ทำยังไงเมื่อลูกป่วยบ่อย ลูกป่วยบ่อยกินวิตามินอะไรดี

Enfa สรุปให้

• ลูกป่วยบ่อยเป็นเรื่องที่พบได้ในเด็กเล็ก โดยเฉพาะช่วงวัย 6 เดือนถึง 6 ขวบ เพราะระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ หรือการที่ลูกต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค 
• ลูกป่วยบ่อยกินวิตามินอะไรดี วิตามินที่จำเป็นต่อการเสริมภูมิคุ้มกันควรเลือกให้ลูกกิน ได้แก่ วิตามินซี วิตามินดี วิตามินเอ สังกะสี เป็นต้น
• การแก้เคล็ดลูกป่วยบ่อย อาจช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ให้ลูกได้รับการดูแลสุขภาพอย่างครบถ้วน ทั้งในเรื่องการกินอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อน และการเสริมภูมิคุ้มกัน

ลูกป่วยบ่อย เป็นหนึ่งในเรื่องที่สร้างความกังวลให้กับคุณแม่หลายคน และนำไปสู่คำถามต่างๆ ตามมามากมาย ลูกป่วยบ่อยกินวิตามินอะไรดี แก้เคล็ดลูกป่วยบ่อยต้องทำยังไง บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ลูกเป็นไข้ทุกอาทิตย์ หรือมีอาการไม่สบายบ่อยๆ นั้นเป็นเรื่องปกติไหม?

วันนี้ เรามีข้อมูลที่คุณแม่ควรทราบเกี่ยวกับสาเหตุการเจ็บป่วยของลูก และวิธีการดูแลลูกน้อยเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและห่างไกลจากโรคมาฝากกัน

ลูกป่วยบ่อย เกิดจากอะไร?

ลูกไม่สบายบ่อย เป็นเรื่องที่พบได้ในเด็กเล็ก โดยเฉพาะช่วงวัย 6 เดือนถึง 6 ขวบ เพราะระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ หรือการที่ลูกต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค เช่น การเข้าเรียนในโรงเรียน หรือการเล่นกับเพื่อนที่กำลังป่วยอยู่ก็ซึ่งส่งผลให้ลูกติดโรค หรือเชื้อไวรัสได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ความเครียดจากการเรียน การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือการนอนหลับไม่เพียงพอ ก็สามารถส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของลูกทำงานได้ไม่เต็มที่ และทำให้ลูกไม่สบายบ่อยขึ้นค่ะ

โดยทั่วไป ลูกไม่สบายบ่อยมักมีสาเหตุหลักๆ มาจาก เช่น

- การเริ่มเข้าสังคม เช่น ไปโรงเรียน ทำให้เจอเชื้อโรคใหม่ๆ
- พฤติกรรมเด็กเล็กที่ชอบหยิบของเข้าปาก สัมผัสสิ่งของร่วมกับเพื่อน
- สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนฤดู
- การนอนไม่เพียงพอ ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- การได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน

ลูกป่วยทุกอาทิตย์ ผิดปกติไหม?

บางครั้งคุณแม่อาจจะเริ่มสงสัยว่าลูกเป็นไข้ทุกอาทิตย์ หรือลูกไม่สบายบ่อย นั้นเป็นเรื่องปกติหรือไม่ คำตอบคือ ลูกอาจจะป่วยบ่อยในช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่พัฒนาเต็มที่ หรือในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เช่น เมื่อเริ่มเข้าเรียน หรือไปสนามเด็กเล่น เพราะการไปเจอเพื่อน เล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนทำให้มีโอกาสรับเชื้อโรคต่างๆ เข้ามาในร่างกาย  โดยเฉพาะช่วงเริ่มเข้าฤดูฝนที่เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่าย ทำให้อัตราการเจ็บป่วยในเด็กนั้นเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ก็มีเช็คลิสต์ที่ต้องระวัง หากลูกป่วยบ่อยจนเกินไป หรือมีอาการดังต่อไปนี้

- อาการป่วยหายสนิทหรือไม่ก่อนป่วยครั้งใหม่
- มีไข้สูงเกิน 39 องศาหรือไม่
- มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยหรือเปล่า เช่น ซึม เบื่ออาหารมาก
- หายใจลำบาก หรือมีอาการผิดปกติรุนแรง
รวมทั้ง หากมีอาการอื่นๆ ที่ดูผิดปกติ ควรพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงค่ะ

ลูกไม่สบายบ่อย เพราะภูมิคุ้มกันมีปัญหาหรือเปล่า?

