ผื่นกุหลาบ โรคส่าไข้ ผื่นแดงเล็ก ๆ ที่กวนใจพ่อแม่ไม่หยุด

Enfa สรุปให้

• โรคผื่นกุหลาบ หรือส่าไข้ เป็นโรคผิวหนังที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย มักพบได้บ่อยในเด็ก ๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนหรือหน้าหนาว

• โรคผื่นกุหลาบ หรือส่าไข้ จะเกิดผื่นแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามร่างกายหลังจากที่ไข้ลด และผื่นนั้นจะค่อย ๆ หายไปเอง ในกรณีที่มีอาการคันร่วมด้วย สามารถทายาบรรเทาอาการคันผิวหนังได้

• โรคผื่นกุหลาบ หรือส่าไข้ ไม่ใช่โรคอันตรายรุนแรง การดูแลรักษาตามอาการก็ช่วยให้เด็กดีขึ้นได้ในเวลาไม่นาน หมั่นเช็ดตัวบ่อย ๆ ให้ไข้ลด กินยาแก้ไข้ หรือยาแก้อาการคันตามที่แพทย์สั่งก็เพียงพอแล้ว

โรคผื่นกุหลาบ หรือส่าไข้ พบได้บ่อยในเด็ก ๆ ทั้งเด็กเล็กและเด็กโต มักพบได้บ่อยในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือต้นฤดูหนาว ซึ่งโรคผื่นกุหลาบนี้เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย จึงมักจะทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดอาการวิตกกังวลมากเมื่อพบว่าลูก ๆ เป็นผื่นกุหลาบ หรือออกหัดส่าไข้ 

ผื่นกุหลาบ หรือส่าไข้ คืออะไร

หัดกุหลาบ หรือส่าไข้ เป็นโรคไข้ออกผื่นชนิดหนึ่ง ที่มักสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส หรือการได้รับเชื้อแบคทีเรียบางชนิด โดยผู้ที่เป็นโรคส่าไข้จะมีผื่นสีชมพูหรือสีแดงขนาดเล็ก ๆ ผุดขึ้นตามร่างกาย และผื่นนั้นอาจปรากฎบนผิวหนังนาน 2-12 สัปดาห์ และยังสามารถทิ้งรอยดำเอาไว้ได้อีกด้วย

ผื่นกุหลาบ เกิดจากอะไร  

โรคผื่นกุหลาบ โดยทั่วไปแล้วมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนเฮอร์ปีส์ชนิดที่ 6 (Human Herpesvirus Type 6) และไวรัสฮิวแมนเฮอร์ปีส์ชนิดที่ 7 (Human Herpesvirus Type 7)

แต่ในบางกรณีก็อาจพบว่า มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อในระบทางเดินหายใจ การใช้ยาบางชนิด หรือการฉีดวัคซีนบางชนิด ก็สามารถก่อให้เกิดโรคส่าไข้หรือผื่นกุหลาบได้ค่ะ

ผื่นส่าไข้ ผื่นกุหลาบ อาการ เป็นอย่างไร

อาการของโรคส่าไข้ที่พบได้ทั่วไป คือ

• มีไข้สูง คล้ายกับไข้หวัด

• หลังจากไข้ลดลง ร่างกายจะมีผื่นเล็ก ๆ สีชมพูหรือสีแดงขึ้นทั่วร่างกาย

• บางครั้งอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดข้อ ปวดเมื่อยตามร่างกายร่วมด้วย

ส่าไข้ หรือผื่นกลีบกุหลาบในเด็กมีโอกาสพบบ่อยแค่ไหน

สำหรับในเด็กเล็กช่วงอายุที่สามารถพบโรคส่าไข้ได้บ่อยคือ เด็กในช่วงวัย 6 เดือน ถึง 12 ปี และพบได้ในเด็กอายุ 10 ปี ถึงวัยผู้ใหญ่ 35 ปี

