Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
พัฒนาการทารก 5 เดือน เป็นช่วงวัยที่พัฒนาการด้านต่าง ๆ สามารถแสดงออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งพัฒนาการด้านร่างกาย การเคลื่อนไหว สติปัญญา และการเรียนรู้ พัฒนาการเด็ก 5 เดือน วัยนี้เริ่มที่จะมีปฏิกิริยาต่อสิ่งรอบข้างมากขึ้น อยากจะเล่น อยากจะสนุกกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น บทความนี้จาก Enfa จะพาคุณพ่อคุณแม่มาดูกันว่า เจ้าตัวเล็กวัย 5 เดือนนี้ มีอะไรให้ต้องคอยติดตามบ้างนะ
เมื่อเด็ก 5 เดือน ทารกก็จะมีรูปร่างที่ใหญ่ขึ้น น้ำหนักตัวมากขึ้น และมีพัฒนาการด้านต่าง ๆ แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม พัฒนาการเด็ก 5 เดือน แต่ละคนจะมีน้ำหนักและส่วนสูงที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ตามเกณฑ์ที่เหมาะสม แต่ก็มีบ้างบางกรณีที่ทารกวัย 5 เดือนมีน้ำหนักและส่วนสูงที่เกินมาตรฐานที่ควรจะเป็น
น้ำหนักของทารกวัย 5 เดือนนั้น สามารถแบ่งออกตามเพศโดยกำเนิดได้ดังนี้
ส่วนสูงของทารกวัย 5 เดือนนั้น สามารถแบ่งออกตามเพศโดยกำเนิดได้ดังนี้
เด็ก 5 เดือน ยังไม่ควรที่จะกินอาหารชนิดอื่น ๆ ค่ะ เพราะระบบทางเดินอาหารและระบบย่อยอาหารของทารกนั้นยังทำงานได้ไม่เต็มระบบ ดังนั้น แหล่งโภชนาการที่สำคัญที่สุดก็คือ นมแม่ และทารกควรจะได้กินนมแม่เพียงอย่างเดียวและต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน หรือนานสูงสุด 2 ปี
นมแม่ถือเป็นอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับทารกวัยแรกเกิด - 6 ซึ่งในนมแม่นั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญมากมายหลายชนิด ทั้งยังมีสารภูมิคุ้มกันที่มีส่วนช่วยให้ทารกแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่ายด้วย
โดยสารอาหารสำคัญที่พบได้ในนมแม่ เช่น
เมื่อทารกเริ่มโตขึ้น ปริมาณนมแม่ต่อออนซ์ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย แล้วแบบนี้ เด็ก 5 เดือนกินกี่ออนซ์กันนะ?
สำหรับปริมาณนมแม่ในแต่ละวันที่เหมาะสมกับเด็กทารกวัย 3 เดือนนั้น คุณแม่ควรจะต้องให้ทารกกินนมครั้งละ 6-7 ออนซ์ ในทุก ๆ 4-5 ชั่วโมง
เรื่องของการขับถ่าย ก็ถือเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องหมั่นสังเกตและเอาใจใส่อยู่เสมอนะคะ เพราะบางครั้งอุจจาระของทารกก็สามารถที่จะบอกถึงความผิดปกติได้เหมือนกัน
เจ้าหนูวัย 5 เดือนนั้นจะมีการขับถ่ายบ่อยมากขึ้น สังเกตได้ว่าผ้าอ้อมจะแฉะแทบทั้งวัน ต้องเปลี่ยนกันทุกชั่วโมง ส่วนจะกี่ครั้งต่อวันนั้น อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละคนค่ะ เด็กบางคนอาจจะอึ 2-3 ครั้ง เด็กบางคนอาจจะอึ 4-5 ครั้งต่อวัน หรืออาจจะ 2-3 วัน ถึงจะอึกทีหนึ่งก็มี
ตราบเท่าที่อุจจาระของทารกยังนิ่มอยู่ แม้ว่าจะ 2-3 วันถึงจะถ่ายออกมาสักที ก็ยังถือว่าปกติค่ะ อุจจาระที่ผิดปกติของทารกคือ อุจจระที่เป็นก้อนแข็ง แห้ง และเบ่งออกยาก
เด็กทารกที่กินนมแม่ จะมีอุจจาระเป็นสีเหลืองเข้มค่ะ ดังนั้น สีอุจจาระของทารกวัย 5 เดือน ก็จะเป็นสีเหลืองหรือสีเหลืองเข้มค่ะ เนื่องจากทารกในวัยนี้จะได้รับอาหารแค่เพียงนมแม่อย่างเดียวเท่านั้น
การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการที่สมบูรณ์และแข็งแรง จึงถือเป็นภารกิจสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องพาลูกน้อยเข้านอนให้เหมาะสม
สำหรับ พัฒนาการเด็ก 5 เดือน ควรจะนอนให้ได้ประมาณ 12-16 ชั่วโมงต่อวัน หรือประมาณ 14 ชั่วโมงต่อวัน แบ่งเป็นนอนตอนกลางวัน 4 ชั่วโมง และนอนตอนกลางคืนอีก 10 ชั่วโมง
เด็ก 5 เดือน มีพฤติกรรมและพัฒนาการตามวัยหลายอย่างที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกต บางอย่างอาจเป็นเรื่องปกติของพัฒนาการเด็กในวัยนี้ แต่บางอย่างก็อาจจะเป็นสัญญาณความผิดปกติที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยหรือรับการรักษา
ลูก 5 เดือนกลัวคนแปลกหน้า ถือเป็นอีกหนึ่ง พัฒนาการเด็ก 5 เดือน ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถจับสังเกตได้ชัดเจนมากค่ะ และถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ ด้วย เพราะเด็กในวัย 5-6 เดือน เริ่มที่จะจดจำคนรอบตัวได้บ้างแล้ว และเด็กก็ชอบที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ กับคนที่ตัวเองรู้สึกคุ้นเคย
ดังนั้น ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามเริ่มมีคนแปลกหน้ามาอุ้ม หรือเป็นคนที่เด็กไม่คุ้นมาก่อน ก็จะทำให้เด็กร้องไห้ ตกใจ หรือกลัวได้ค่ะ แต่อาการเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเด็กเริ่มโต หรือเริ่มได้ใกล้ชิดกับคนอื่น ๆ มากขึ้นค่ะ
ลูก 5 เดือนตื่นกลางคืนบ่อย ถือว่าเป็นเรื่องที่พบได้โดยทั่วไปสำหรับพัฒนาการทารก 5 เดือนค่ะ โดยสาเหตุนั้นก็ค่อนข้างที่จะหลากหลายนะคะ เด็กบางคนอาจจะตื่นกลางดึกบ่อยเพราะหิว เด็กบางคนอาจจะตื่นกลางดึกบ่อยเพราะฟันเริ่มจะขึ้น หรืออาจจะเป็นผลมาจากพฤติกรรมการนอนที่เปลี่ยนไป เช่น นอนตอนกลางวันเยอะเกิน ทำให้ไม่ค่อยง่วงนอนในตอนกลางคืน นอนไปได้ไม่นานก็ตื่น
เด็ก 5 เดือนไม่ร่าเริง มีอาการซึม ซึ่งอาจจะรวมไปถึงเริ่มมีอาการเบื่ออาหารด้วย สัญญาณเหล่านี้น่าจะมีอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นและทำให้เด็กรู้สึกไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว หากเด็กมีอาการในลักษณะดังกล่าว ไม่ว่าจะมีไข้ หรือไม่มีไข้ร่วมด้วย คุณพ่อคุณแม่ก็ควรหาเวลาพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยไว้ก่อนจะดีกว่าค่ะ
ลูก 5 เดือนคอไม่แข็ง ยังชันคอไม่ได้ ไม่ต้องตกใจไปค่ะคุณพ่อคุณแม่ขา เด็กทารกจะเริ่มคอแข็ง และตั้งคอขึ้นตรงได้เมื่ออายุ 4 เดือนขึ้นไปค่ะ และอย่างช้าสุดก็ประมาณ 7-9 เดือน ดังนั้น หากเจ้าตัวเล็กอายุ 5 เดือนแล้วคอยังไม่แข็ง ยังชันคอไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ หากว่าพ้น 9 เดือนไปแล้วลูกยังไม่สามารถชันคอได้ ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันทีค่ะ
สำหรับลูกน้อยวัยทารกอายุ 5 เดือน วัยนี้เป็นวัยแห่งการเรียนรู้ที่จะรู้จักตัวเองและสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เราจะเห็นพัฒนาการเด็ก 5 เดือนของทารกที่หลากหลายขึ้น เช่น ทุก ๆ เช้าหลังจากตื่นนอน ลูกน้อยจะไม่อยู่นิ่ง เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้าง หรือแม้กระทั่งส่งเสียงเรียกร้อง ทักทายกับคุณแม่
โดยพัฒนาการทารก 5 เดือน หลัก ๆ ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน มีดังนี้
• พัฒนาการของเด็กทารกอายุ 5 เดือน ที่เห็นได้ชัดคือ เขาจะเริ่มเรียนรู้ว่าตัวเองเป็นคนละส่วนกับสิ่งแวดล้อม จึงสนใจที่จะทำความรู้จักกับตัวเองมากขึ้น สังเกตได้จากการดูดนิ้ว การจ้องมองมือตัวเอง ควบคู่ไปกับการเรียนรู้สิ่งรอบตัวมากขึ้น เช่น การจับสัมผัสสิ่งของรอบตัว เมื่อหยิบได้ก็ทดลองเขย่า ตี บีบ แล้วสุดท้ายก็เอาเข้าปาก เลีย อม กัด ซึ่งการเรียนรู้ด้วยปากเป็นหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้ของลูกวัยนี้
• การได้จับสัมผัสสิ่งของหรือของเล่นเด็กแรกเกิด ช่วยให้ลูกเรียนรู้เรื่องการมีอยู่ และการหายไป เมื่อทำของหล่นเขาจะรีบมองหาที่พื้น ไม่ใช่มองที่มือเหมือนเดือนก่อน ๆ
• สามารถจำการกระทำของตัวเองที่เพิ่งผ่านไปได้ และจำสิ่งของคล้าย ๆ กันได้ เช่น ของเล่นสองชิ้นที่มีลักษณะกลม ๆ เหมือนกัน
• สามารถแยกแยะระหว่างพ่อแม่กับคนแปลกหน้าได้
• ในเดือนนี้จะเริ่มไม่อยู่นิ่ง เพราะเรียนรู้ที่จะเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระ สังเกตได้จากเวลาที่ตื่นนอน ลูกจะยุกยิก ถีบแข้งขา บางครั้งพลิกคว่ำ พลิกหงาย กลิ้งไปกลิ้งมา หรือไม่ก็เล่นกับมือน้อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน หรือแหงนคอมองหาคุณแม่พร้อมทั้งส่งเสียงร้อง
• ยังนั่งได้ไม่ดีและยังต้องมีเบาะพิงหลังอยู่ แต่นั่งได้นาน และมั่นคงกว่าเดือนก่อนมาก
• ขณะนั่งยังสามารถคว้าของเล่นมาเล่นได้ด้วย เนื่องจากตากับมือทำงานประสานกันได้ดีขึ้น หยิบจับของต่า งๆ ได้แม่นยำมากขึ้น
• พยายามใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ในการหยิบของมากขึ้น
• เวลาเล่น สามารถถือ หรือเขย่าของเล่นได้ทั้งสองมือ รวมทั้งย้ายของจากมือหนึ่งไปยังอีกมือหนึ่งได้
• เริ่มสนใจมองปากคุณแม่ เวลาที่คุณแม่พูดคุยและพยายามเลียนแบบ ทำเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ บางครั้งเสียงที่ออกมาเหมือนเสียงพยัญชนะ ม หรือ ป เช่น มะ ปะ
• เข้าใจชื่อคนและสิ่งของต่าง ๆ ที่คุณแม่เรียกหรือพูดให้ฟังเป็นประจำ ดังนั้นควรพูดคุยกับลูกน้อยบ่อย ๆ เรียกชื่อสิ่งของต่าง ๆ ให้ลูกฟัง ลูกจะจดจำคำศัพท์เหล่านั้นไว้ เมื่อถึงวัยที่พูดได้เขาก็จะพรั่งพรูมันออกมา
• เด็ก 5 เดือน เรียนรู้ว่าวิธีการส่งเสียงหมายถึงการสื่อสารกับคนอื่น ๆ คุณแม่จึงควรหาเสียงอื่น ๆ มาให้ลูกฟัง เช่น เสียงดนตรี เสียงสัตว์ต่าง ๆ เสียงโทรศัพท์ เพื่อให้ลูกเรียนรู้ความแตกต่างของเสียง
• เด็กวัยหัดคว่ำหัดคลานอาจเครียดกับอาการเงอะ ๆ งะ ๆ ของตัวเองได้ ดังนั้นคุณแม่ควรช่วยลูกให้เรียนรู้วิธีคว่ำ คืบ คลานที่ถูกวิธี
• แสดงความรู้สึกหงุดหงิดเมื่อไม่สามารถหยิบจับของเล่นที่อยู่ไกลออกไปได้ หรือเวลาที่เขาจะนำของเล่นเข้าปากแล้วถูกคุณแม่ห้าม ทางที่ดีควรหาของเล่นที่ปลอดภัยสามารถเอาเข้าปากได้ เช่น ยางกัด เพื่อไม่ขัดจังหวะการเรียนรู้ของลูก
• มักแสดงอาการดีใจออกมาอย่างชัดเจน เมื่อเห็นพ่อหรือแม่เข้ามาใกล้ แต่จะตรงกันข้ามกันทันทีเมื่อมีคนแปลกหน้ามาใกล้
พัฒนาการเด็ก 5 เดือน แต่ละด้านของลูกน้อย นอกจากจะเป็นพัฒนาการที่เกิดขึ้นตามช่วงวัยแล้ว การกระตุ้นพัฒนาการยังเป็นช่วยสำคัญที่จะทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ดังนั้นคุณแม่ และคุณพ่อควรหมั่นเสริมสร้างพัฒนาการด้วยกิจกรรมด้านต่าง ๆ นอกจากจะช่วยเรื่องพัฒนาการแล้ว ยังสร้างสายใยผูกพันในครอบครัวได้อีกด้วย
เพื่อให้เด็ก 5 เดือน มีพัฒนาการที่สมบูรณ์ แข็งแรง และสมวัย คุณพ่อคุณแม่สามารถเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของลูกได้ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ทุกวัน ดังนี้
เสียงที่ดีส่งผลต่อการเรียนรู้ของลูก
เราทราบดีว่าเด็กเกิดมาพร้อมเซลล์สมองแสนล้านเซลล์ ที่กำลังรอการเชื่อมต่อกัน เพื่อนำเข้า ส่งต่อ และบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ทุกครั้งที่เด็กถูกกระตุ้นให้คิด จุดเชื่อมต่อที่เกิดขึ้นหรือที่มีอยู่แล้วก็แข็งแรงขึ้น ถ้าจุดเชื่อมต่อสมองก็จะเหี่ยวเฉาตายไปได้เช่นกัน ดังนั้น การที่เด็กได้รับการกระตุ้น ผ่านประสาทสัมผัสต่าง ๆ จะช่วยส่งเสริมการทำงานของสมองได้ โดยเฉพาะกระตุ้นผ่าน ‘เสียง’ ซึ่งอาจจะเป็นเสียงของคุณแม่คุณพ่อ เสียงดนตรี หรือเสียงจากธรรมชาติรอบตัว ล้วนส่งผลต่อการทำงานของสมองลูกทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม เสียงไม่เพียงส่งผลต่อทารกในยามตื่นเท่านั้น หากแม้ในยามหลับ เสียงก็ยังส่งผลต่อการทำงานของสมองเด็ก 5 เดือนด้วยเช่นกัน ดังเช่น การวิจัยชิ้นหนึ่งของมหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ ประเทศอังกฤษ ที่ได้ลองใช้เครื่องเอ็กซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กศึกษาปฏิกิริยาของสมองทารกที่หลับอยู่กับเสียงโดยรอบ ในทารกที่เพิ่งเกิดมาได้ 3-7 เดือน โดยไม่ไปรบกวนจนตื่นขึ้นมา พบว่า สมองหลายส่วนของทารกแสดงปฏิกิริยาต่อเสียงต่าง ๆ แบบเดียวกับสมองของผู้ใหญ่ในยามตื่น โดยเฉพาะเสียงที่แสดงอารมณ์ออกมาด้วย เช่น เสียงหัวเราะ หรือร้องไห้ ที่พบว่าปฏิกิริยาโต้ตอบจะยิ่งแรงขึ้น
สิ่งที่เราต้องใส่ใจมากขึ้นเพื่อเสริมพัฒนาการทารก 5 เดือน คือ คุณภาพของเสียงที่ลูกควรเป็นเสียงที่ดี เช่น เสียงเพลงกล่อมลูกของคุณแม่ เสียงจากการชวนลูกพูดคุยด้วยความรักของคุณแม่ หรือหากจะใช้เสียงเพลงก็อาจเลือกเพลงกล่อมเด็ก (Lullaby) ที่มีทำนองช้า ไม่เร็วหรือมีจังหวะถี่กระแทก มาเปิดให้ลูกฟังได้ รวมทั้งของเล่นมีเสียง เช่น ช้อนไม้เคาะกับสิ่งของทำให้เกิดเสียง ฝึกให้ลูกหันซ้าย-ขวาไปตามต้นเสียง เป็นการกระตุ้น พัฒนาการเด็ก 5 เดือน การทำงานของสมองได้ดี
ออกกำลังกล้ามเนื้อคอและหลังให้ลูกน้อย
หากเด็ก 5 เดือนมีกล้ามเนื้อคอและหลังที่แข็งแรง จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของพัฒนาการเด็ก 5 เดือนทางด้านร่างกายของเขา ซึ่งจะส่งผลให้ลูกสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ดีและคล่องแคล่วต่อไป ...แทนที่จะปล่อยให้ลูกนอนเล่นตามลำพังมาออกกำลังกายกล้ามเนื้อคอและหลังให้เขากันค่ะ
ช่วงวัยนี้ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมีมากขึ้น พัฒนาการเด็ก 5 เดือนจึงสามารถพลิกคว่ำ พลิกหงาย ใช้มือไขว่คว้าสิ่งของต่าง ๆ จึงควรส่งเสริมพัฒนาการลูก โดย...
นอกจากจะพาลูกออกกำลังอย่างสม่ำเสมอแล้ว คุณแม่อย่าลืมเสริมพัฒนาการทารก 5 เดือนในด้านอารมณ์ โดยการสร้างบรรยากาศให้ลูกเพลิดเพลินและสนุกสนานกับการออกกำลังครั้งนี้ด้วยนะคะ
Baby Talk พัฒนาภาษาและการสื่อสารของลูก
เด็ก 5 เดือน มีพัฒนาการทางภาษาเริ่มพัฒนามากขึ้น เขากำลังเริ่มส่งเสียงแบบที่ฝรั่งเรียกว่า Babble คือส่งเสียงอ้อแอ้ ๆ อู ๆ อา ๆ โต้ตอบเวลาคุณพ่อคุณแม่คุยด้วย หรือเรียกว่า Baby Talk และพัฒนาการเด็ก 5 เดือนเริ่มจะส่งเสียง สนใจ โต้ตอบ สื่อสารกับคุณพ่อคุณแม่อย่างจริง ๆ จัง ๆ แล้ว ดังนั้นคุณแม่จึงไม่ควรมองข้ามการชวนคุยหรือ Baby Talk ของลูก
นี่เป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการทารก 5 เดือน ทั้งด้านภาษาและการสื่อสารของเขา เพื่อให้พัฒนาการด้านภาษาของเขาเป็นไปอย่างสมวัย ไม่เกิดปัญหาพัฒนาการทางภาษาล่าช้า ซึ่งทำได้โดย...
คุณพ่อคุณแม่พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ พยักเพยิดเล่าเรื่อง ชวนคุยเรื่องต่างๆ ใกล้ตัวไป โดยใช้ภาษาที่ง่าย ๆ ชัดเจน (ไม่ต้องอือ ๆ อา ๆ ตามลูกนะคะ) มองหน้า สบตาลูกขณะพูดกับเขา ไม่ปล่อยให้เด็ก 5 เดือนนอนเล่นคนเดียว มองนั่น มองนี่อย่างเหงา ๆ ตามลำพัง
อ่านหนังสือนิทานสำหรับเด็กที่มีเนื้อหาสั้น ๆ ให้ลูกฟัง เป็นการกระตุ้นพัฒนาการทารก 5 เดือนและปลูกฝังให้ทารกคุ้นเคยและสนุกกับการฟังและอ่านนิทานเมื่อโตขึ้น โดยอ่านนิทานด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น สนุกสนาน และผ่อนคลาย
หาของเล่นมาชวนลูกพูดคุย เช่น เป็ดบีบมีเสียง แล้วบอกลูกถึงสีสัน คำศัพท์ และทำเสียงปี๊บปี๊บประกอบ แล้วคุณแม่จะทึ่งที่เห็นลูกพยายามทำเสียงเหล่านี้ตามเมื่อเรานำเป็ดมาเล่นกับเขาในครั้งต่อ ๆ ไป
เลียนเสียงลูก ช่วยความฉลาดทางอารมณ์
เมื่อเด็ก 5 เดือนเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้ ๆ ฮือ ๆ อา ๆ อยู่ในลำคอออกมา คุณแม่เองควรตอบสนองเสียงของลูก ด้วยการยื่นหน้าไปใกล้ ๆ ยิ้มให้ และทำเสียงล้อเลียนกับที่เขาทำ พร้อมทั้งเอามือลูบที่หน้าท้องของลูก เขาจะรู้สึกพึงพอใจที่คุณแม่สื่อสารตอบกลับมา และจะยิ่งทำเสียงในลำคอมากขึ้น เพื่อสื่อสารกับคุณแม่
ถ้าคุณแม่ได้เลียนเสียงลูกน้อยบ่อย ๆ พร้อมกับแสดงความพึงพอใจในเสียงที่ลูกเปล่งออกมา ก็จะยิ่งทำให้ลูกน้อยเรียนรู้การพูดได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งความรู้สึกพอใจของคุณแม่นี้จะแฝงไปกับน้ำเสียงที่คุณแม่เปล่งออกมาเช่นเดียวกัน หรือคุณแม่อาจแสดงออกด้วยการกอดรัด และยิ้มให้ ซึ่งลูกน้อยสามารถรับรู้ได้จากสัญชาตญาณของเขาเองค่ะ
วิธีการเลียนเสียงลูกเช่นนี้ ทำให้ลูกเกิดความสนใจ และมีความสนุกสนาน ทำให้คุณแม่กับลูกน้อยมีความใกล้ชิดกัน และเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาการเด็ก 5 เดือน ทางด้านภาษาของเด็ก นอกจากนี้การที่คุณแม่ช่วยตอบสนองความต้องการทางด้านอารมณ์ของลูกแบบนี้ จะช่วยทำให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี มีความสุข ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญยิ่งของการปรับตัวทางด้านอารมณ์ของเขาในอนาคต
เด็กวัย 5 เดือน เริ่มที่จะใช้เวลาในการเล่นมากกว่าการนอนแล้ว ดังนั้น ของเล่นเด็ก 5 เดือน จึงถือว่ามีส่วนช่วยสำคัญที่จะช่วยให้เด็ก ๆ ได้ฝึกพัฒนาการด้านต่าง ๆ ไปในตัว
โดยของเล่นพัฒนาการเด็ก 5 เดือน ที่เหมาะสมตามวัย ได้แก่ของเล่นจำพวก
ตารางการเลี้ยงลูนั้นนั้น อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว แต่โดยพื้นฐานสำหรับเด็กทารกวัย 5 เดือนนั้น ก็จะไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่นักค่ะ เน้นสำคัญอยู่ที่กินให้พอ นอนให้พอ เพื่อให้พัฒนาการเด็ก 5 เดือน แข็งแรงและสมวัย
หากคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกกินนมตามปกติ แต่พบว่าลูกมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยว่าเกิดความผิดปกติใด ๆ หรือไม่
เด็ก 5 เดือนกรี๊ด ถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ การที่เด็กกรี๊ดนั้นถือเป็นกระบวนการสื่อสารอย่างหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าเด็กยังไม่สามารถที่จะพูด หรือควบคุมการออกเสียงของตนเองได้ พัฒนาการเด็ก 5 เดือน ไม่รู้จักการควบคุมอารมณ์ออกมา ดังนั้น วิธีที่ง่ายที่สุดที่เด็กจะสามารถพยายามสื่อสารเป็นภาษาของตัวเองออกมาได้ ก็คือการเปล่งเสียงกรี๊ดออกมานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะต้องคอยเช็กดูด้วยว่าลูกกรี๊ดเพราะมีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่า เช่น มีแมลงสัตว์กัดต่อย หรือบาดเจ็บตรงไหนไหม
มากไปกว่านั้น พยายามไม่ปรากฎตัวเวลาที่ลูกกรี๊ดเร็วเกินไป บางครั้งเด็กสามารถที่จะหยุดกรี๊ดได้ก่อนที่พ่อแม่จะมาถึง การปรากฎตัวทันทีที่ลูกกรี๊ดในทุกครั้ง อาจจะเป็นการปลูกฝังนิสัยการเรียกร้องความสนใจได้ค่ะ เพราะเด็กก็จะซึมซับว่า ถ้ากรี๊ดแล้วพ่อแม่จะมาหา
เด็ก 5 เดือนมักจะมีการขับถ่ายบ่อย ทั้งปัสสาวะและอุจจาระ บางวันอาจจะต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมแทบจะทุกชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าทารกไม่ค่อยฉี่หลายชั่วโมงติดกัน หรือปัสสาวะขาดช่วง ไม่ต่อเนื่อง ให้พาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นว่าลูกมีความผิดปกติเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ หรืออวัยวะอื่น ๆ ในระบบทางเดินปัสสาวะหรือไม่
ทารกวัย 5 เดือนอาจจะถ่ายทุกวัน หรือ 3-4 วันถ่ายครั้งหนึ่ง ยังไม่ถือว่าผิดปกติอะไรค่ะ หากว่าอุจจาระที่ออกมานั้นยังนิ่มอยู่ แต่ถ้าหากทารกไม่ถ่ายเลย 1 สัปดาห์ขึ้นไป หรือถ่ายออกมาแล้วอุจจาระที่ออกมามีความแข็ง หรือเบ่งออกยาก ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ค่ะ
ทารกจะเริ่มคว่ำได้ตอนอายุ 4-6 เดือนค่ะ ดังนั้น พัฒนาการเด็ก 5 เดือน บางคนอาจจะยังไม่เริ่มคว่ำ แต่ไปเริ่มคว่ำเอาเมื่อเข้าเดือนที่ 6 ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าพ้นจาก 6-7 เดือนไปแล้วทารกยังไม่เริ่มคว่ำอีก ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ทันทีค่ะ
เด็กทารกงอแง ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ บางครั้งเด็กก็อาจจะร้องไห้งอแงเพราะหิว หรือไม่สบายตัว อากาศที่ร้อนไป เย็นไป หรือแมลงสัตว์กัดต่อย กินนมเยอะมากจนเกินไป การนอนคว่ำหน้าลง และอาการไม่สบายตัวต่าง ๆ ก็สามารถให้ทารกร้องไห้งอแงได้
หรือบางครั้งเด็กอาจจะร้องไห้งอแงเพื่อเรียกร้องความสนใจ คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องฝืนใจสักหน่อย ไม่ปรากฎตัวไปทันที เพราะบางครั้งเด็กอาจจะหยุดงอแง และเลิกร้องไห้ไปเอง
อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาการงอแงของทารกก็อาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนหัวค่ำ หรือกลางคืน แม้ว่าจะให้กินนมแล้ว หรือพยายามแก้ไขหลายวิธีก็แล้ว ทารกก็ยังงอแงอยู่ ต้องใช้เวลาปลอบนานกว่าปกติ กรณีเช่นนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าทารกมีอาการโคลิคค่ะ ซึ่งโคลิคก็ไม่ถือว่าเป็นปัญที่ร้ายแรงนะคะ เมื่อทารกเริ่มโตขึ้นอาการก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองได้ค่ะ
หากทารกมีน้ำหนักตัวน้อย สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะทำก่อนที่จะเริ่มหาวิธีเพิ่มน้ำหนักให้ลูก คือควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยดูก่อนค่ะ ว่าพัฒนาการเด็ก 5 เดือนมีความผิดปกติใด ๆ อยู่หรือไม่
บางครั้งปัญหาอาจมาจากคุณแม่กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทำให้ร่างกายมีสารอาหารน้อย ทารกที่กินนมแม่ ก็พลอยได้รับสารอาหารน้อยไปด้วย อาจจะต้องเริ่มจากการที่คุณแม่กินอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้พัฒนาการเด็ก 5 เดือนได้รับสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้เติบโตแข็งแรง หรือแพทย์อาจจะแนะนำให้มีการให้นมเสริม เพื่อช่วยให้พัฒนาการทารก 5 เดือนได้รับปริมาณแคลอรีที่จำเป็นเพิ่มขึ้นด้วย
Enfa สรุปให้: ทารกเพศชายวัย 6 เดือน หนักประมาณ 7.9 กิโลกรัม สูงประมาณ 67.6 เซนติเมตร ทารกเพศหญิ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้: ทารกเพศชายวัย 7 เดือน หนักประมาณ 8.3 กิโลกรัม สูงประมาณ 69.2 เซนติเมตร ทารกเพศหญิ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้: ทารกเพศชายวัย 10 เดือน หนักประมาณ 9.2 กิโลกรัม สูงประมาณ 73.3 เซนติเมตร ทารกเพศหญ...
อ่านต่อ