เด็กไม่สบายบ่อย อาจเป็นเพราะภูมิคุ้มกันของเขายังไม่แข็งแรงพอ โดยเฉพาะในช่วงปีแรกๆ ของชีวิต ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กจะยังไม่สมบูรณ์เต็มที่  หรืออาจเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังสร้างภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้เด็กๆ มีแนวโน้มที่จะป่วยบ่อย หรือรับเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่

เชื้อก่อโรคที่พบได้บ่อยในเด็กวัยเรียน ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมรับมือ ได้แก่ เชื้อไวรัส RSV, ไวรัสไข้หวัดใหญ่, ไวรัสหวัด, ไวรัสโควิด โดยอาการมักจะประกอบด้วย มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ กินได้น้อยลง บางรายที่อาการรุนแรง อาจมีอาการไวรัสลงหลอดลมและปอดทำให้เหนื่อย และหายใจเร็วได้

อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบคุณหมอ หากมีอาการ ดังนี้

- ป่วยถี่มากกว่า 8-10 ครั้งต่อปี
- ใช้เวลารักษาแต่ละครั้งนานผิดปกติ
- มีอาการรุนแรงกว่าเด็กวัยเดียวกัน

คุณพ่อคุณแม่ช่วยลูกเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้นได้นะคะ เช่น การให้ลูกกินอาหารที่มีประโยชน์ และการให้วิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

ลูกป่วยบ่อยมากทำไงดี?

เมื่อลูกป่วยบ่อยทำไงดี? เด็กๆ ที่ป่วยบ่อย เดี๋ยวเป็นหวัด ไม่สบาย ไอ จาม เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเด็กๆ ยังมีภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรงพอ เพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัวล้วนทำให้ลูกน้อยเจ็บป่วยง่ายขึ้น 

ทั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อโรคที่อุบัติใหม่ หากลูกป่วยบ่อยมากจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและการเติบโต คุณแม่สามารถเริ่มดูแลเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการให้ลูกได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลสุขภาพร่างกายของลูกรักให้แข็งแรงอยู่เสมอ มีระบบภูมิคุ้มกันที่พร้อมต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรียอย่างแข็งแกร่ง เช่น กินผลไม้และผักสดที่เต็มไปด้วยวิตามินซี รวมถึงแร่ธาตุที่จำเป็น หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้

เคล็ดไม่ลับ ป้องกันลูกป่วยบ่อย
1. จัดตารางนอนให้เป็นเวลา ควรนอนอย่างน้อย 10-12 ชั่วโมงต่อวัน
2. ดูแลความสะอาดมือและสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด
3. จัดอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ไม่หักโหม
5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสควันบุหรี่และมลภาวะ

ในกรณีที่ลูกยังคงป่วยบ่อย แม้จะมีการดูแลที่ดีแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับคำแนะนำในการรักษาเพิ่มเติมนะคะ

ลูกป่วยบ่อยกินวิตามินอะไรดี?

เมื่อพูดถึงการเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูก “ลูกไม่สบายบ่อยกินวิตามินอะไรดี?” วิตามินที่จำเป็นต่อการเสริมภูมิคุ้มกันควรเลือกให้ลูกกิน ได้แก่
วิตามินซี: ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว และระบบภูมิคุ้มกันช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น พบในผักใบสีเขียว และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี
วิตามินดี: ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง พบในแสงแดด สำหรับในอาหารมีในกลุ่มปลาทะเลน้ำลึก ไข่แดง ตับ การให้เด็กวิ่งเล่นเป็นวิธีที่ทำให้เด็กได้รับวิตามินดีอีกทางหนึ่งเช่นกัน
สังกะสี: เป็นตัวช่วยในเอนไซม์ต่างๆ ที่ใช้ในร่างกาย ช่วยในการทำงานของเม็ดเลือดขาว ถ้าขาดสังกะสีทำให้ภูมิคุ้มกันไม่ดี ช่วยต้านการเพิ่มขึ้นของปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกาย (Antiviral) ลดความรุนแรง และระยะเวลาของอาการจากโรคหวัดให้หายเร็วขึ้น สังกะสีพบมากในสัตว์เนื้อแดง อาหารทะเล ไข่แดง
วิตามินเอ: ช่วยปกป้องเยื่อบุต่างๆ แหล่งอาหารที่ดีที่ร่างกายสามารถดูดซึมและใช้ประโยชน์ได้สูง ได้แก่ เครื่องในสัตว์ ไข่แดง นม ผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น
ซีลีเนียม: ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญกว่าวิตามินซี พบในธัญพืช สัตว์เนื้อแดง