ซึ่งโดยทั่วไปโรคส่าไข้สามารถจะพบได้ตลอดทั้งปี แต่...จะพบได้บ่อยขึ้นในช่วงหน้าฝนถึงหน้าหนาว เนื่องจากเป็นช่วงที่สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ หรือภูมิต่ำ จึงอาจเกิดการติดเชื้อไวรัสได้ง่าย

ส่าไข้กับไข้เลือดออก แตกต่างกันอย่างไร

โรคส่าไข้ กับ ไข้เลือดออก หลังจากที่มีไข้ขึ้นสูงแล้ว เมื่อไข้ลดลง ร่างกายจะค่อย ๆ มีผื่นเกิดขึ้น จึงอาจทำให้เกิดความสับสนได้

ซึ่งโรคส่าไข้และไข้เลือดออก มีความแตกต่างกัน ดังนี้

• ผื่นส่าไข้ จะเกิดขึ้นหลังไข้ลง โดยผื่นจะมีสีชมพูหรือสีแดง เป็นผื่นขนาดเล็ก ๆ กระจายตามร่างกายทั้งแขนและขา

• ผื่นไข้เลือดออก จะเกิดขึ้นหลังจากไข้ลงไปแล้ว 1-2 วัน จากนั้นจึงจะมีผื่นสีแดงบนพื้นปื้นสีขาวเกิดขึ้น แต่ผื่นนี้จะไม่กระจายทั้งตัว มักพบบริเวณขามากกว่าบริเวณอื่น และมักมีอาการคันร่วมด้วย

ส่าไข้เด็ก อันตรายไหม

ส่าไข้ในเด็ก ไม่ใช่โรคที่อันตราย เป็นโรคที่สามารถหายได้เอง

มากไปกว่านั้น สามารถที่จะดูแลและรักษาให้อาการทุเลาขึ้นได้ตามลำดับด้วยค่ะ อาจใช้เวลา 3-4 วัน อาการไข้ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น และหายเป็นปกติค่ะ

วิธีรักษาผื่นกุหลาบ ทำยังไงให้ผื่นดอกกุหลาบหายเร็ว ๆ

ผื่นกุหลาบ รักษาเองได้ไม่ยาก สามารถทำที่บ้านได้ ดังนี้

• คอยเช็ดตัวบ่อย ๆ เพื่อทำให้ไข้ลดได้เร็ว ๆ

• ดูแลให้ลูกดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อลดความร้อนในร่างกาย

• ให้ลูกกินยาลดไข้ตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น ไม่ซื้อยามาให้ลูกกินเอง

• หากลูกมีอาการคันเมื่อเกิดผื่น สามารถทาแป้ง หรือยาทาแก้คันได้ แต่ถ้าไม่มีอาการคัน ไม่จำเป็นต้องทา

• ทาครีมหรือโลชันที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น แข็งแรง ช่วยลดอาการคัน และลดความเสี่ยงของการทิ้งรอยได้

ยากินและยาทาผื่นกุหลาบสำหรับเด็ก

โรคส่าไข้นั้นจะทำการรักษาตามอาการ หากมีไข้ขึ้นสูง การเช็ดตัวบ่อย ๆ ก็สามารถช่วยให้ไข้ลดได้

แต่ถ้าไข้ไม่ลด อาจต้องพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์สั่งยาลดไข้ที่เหมาะสมกับเด็ก หรือในกรณีที่มีอาการแพ้รุนแรง แพทย์อาจสั่งจ่ายยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการได้

ส่วนยาทานั้น การบำรุงด้วยครีมมอยส์เจอไรเซอร์ ก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะที่จะบำรุงผิวให้สุขภาพดี

แต่ถ้าหากมีอาการคันเกิดขึ้น แพทย์อาจสั่งจ่ายยาในกลุ่มเสตียรอยด์ หรือยาทาบรรเทาอาการคันที่ปลอดภัยกับเด็กให้

คำแนะนำเมื่อลูกน้อยเป็นส่าไข้เด็ก

โรคส่าไข้ไม่ใช่โรคอันตรายที่ต้องกังวลค่ะ การดูแลตามอาการถือว่าเพียงพอแล้ว เพราะโรคนี้มีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้น้อยมาก

