Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การปั๊มนม เพื่อทำสต๊อกนมแม่เก็บสำรองไว้ให้ทารกน้อย ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีกระตุ้นน้ำนมที่ดีและยังช่วยให้ลูกน้อยมีนมไว้กินอย่างเพียงพอ และสะดวกสำหรับคุณแม่ที่มีภารกิจรัดตัว ไม่ต้องคอยกังวลว่าลูกจะไม่ได้กินนม หรือไม่มีเวลาให้นมลูก เพราะลูกน้อยยังได้กินนมแม่จากน้ำนมที่คุณแม่สต๊อกไว้นั่นเอง บทความนี้จาก Enfa มีเคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับวิธีสต๊อกนมแม่ สต๊อกอย่างไรให้ได้น้ำนมเพียงพอ พร้อมวิธีสต๊อกนมแม่ที่ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ
การสต๊อกน้ำนมนั้น จะต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อมสำหรับการปั๊มนมแม่ และการจัดเก็บน้ำนมอย่างเหมาะสม ดังนี้
ถุงใส่นมแม่ สำหรับเป็นภาชนะใส่น้ำนมเพื่อนำไปจัดเก็บไว้ในช่องแช่เย็น หรือช่องแช่เย็น ควรเลือกถุงใส่นมที่มีความหนาแน่นแข็งแรง ไม่เสี่ยงฉีกขาดง่าย และผ่านการผลิตด้วยกระบวนการที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ไม่มีสารเคมีปนเปื้อนตกค้างจากการผลิต
ถุงเรียงสต๊อก คือ ถุงขนาดใหญ่สำหรับจัดเก็บถุงใส่นมอีกทีหนึ่ง อาจมีขนาดที่แตกต่างกันไป เช่น ขนาดสำหรับบรรจุถุงใส่นมแม่ 10 ถุง หรือ 12 เป็นต้น โดยถุงจัดเรียงสต๊อกจะช่วยจัดระเบียบพื้นที่ช่องแช่เย็นให้เรียบร้อย ถุงนมไม่วางซ้อนทับกันซึ่งอาจเสี่ยงทำให้ถุงนมรั่วได้ และยังป้องกันไม่ให้ถุงนมแม่สัมผัสกับช่องแช่แข็งโดยตรง ซึ่งบางกรณีที่เนื้อถุงติดกับช่องแช่แข็ง ก็อาจเสี่ยงทำให้เกิดการฉีกขาดได้
หากไม่เลือกเก็บสต๊อกน้ำนมด้วยถุงใส่นม ก็สามารถสต๊อกนมแม่ใส่ขวดนมได้เช่นกันค่ะ ข้อดีคือสามารถนำมาอุ่นละลายแล้วให้ลูกดื่มได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเทนมออกจากถุง แต่ต้องทำล้างความสะอาดให้ดีทั้งก่อนและหลังใช้งานขวดนม เพื่อป้องกันเชื้อโรคและสิ่งสกปรกตกค้าง เพราะอาจทำให้ลูกป่วยได้ค่ะ
คุณแม่สามารถเลือกได้ทั้งเครื่องปั๊มนมแบบที่ต้องปั๊มเอง หรือจะเลือกเป็นเครื่องปั๊มนมไฟฟ้าก็ได้เช่นกัน เครื่องปั๊มนมแบบใช้มือนั้น จะต้องใช้เวลานานในการปั๊มนม กว่าจะได้น้ำนมปริมาณที่ต้องการ หรือกว่าที่คุณแม่จะปั๊มจนเกลี้ยงเต้า ส่วนเครื่องปั๊มนมไฟฟ้านั้น สามารถปั๊มได้สะดวกกว่า และสามารถปั๊มพร้อมกันทั้งสองข้างได้ ช่วยทุ่นทั้งแรงและเวลา
คุณแม่ควรเตรียมสำลีหรือผ้าสะอาด สำหรับเช็ดทำความสะอาดหัวนมก่อนที่จะเริ่มการปั๊มนม เพื่อป้องกันไม่ให้มีสิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคตกค้างและปนเปื้อนกับน้ำนม
เวลาทำสต๊อกน้ำนมนั้น คุณแม่ควรจะต้องเขียนรายละเอียดกำกับไว้ที่ถุงนมหรือขวดนมด้วยว่า ปั๊มวันไหน เวลาใด เพื่อให้ทราบอายุขัยการใช้งานของน้ำนมถุงนั้น ๆ และเรียงลำดับการใช้งานนมแม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถุงไหนปั๊มก่อน รีบนำมาใช้ก่อน
คุณแม่จึงควรเตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียนให้พร้อม ได้แก่ ปากกา ปากกาเมจิก กระดาษสติ๊กเกอร์กันน้ำ เหตุผลที่แนะนำว่าควรเลือกเป็นสติ๊กเกอร์ที่สามารถลอกแปะได้ เพราะการเขียนลงบนถุงน้ำนมหรือขวดนมโดยตรงอาจเสี่ยงการปนเปื้อนจากสารเคมีในปากกาเมจิก มากไปกว่านั้น ความชื้นก็อาจจะทำให้สีเมจิกที่เขียนลอกหายไปได้ ทำให้ไม่ทราบรายละเอียดข้อมูลของน้ำนมถุงหรือขวดนั้น ๆ
วิธีสต๊อกนมแม่ ทำได้ไม่ยากค่ะ แม้เป็นคุณแม่มือใหม่ก็เริ่มปั๊มนมเก็บสต๊อกกันได้ง่าย ๆ ดังนี้
หากร่างกายคุณแม่ฟื้นตัวได้ดี ไม่อ่อนเพลียเกินไป สามารถเริ่มปั๊มนมเพื่อทำสต๊อกนมแม่ได้เลยค่ะ เพราะช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอดนี้ทารกจะใช้เวลาส่วนมากไปกับการนอน และมักมีคนมาเยี่ยมเยียนคอยดูแลทารกให้บ่อย ๆ คุณแม่จึงยังมีเวลาส่วนตัวบ้างเล็กน้อย สามารถที่จะเริ่มปั๊มนมเก็บเอาไว้ได้เลย
อย่างไรก็ตาม การปั๊มนมครั้งแรกหลังคลอดนั้นน้ำนมอาจจะยังออกมาไม่มาก ไม่ต้องตกใจ ไม่ตกกังวล อย่าเพิ่งเครียดไปค่ะ เป็นเรื่องปกติที่ระยะแรก ๆ นั้นน้ำนมอาจจะยังไหลน้อย หรือยังไม่ไหล แต่การปั๊มนมจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการจดจำว่าจะต้องผลิตน้ำนมเพื่อตอบสนองต่อการกระตุ้นจากการปั๊มนมค่ะ
การปั๊มนมในระยะ 30 วันหลังคลอดลูก หากร่างกายคุณแม่ไหว ไม่อ่อนล้าหรือเพลียมากเกินไป สามารถเริ่มปั๊มได้เลย นอกจากจะทำให้มีน้ำนมสะสมไว้ในสต๊อกได้มากขึ้นแล้ว ก็จะเป็นการทำให้ร่างกายจดจำว่ายังมีความต้องการน้ำนมอยู่ และกระตุ้นการผลิตน้ำนมมากขึ้น ป้องกันภาวะน้ำนมหด น้ำนมน้อย
หลังคลอดลูก 30-45 วันขึ้นไป ทารกแม้จะตื่นบ่อยขึ้น แต่...ก็เริ่มจะมีช่วงเวลานอนหลับมากขึ้น ทารกจะนอนแต่ละครั้งประมาณ 2-3 ชั่วโมง คุณแม่สามารถใช้เวลาตอนที่ลูกหลับมาปั๊มนมเพื่อเก็บสต๊อกนมแม่เอาไว้ได้ค่ะ
ตอนกลางวันทารกอาจจะร้องกวนบ่อย ๆ ทำให้คุณแม่ไม่มีเวลาพักมาปั๊มนม ก็สามารถที่จะปั๊มนมเก็บไว้ในตอนกลางคืนได้ค่ะ เพราะลูกน้อยจะนอนหลับได้นาน และบางครั้งในช่วงก่อนพาลูกเข้านอนตอนกลางคืน ลูกอาจจะดูดนมเพียงไม่นานก็หลับไป ทำให้น้ำนมยังไหลออกมาอยู่ คุณแม่สามารถใช้โอกาสนี้ปั๊มนมเพื่อทำสต๊อกนมแม่เก็บไว้ได้เลยทันที
คุณแม่ควรจะสต๊อกน้ำนมถุงละ 2-4 ออนซ์ ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอสำหรับทารกสำหรับการให้นมลูกแต่ละครั้งค่ะ
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นทารกเหมือนกัน แต่ความต้องการในการกินนมของทารกแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ทารกบางคนอาจกินนมแค่เพียง 2-3 ออนซ์ หรือทารกบางคนอาจจะกินนมมากกว่า 4 ออนซ์ก็ได้เช่นกัน
ดังนั้น คุณแม่ควรต้องสังเกตดูด้วยว่า ลูกของเรากินนมแต่ละครั้งมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้ปั๊มนมและเก็บสต๊อกให้เพียงพอกับความต้องการของลูก โดยที่ไม่ปั๊มนมเหลือทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์
หากคุณแม่จะแช่นมไว้ในช่องแช่แข็ง ควรจะต้องทำการจัดเก็บและแพ็กนมแม่แช่แข็งให้เหมาะสม ดังนี้
สำหรับคุณแม่ที่ต้องการแพ็กนมส่งต่างจังหวัด จะมีวิธีแพ็กนมแช่แข็งที่แตกต่างไป ดังนี้
นมแม่ อุดมไปด้วยสารอาหารและสารภูมิคุ้มกันที่มีประโยชน์ ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการเจริญเติบโตที่สมวัย และมีทักษะสมอง EF หรือ Executive Function ที่โดดเด่น เรียนรู้ได้เต็มที่ ไม่มีสะดุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต เด็ก ๆ ควรได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่อง เพราะมี MFGM ซึ่งเป็นสุดยอดสารอาหารในนมแม่ สารอาหารสมองชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนกว่า 150 ชนิด รวมทั้งสฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซด์ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง
การปั๊มนมใส่ถุงนั้นทำได้ไม่ยากค่ะ เพียงคุณแม่ใช้เครื่องปั๊มนมตามปกติ เมื่อปั๊มได้นมจนเต็มขวด หรือได้ปริมาณที่ต้องการแล้ว คุณแม่ก็นำขวดนมนั้นมาเทลงในถุงใส่น้ำนม ปิดถุงให้สนิท เขียนรายละเอียดวันที่ปั๊มนมให้เรียบร้อย แล้วนำไปแช่เย็น เมื่อถึงเวลาต้องใช้นม ก็ค่อยนำถุงนมออกมาละลายให้ทารกกินได้ค่ะ
เมื่อนำถุงนมออกจากช่องฟรีซคุณแม่สามารถแช่ถุงนมนั้นในน้ำเปล่าก่อนได้ โดยแช่ไว้จนถุงนมคลายความเย็นลง แล้วจึงค่อยนำไปแช่ในน้ำอุ่น เทคนิคนี้จะช่วยทำให้นมละลายเร็วขึ้นค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ให้นมลูก
Enfa สรุปให้ แม่กินอะไรลูกได้อย่างนั้น เป็นเรื่องจริง เพราะอาหารที่กินเข้าไปจะมีผลต่อน้ำนมที่ลูก...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เผลอกินอาหารที่ลูกแพ้ คุณแม่ควรรีบเช็กดูอาการแพ้ของลูกทันทีว่ามีอาการรุนแรงแค่ไหน ห...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ท่านอนให้นมที่แม่และลูกนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน (ท้องชนท้อง) เป็นท่าที่ช่วยให้คุณแ...
อ่านต่อ