หากลูกทานอาหารที่มีวิตามินครบถ้วน ก็จะช่วยให้ร่างกายของลูกแข็งแรงและลดความเสี่ยงที่จะป่วยบ่อยได้ค่ะ

แก้เคล็ดลูกป่วยบ่อยตามความเชื่อโบราณ

หลายคนอาจเคยได้ยินว่ามีการ “ลูกไม่สบายบ่อย แก้เคล็ด” ด้วยวิธีต่าง ๆ ตามความเชื่อโบราณ ซึ่งวิธีเหล่านี้บางครั้งอาจช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจหรือรู้สึกดีขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้ลูกได้รับการดูแลสุขภาพอย่างครบถ้วน ทั้งในเรื่องของการกินอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อน การดูแลลูกเบื้องต้นด้วยวิธีเหล่านี้ ก็จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงค่ะ 

วิธีแก้เคล็ดตามภูมิปัญญาไทยแบบที่คุณปู่คุณย่าเลือกใช้ เช่น

• ดื่มน้ำต้มใบฝรั่ง ช่วยเสริมวิตามินซีธรรมชาติ
• รับประทานกระเทียมดอง เพิ่มภูมิต้านทาน
• ดื่มน้ำขิง อุ่นร่างกาย ช่วยระบบย่อยอาหาร

ความเชื่อแบบภูมิปัญญาไทยที่ป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมานั้น หากจะนำมาใช้กับเด็กเล็กคุณพ่อคุณแม่ต้องระวังเป็นพิเศษเลยนะคะ เนื่องจากระบบต่างๆ ในร่างกายของเด็กเล็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้มีความไวต่ออาหารที่กินเข้าไปมากกว่าผู้ใหญ่ หากอยากเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยเนื่องจากป่วยบ่อย คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยของเด็กค่ะ

แลคโตเฟอร์ริน สุดยอดสารอาหารในน้ำนมเหลือง

น้ำนมที่ร่างกายผลิตขึ้นในระยะ 1-3 วันแรกหลังคลอด เรียกว่า “น้ำนมเหลือง” (Colostrum) ซึ่งมีคุณสมบัติในการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูกได้ดี ถือเป็นน้ำนมส่วนที่ดีที่สุด เปรียบเสมือนวัคซีนธรรมชาติจากอกแม่ รวมทั้งมี “แลคโตเฟอร์ริน” สารอาหารสำคัญในนมน้ำเหลือง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย

ประโยชน์ของแลคโตเฟอร์รินจากน้ำนมเหลือง มีดังนี้
- ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
- กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ลดโอกาสการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ
- ส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร ด้วยการเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สุขภาพ และทำให้ผนังลำไส้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดท้องเสีย

ไขข้อข้องใจเรื่องลูกป่วยบ่อย กับ Enfa Smart Club

  ลูกป่วยบ่อยกินอะไรดี ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน?

ลูกไม่สบายบ่อยกินอะไรดี? แนะนำวิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน ดังนี้ วิตามินซี, วิตามินดี, และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ซิงค์ (Zinc) จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของลูกได้ดีค่ะ แต่ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรนะคะ

  ลูกไปโรงเรียน ป่วยบ่อย ทำไงดี?

การที่ลูกไปโรงเรียนแล้วป่วย บ่อยอาจเกิดจากการติดเชื้อจากเพื่อนๆ ควรเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง มีคำแนะนำ ดังนี้
- สอนวิธีล้างมือที่ถูกต้อง
- เตรียมกระติกน้ำส่วนตัว
- แนะนำการใช้หน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็น
- พกเจลล้างมือติดตัว

  ลูกป่วยทุกเดือน อันตรายไหม

ถ้าลูกป่วยทุกเดือนในช่วงแรกของการเข้าโรงเรียนเป็นเรื่องพบได้ แต่เป็นอาการทั่วไป เช่น ไข้หวัด ก็ค่อนข้างปกติ แต่ควรระวังหากมีอาการต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์ค่ะ
- มีไข้สูงนานเกิน 3 วัน
- น้ำหนักลด เบื่ออาหารมาก
- ซึม ไม่เล่น ไม่ร่าเริง

  ทารกป่วยบ่อย ทำยังไงให้หาย

ทารกที่ป่วยบ่อยอาจต้องการการดูแลพิเศษ เช่น การให้นมแม่เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หมั่นรักษาอุณหภูมิห้องให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการพาไปในที่แออัด สังเกตอาการผิดปกติและพบแพทย์ทันทีเมื่ออาการไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น