เพียงหมั่นเช็ดตัวให้ลูกบ่อย ๆ แต่ละครั้งให้เช็ดนาน 15-20 นาที จะช่วยให้ไข้ลดได้เร็วค่ะ

ที่สำคัญคือต้องพยายามให้ลูกดื่มน้ำให้มาก ๆ ด้วย เพื่อสร้างความสดชื่น และยังช่วยลดความร้อนในร่างกาย ทำให้ไข้ลดลงได้ค่ะ

ไขข้อข้องใจเรื่องส่าไข้เด็กกับ Enfa Smart Club

Pityriasis Rosea คือ อะไร?

Pityriasis Rosea เป็นชื่อภาษาอังกฤษของโรคผื่นกุหลาบ หรือโรคส่าไข้ หรือโรคผื่นร้อยวัน  หรือโรคผื่นกลีบกุหลาบ หรือโรคผื่นขุยกุหลาบ

ผื่นกุหลาบกับสะเก็ดเงิน ต่างกันอย่างไร?

ผื่นกุหลาบ จะเป็นผื่นสีแดงหรือสีชมพูเม็ดเล็ก ๆ ขึ้นตามร่างกาย อาจมีขุยสีขาว ๆ รอบ ๆ ขอบของผื่น และผื่นกุหลาบสามารถหายเองได้

สะเก็ดเงิน แม้จะเป็นผื่นสีแดงเหมือนกัน แต่มีได้หลายขนาดทั้งเล็กและใหญ่ มีขอบผื่นหนา และมีขุยสีขาวหนาขึ้นรอบผื่น สะเก็ดเงินไม่สามารถหายเองได้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาเฉพาะทาง

ผื่นแบบไหนเรียกว่าส่าไข้?

ผื่นส่าไข้ จะเป็นผื่นสีแดงหรือสีชมพูเม็ดเล็ก ๆ ขึ้นตามร่างกาย โดยจะเกิดผื่นขึ้นเมื่อไข้ลดลง ผื่นแบบนี้สามารถหายเองได้ ผื่นอาจปรากฎอยู่ราว ๆ 2-3 วัน แต่ก็จะค่อย ๆ หายไปเอง

ผื่นขุยกุหลาบ กี่วันหาย?

โดยมากแล้วใช้เวลา 2-3 วัน ผื่นกุหลาบก็จะค่อย ๆ หายไปเอง แต่บางคนก็อาจใช้เวลาตั้งแต่ 2-12 สัปดาห์กว่าที่ผื่นจะหายไปทั้งหมดค่ะ

ตุ่มส่าไข้ ของลูกจะเป็นแผลเป็นไหม?

ผื่นส่าไข้ โดยทั่วไปแล้วไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น

แต่อาจเกิดรอยแผลเป็นได้ในกรณีที่ผื่นส่าไข้นั้นมีอาการคันร่วมด้วย และเด็ก ๆ มีการเกาตามผิวหนังอย่างรุนแรง

ก็อาจจะทำให้กลายเป็นแผล และมีรอยแผลเป็นตกค้างได้ค่ะ

พยายามดูแลอย่าให้ลูกเกา หากมีอาการคัน ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อรับยากินและยาทาบรรเทาอาการคันตามผิวหนังนะคะ

บทความแนะนำเกี่ยวกับโรคผิวหนังในเด็ก

• ผื่นในเด็ก ปัญหาผิวหนังกวนใจพ่อแม่ที่ดูแลได้ไม่ยาก
• ลูกมีตุ่มใสขึ้นที่มือ คันยุบยิบ เกิดจากอะไร รักษาได้ไหม
• จับตาสังเกต! ลูกน้อยกำลังเป็นผื่นแพ้อาหารทารกรึเปล่านะ
• ลูกมีผื่นคันขึ้นตามตัวแต่ไม่มีไข้ แบนนี้รับมืออย่างไรดี
• ลูกเป็นผดร้อน มีผื่นเม็ดเล็ก ๆ เต็มตัว รับมืออย่างไรดี