นมากขึ้นทำให้ไปอุดตันท่อน้ำนมบางส่วน เมื่อท่อน้ำนมอุดตันน้ำนมที่สร้างขึ้นมาใหม่ก็ไม่สามารถระบายออกได้ ทำให้เกิดเป็นก้อนแข็งที่เต้านม กดเจ็บแต่ไม่อักเสบ อาการลักษณะนี้คือ ท่อน้ำนมอุดตัน

เมื่อท่อน้ำนมอุดตันแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธีอาจนำไปสู่ภาวะเต้านมอักเสบ ทำให้มีอาการอักเสบ ปวด บวมแดง เป็นก้อนแข็ง กดเจ็บ และอาจมีไข้ร่วมด้วย

สำหรับคุณแม่ที่เกิดคำถามว่าเต้าอักเสบรักษายังไง? คำตอบคือ ควรไปพบแพทย์ทันทีที่เริ่มมีอาการเต้านมอักเสบ เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาตามที่แพทย์แนะนำอย่างทันท่วงที โดยแพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะ หรือยาแก้ปวด พร้อมวิธีดูแลเต้านมที่เหมาะสมให้กับคุณแม่

เพราะถ้าหากคุณแม่เป็นเต้านมอักเสบแล้วยังปล่อยทิ้งไว้ ภาวะอักเสบดังกล่าวจะเกิดเป็นฝีหนองภายในได้ เรียกว่า เต้านมเป็นฝี กรณีนี้ต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อเจาะระบายหนองออก โดยที่คุณแม่ยังสามารถให้นมลูกจากเต้าข้างที่เป็นฝีได้ ยกเว้นมีอาการเจ็บมาก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเจ็บจนให้นมลูกไม่ได้ ก็ควรบีบน้ำนมออกไม่ให้คั่งค้างจนเกิดการอักเสบอีก

 

เต้าแข็งเป็นก้อน ไม่เจ็บ

อาการเต้าแข็งเป็นก้อน แต่ไม่เจ็บ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ โดยลักษณะนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการอักเสบหรือการติดเชื้อที่มีอาการปวดร่วมด้วย แต่ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีภาวะที่เป็นอันตรายซ่อนอยู่ โดยควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด

อย่างไรก็ตาม อาการเต้าแข็งเป็นก้อน แต่ไม่เจ็บ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • ท่อน้ำนมอุดตันบางจุด ทำให้ยังไม่ลุกลามถึงขั้นอักเสบ นวดเบา ๆ หรือประคบอุ่นแล้วอาจหายไป
  • ซีสต์ในเต้านม หรือการมีถุงน้ำที่เกิดขึ้นจากการสะสมของของเหลวในเนื้อเยื่อเต้านม อาจมีก้อนนิ่มหรือแข็งเล็กน้อย ขยับได้ ไม่มีอาการเจ็บ
  • เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง เกิดจากการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในเต้านมแบบผิดปกติ แต่ไม่ใช่มะเร็ง อาจเป็นก้อนแข็งเรียบเนียน ขยับได้ ไม่มีอาการเจ็บ
  • การสะสมไขมันในเต้านม ที่มาจากการบาดเจ็บ กระแทก อาจหายได้เอง
  • มะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น อาจมีก้อนแข็ง ไม่ขยับ และไม่มีอาการเจ็บ

หากมีภาวะเหล่านี้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กให้แน่ใจ ซึ่งวิธีการตรวจรักษาอาจทำได้โดยการตรวจเมมโมแกรม และอาจมีการเจาะตัวอย่างชิ้นเนื้อมาตรวจสอบ และติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง

 

เต้าแข็งเป็นก้อนเจ็บ วิธีแก้ทำอย่างไร

เมื่อคุณแม่เกิดอาการเต้าแข็งเป็นก้อนเจ็บ วิธีแก้เบื้องต้นคือหากมีอาการอักเสบปวด แดง ร้อน ควรประคบเย็น แต่หากไม่มีอาการอักเสบสามารถประคบอุ่นที่บริเวณเต้านม โดยหลีกเลี่ยงบริเวณหัวนม ใช้เทคนิคกด บีบ ปล่อย (press-compress-relax technique) เต้านมช่วยในขณะที่ลูกน้อยเข้าเต้าดูดนม หรือขณะที่ปั๊มนมเพื่อช่วยระบายน้ำนมออกให้เกลี้ยงเต้า และควรปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมงให้เกลี้ยงเต้า รวมถึงผ่อนคลายความตึงเครียด

หากคุณแม่มีอาการอักเสบมากคุณแม่ควรไปพบแพทย์หรือคลินิกนมแม่ โดยแพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะให้รับประทาน ร่วมกับการใช้ยาบรรเทาอาการปวด โดยคุณแม่ยังสามารถทำการให้นมบุตรต่อได้แม้ว่ามีอาการเต้านมอักเสบ

ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเต้านมอักเสบซ้ำอีก คุณแม่ควรปฏิบัติดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการการทิ้งน้ำนมล้นเต้าไว้เป็นระยะนาน ก่อนให้นมบุตรในครั้งต่อไป
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทารกดูดนมอย่างถูกวิธี
  • ทำการนวดเต้านมขณะที่ทำการปั๊มนม
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำนมระบายออกได้หมด ลูกดูดเกลี้ยงเต้า หรือปั๊มออกเกลี้ยงเต้า
  • เลือกป้อนนมลูกโดยใช้เต้านมข้างที่มีอาการคัดตึงก่อน
  • การปรับเปลี่ยนท่าให้นมบุตรให้เหมาะสม

 

ยาละลายท่อนมอุดตัน และวิธีใช้

ยาบรรเทาอาการท่อนมอุดตันที่นิยมกันคือ เลซิติน (Lecithin) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความหนืดของน้ำนม ทำให้น้ำนมไหลได้ดีขึ้น โดยคุณแม่สามารถรับประทานเลซิติน 1,200 มก. วันละ 1-2 ครั้ง และลดปริมาณลงเมื่ออาการดีขึ้นได้

ทั้งนี้ ต้องไม่หยุดให้นมลูกโดยเฉพาะข้างที่มีอาการท่อน้ำนมตัน เพราะการให้นมลูกหรือให้ลูกช่วยดูดกระตุ้น จะช่วยลดอาการท่อน้ำนมตันได้ดี

 

MFGM สารอาหารในนมแม่ เพื่อ IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก

ในช่วง 1,000 วันแรกของลูก เป็นช่วงเวลาสำคัญมากต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญา โดย 80% ของสมอง จะเติบโตสูงสุดในช่วง 2 ขวบปีแรก และ 90% จะเติบโตสูงสุดในช่วง 5 ปีแรก ด้วยเหตุนี้ โภชนาการในช่วง 1,000 วันแรกของลูกน้อย จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

โภชนาการที่ดีจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมองและการเรียนรู้ของลูกน้อย โดยคุณแม่สามารถเสริมสร้างโภชนาการที่ดีได้ด้วยการให้ลูกน้อยได้รับนมแม่ตั้งแต่ 6 เดือนแรก และให้นมแม่อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับอาหารตามวัยจนอายุ 2 ปี

เพราะในนมแม่มีสารอาหารสำคัญอย่าง MFGM หรือเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในนมแม่ ที่ประกอบด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกลงกลิโอไซต์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว เพื่อ IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก
 


บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ให้นมลูก

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama