Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ตลอดการตั้งครรภ์ 9 เดือน หรือราว ๆ 36-37 สัปดาห์ มีการเปลี่ยนแปลงภายในท้องของคุณแม่อยู่ตลอดเวลา จากตัวอ่อนตัวน้อย ๆ พัฒนาขึ้นมาเป็นทารกเต็มวัย Enfa จะพาคุณแม่ ๆ มารีแคปพัฒนาการทารกในครรภ์ ตั้งแต่สัปดาห์แรกไปจนถึงกำหนดคลอดกันค่ะ มาไล่เช็กลิสต์ดูกันว่า ในแต่ละสัปดาห์นั้น พัฒนาการทารกในครรภ์ 1-9 เดือนเป็นอย่างไรบ้างนะ
พัฒนาการทารกในครรภ์ ไม่ได้เพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อคุณแม่ตรวจพบการตั้งครรภ์นะคะ แต่จะเริ่มกระบวนการทันทีหลังจากที่พ่อกับแม่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันในวันไข่ตกและมีการปฏิสนธิเกิดขึ้น
เมื่อไข่ที่ปฏิสนธิแล้วได้ย้ายมาฝังตัวที่โพรงมดลูก ก็จะค่อย ๆ พัฒนาเซลล์เป็นตัวอ่อน เริ่มสร้างระบบร่างกายและอวัยวะทีละน้อย จนกระทั่งระบบทุกอย่างสมบูรณ์พร้อมที่จะลืมตาออกมาดูโลก พัฒนาการทารกในครรภ์นี้จะใช้เวลาราว ๆ 37-40 สัปดาห์โดยประมาณ
ซึ่งหากทารกไม่ได้เกิดความผิดปกติใด ๆ ขณะอยู่ในครรภ์ พัฒนาการทารกในครรภ์ 1-40 สัปดาห์ จะค่อย ๆ เป็นไปตามลำดับอายุครรภ์อย่างที่ควรจะเป็น เริ่มมีแขนขา มีดวงตา เริ่มดิ้นได้ เริ่มหัวใจเต้น เริ่มตรวจพบเพศ ไปจนถึงพร้อมที่จะคลอดออกมาดูโลก
พัฒนาการทารกในครรภ์ 1-40 สัปดาห์ จะมีลำดับพัฒนาการเจริญเติบโตเริ่มต้นตั้งแต่การปฏิสนธิ ไล่ไปจนถึงกำหนดคลอดของทารก พร้อมกับรูปพัฒนาการทารกในครรภ์ 1-40 สัปดาห์ ดังนี้
พัฒนาการทารกในครรภ์ในสัปดาห์แรก ร่างกายของคุณแม่เริ่มปล่อยฮอร์โมนออกมาที่เยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อเตรียมมดลูกให้พร้อมสำหรับการฝังตัวอ่อน
ท้อง 2 สัปดาห์ ลูกอยู่ตรงไหน รังไข่จะเข้าสู่กระบวนการตกไข่ ปล่อยไข่ที่สุกแล้วหนึ่งใบออกมาเพื่อพบกับอสุจิและเกิดการปฏิสนธิ
หากโชคดี ทุกอย่างลงตัว ในที่สุดไข่กับอสุจิก็ได้มาพบกัน เกิดการปฏิสนธิกัน ไข่กับอสุจิเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน และเริ่มสร้างไซโกต มดลูกเริ่มปล่อยฮอร์โมน hCG หรือฮอร์โมนการตั้งครรภ์ออกมา
ตัวอ่อนกลายเป็นเอ็มบริโอและฝังตัวลงในเยื่อบุมดลูก พร้อมกับเริ่มกระบวนการสร้างถุงน้ำคร่ำและรก ด้านการมองเห็นของทารก 1 เดือน ยังไม่มีพัฒนาการในช่วงนี้
สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เมื่อเข้าเดือนที่สอง ตัวอ่อนเริ่มมีการสร้างไขสันหลัง กล้ามเนื้อ เส้นประสาท หลอดหัวใจเริ่มมีการเต้นเล็กน้อย และระบบไหลเวียนโลหิตก็เริ่มก่อตัวขึ้นด้วยเช่นกัน ในสัปดาห์นี้ตัวอ่อนจะมีลักษณะคล้ายกับลูกอ๊อด
ดวงตา แขน และขาขนาดเล็ก ๆ เริ่มมีการก่อตัวขึ้น เซลล์เม็ดเลือดและระบบการไหลเวียนโลหิตเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง หู ตา และปากก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นทีละน้อย
สัปดาห์นี้ตัวอ่อนมีขนาดใหญ่ขึ้น มองดูคล้ายลูกอ๊อดตัวใหญ่ หรือม้าน้ำเพราะตัวอ่อนในระยะนี้ยังมีหางอยู่ กระดูกและอวัยวะเพศเริ่มก่อตัว มีมือและเท้าเล็ก ๆ คล้ายไม้พายเริ่มงอกออกมา
ตัวอ่อนเริ่มมีการเคลื่อนไหวได้บ้างแล้ว แต่คุณแม่จะยังไม่สามารถสัมผัสถึงความรู้สึกนั้นได้ โดยระบบอวัยวะและระบบร่างกายหลัก ๆ ถูกสร้างขึ้นจนเกือบครบแล้ว สายสะดือพัฒนาจนสมบูรณ์พร้อมที่จะลำเลียงออกซิเจนและเลือดไปยังตัวอ่อน
เริ่มมีการสร้างระบบกล้ามเนื้อ ฟัน ต่อมรับรส และติ่งหู ขณะที่ระบบหัวใจก็เริ่มเต้นมากขึ้น และหางของตัวอ่อนค่อย ๆ หายไป นี่คือ พัฒนาการเด็กในครรภ์สัปดาห์ที่เก้า
แขน มือ เท้า นิ้วมือ นิ้วเท้า สร้างเสร็จอย่างสมบูรณ์ ไม่มีพังผืดติดกันอีกต่อไป แขนขาสามารถโค้งงอได้ เริ่มมีการสร้างเล็บเกิดขึ้น
ขณะเดียวกันในสัปดาห์นี้ ทารกก็สามารถจับและดูดนิ้วมือได้ พร้อมทั้งเริ่มมีลายนิ้วมือปรากฎขึ้น
พัฒนาการทารกในครรภ์ในสัปดาห์นี้มีรูปร่างที่เกือบจะสมบูรณ์คล้ายกับทารกเต็มวัยแล้ว โครงหน้าเริ่มชัดขึ้น และเริ่มมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น แต่คุณแม่จะยังไม่สามารถสัมผัสการดิ้นของลูกได้ในตอนนี้
ระบบอวัยวะ แขน ขา กล้ามเนื้อ ถูกสร้างขึ้นมาหมดแล้ว และจะพัฒนาต่อไปจนสมบูรณ์ ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย ระบบกรองของเสีย เริ่มทำงาน ทารกเริ่มมีการปัสสาวะและดื่มน้ำคร่ำ
ศีรษะของทารกมีขนาดใหญ่ขึ้น เส้นเสียงเริ่มก่อตัวขึ้น นิ้วมือของทารกเริ่มมีลายนิ้วมือปรากฎมากขึ้น เริ่มมองเห็นเส้นเลือดและอวัยวะเพศของทารกได้ชัดเจน
ผิวหนังของทารกเริ่มหนาขึ้น ขนเส้นเล็ก ๆ เริ่มยาวขึ้น ลายนิ้วมือเริ่มชัดขึ้น อวัยวะเพศภายนอกพัฒนาจนสมบูรณ์
อวัยวะบางส่วน เช่น ลำไส้และหู กำลังเคลื่อนไปยังตำแหน่งถาวร ปอดเริ่มพัฒนาขึ้น และทารกในครรภ์ก็เริ่มฝึกหายใจโดยใช้น้ำคร่ำ เปลือกตาของทารกยังคงปิดอยู่ แต่สามารถสัมผัสได้ถึงแสงสว่าง หากคุณแม่ส่องไฟฉายไปที่ท้อง
ทารกเริ่มมีริมฝีปาก และหูพัฒนาจนสมบูรณ์สามารถที่จะได้ยินเสียงต่าง ๆ แล้ว ศีรษะของทารกเริ่มตั้งตรง ขณะที่หูค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งถาวร
ทารกเริ่มผลิตไขมันขึ้น เริ่มมีการผลิตไขสีขาวปกคลุมร่างกาย และรักษาความชุ่มชื้นของผิว สายสะดือหนาขึ้น แข็งแรงขึ้น ส่วนกระดูกและข้อต่อก็เริ่มที่จะแข็งตัวมากขึ้น ไม่ใช่กระดูกอ่อนอีกต่อไป
ร่างกายของทารกปกคลุมไปด้วยขนอ่อน ที่ช่วยปกป้องผิวหนัง และสร้างความอบอุ่นให้แก่ทารก ขณะเดียวกันทารกก็สามารถที่จะเคลื่อนไหวไปมาได้มากขึ้น และสามารถได้ยินเสียงจากภายนอกชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย คุณพ่อคุณแม่สามารถพูดคุยหรือเปิดเพลงให้ลูกฟังได้บ่อย ๆ
ประสาทสัมผัสของทารกพัฒนาได้ดีขึ้น สามารถได้ยินเสียงจากภายนอกได้ชัดเจน และสัมผัสได้ถึงแสงที่สว่างจ้าจากภายนอกด้วย ขณะเดียวกันก็เริ่มที่จะดิ้นบ่อยขึ้น มีการเตะ และต่อยที่ท้องคุณแม่ถี่ขึ้น
ระบบประสาทสัมผัสทั้ง 5 เริ่มพัฒนาขึ้น เล็บเริ่มยาวไปจนถึงปลายนิ้ว ระบบย่อยอาหารเริ่มทำการผลิตขี้เทา ซึ่งจะกลายมาเป็นอุจจาระครั้งแรกของทารกหลังคลอด
พัฒนาการเด็กในครรภ์ในสัปดาห์นี้ไขกระดูกเริ่มทำการผลิตเซลล์เม็ดเลือด แขนและขาของทารกทำงานประสานกันได้ดีขึ้น จึงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เริ่มเตะท้องแรงขึ้น ดิ้นแรงขึ้น
ทารกมีลักษณะที่คล้ายกับทารกแรกเกิดมาก ลักษณะต่าง ๆ บนใบหน้าปรากฎชัดเจนขึ้น ทั้งริมฝีปากและคิ้ว ขณะเดียวกันทักษะการหยิบจับของทารกก็เริ่มพัฒนามากขึ้น เริ่มมีการจับสายสะดือ สามารถสัมผัสกับหู หรือเอามือมาปิดหน้าของตนเองได้
หูของทารกรับเสียงได้ดีขึ้น ร่างกายผลิตไขมันออกมาสร้างความอบอุ่นมากขึ้น ในสัปดาห์นี้ ถือว่าระบบต่าง ๆ ของทารกอยู่ในระดับที่พร้อมทำงานแล้ว หากมีการคลอดก่อนกำหนดเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ทารกสามารถที่จะรอดชีวิตได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์
ทารกมีขนาดตัวที่ยาวมากขึ้น และปอดก็ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังไม่พร้อมที่จะทำงานนอกมดลูก
ระบบประสาทของทารกพัฒนาขึ้นมาก ทารกเริ่มผลิตไขมันออกมาเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวหนังของทารกเริ่มปรากฎรอยเหี่ยวย่น ซึ่งทำให้มีลักษณะที่คล้ายกับทารกแรกเกิดมากขึ้น
ทารกเริ่มสร้างเมลานิน ทำให้ผิวหนัง ดวงตา เริ่มมีสี ปอดของทารกก็เริ่มสร้างสารลดแรงตึงผิวเพื่อเตรียมสำหรับใช้ในการหายใจหลังคลอด ดวงตาพัฒนาสมบูรณ์แล้ว ขณะที่ลิ้นกำลังสร้างปุ่มรับรสขึ้น
ทารกเริ่มมีขนตา และสามารถลืมตากับกระพริบตาได้แล้ว มากไปกว่านั้น ทารกยังสามารถที่จะนอนหลับและตื่นนอนเป็นเวลาได้อีกด้วยนะ
ขนตาของทารกยาวมากขึ้น ทารกสามารถกระพริบตาเพื่อตอบสนองต่อแสงสว่างจากภายนอกที่จ้ามากเกินไปได้ และมีขนาดตัวยาวประมาณ 14 – 15 นิ้ว
ระบบกล้ามเนื้อและปอดของทารก เข้าสู่ช่วงท้ายของการพัฒนาเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเริ่มทำงานหลังคลอดทันที คุณแม่อาจรู้สึกว่าลูกดิ้นแรงมากขึ้น ขนาดตัวของทารกขยายจนเต็มถุงน้ำคร่ำ จนทารกเริ่มรู้สึกอึดอัดที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างสะดวก
ระบบประสาทการได้ยิน ประสาทการลิ้มรส และการมองเห็นของทารกทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ทารกสามารถที่จะจดจำเสียงของแม่ได้แล้ว
ชั้นไขมันใต้ผิวหนังของทารกสร้างขึ้นเต็มแขนและขา โครงหน้าของทารกก็ชัดเจนมากขึ้น โดยสามารถมองเห็นอวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้าได้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นผ่านการอัลตราซาวนด์
ปอดและระบบอวัยวะต่าง ๆ ของทารกพร้อมแล้วที่จะเริ่มทำงานทันทีหลังคลอด และผิวหนังของทารกก็เริ่มที่จะมีสีทึบ ไม่เป็นผิวหนังโปร่งแสงอีกต่อไป
กระดูกของทารกแข็งตัวมากยิ่งขึ้น สวนทางกับสมองและกะโหลกศีรษะที่ยังนิ่มอยู่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการกลับหัว และเพื่อให้สามารถเคลื่อนตัวออกทางช่องคลอดได้ง่าย
ระบบต่าง ๆ ของทารกพัฒนาจนเกือบจะสมบูรณ์ทุกระบบแล้ว ไขทารกยังคงผลิตออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ระบบประสาทส่วนกลางก็เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ไตของทารกพัฒนาจนสมบูรณ์แล้ว ส่วนตับก็เริ่มที่จะมีการขับของเสียบางอย่างออกจากร่างกาย สมองของทารกยังเติบโตตามปกติ แต่น้ำหนักของสมองตอนนี้ยังน้อยกว่าน้ำหนักสมองของทารกแรกเกิด
ศีรษะของทารกจะมีเส้นผมยาวขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ขนอ่อนและไขมันตามผิวหนังทารกเริ่มหลุดออกไปเรื่อย ๆ
เล็บเท้าของทารกเริ่มยาวถึงปลายนิ้วเท้า ทารกส่วนใหญ่ก็เริ่มที่จะกลับหัวในสัปดาห์นี้ พร้อมที่จะคลอดออกมาดูโลกแล้ว
สัปดาห์ที่ 18 ของการกระตุ้นการตั้งครรภ์ ระบบประสาทรับสัมผัสหู หรือการได้ยิน จะเริ่มสร้างตอนลูกมีอ...
อ่านต่อสัปดาห์ที่ 19 ของการกระตุ้นการตั้งครรภ์ การที่คุณแม่ตั้งครรภ์อยู่ในภาวะที่มีสมาธิ จิตใจจดจ่ออยู่ก...
อ่านต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์สัปดาห์ที่ 27 ทารกในครรภ์ตัวยาวประมาณหนึ่งฟุต และหนักกว่า 1 กิโลกรัม อว...
อ่านต่อ