Enfa สรุปให้
ผื่นทารกมีกี่แบบ ผื่นทารกนั้นมีหลายชนิด ทั้งผื่นทารกที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปและไม่ก่อให้เกิดอันตราย กับผื่นที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส หรือเกิดจากอาการภูมิแพ้ ซึ่งจำเป็นต้องมีการรักษาเฉพาะทาง
ผื่นทารก ส่วนใหญ่มักจะหายเองได้ภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ โดยไม่ต้องมีการรักษาเฉพาะทาง เช่น ผื่นร้อน ไขบนหัวทารก สิวทารก เป็นต้น
การหมั่นบำรุงผิวทารกให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอด้วยโลชัน ออยล์ หรือมอยส์เจอไรเซอร์ มีส่วนช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ลดโอกาสในการระคายเคืองหรืออักเสบง่าย ป้องกันผื่นแพ้ในทารก
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ผิวของทารกนั้นบอบบาง จึงเกิดการระคายเคือง การอักเสบ หรือมีอาการแพ้ได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่จึงมักพบว่าลูกน้อยเป็นผื่นเด็กทารกอยู่บ่อย ๆ แต่ผื่นทารกเกิดจากอะไร ผื่นทารกมีกี่แบบ แล้วคุณพ่อคุณแม่จะดูแลผิวของลูกให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของปัญหาผื่นในทารกได้อย่างไรบ้าง บทความนี้จาก Enfa มีคำตอบค่ะ
ผื่นเด็กทารก มีหลายชนิด โดยผื่นทารกที่พบได้โดยทั่วไป มีดังนี้
ทารกก็เป็นสิวได้เหมือนกันนะ ในช่วงเดือนแรกของชีวิต ทารกอาจมีสิวบริเวณแก้ม จมูก และหน้าผาก แต่สิวทารกนี้ไม่จำเป็นต้องแคะ แกะ บีบ หรือทายาอะไรค่ะ แม้ในระยะแรก ๆ อาการอาจจะดูค่อนข้างรุนแรง แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายกับลูกน้อย และสิวทารกสามารถที่จะหายไปได้เองภายใน 3 สัปดาห์ หรือ 3 เดือนหลังคลอดโดยไม่ต้องรับการรักษาเฉพาะทางแต่อย่างใด
ไขบนหัวทารก จะมีลักษณะเป็นเกล็ดปื้น ๆ สีเหลืองบนศีรษะหรือบริเวณหน้าผากของทารก ในทารกบางคนอาจลามมาถึงบริเวณใบหน้า ใบหู และลำคอด้วย
ไขบนหัวทารก ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาเฉพาะทางค่ะ เพราะนอกจากจะไม่ส่งผลเสียต่อทารกแล้ว ไขนี้ก็จะค่อย ๆ หลุดออกไปเองในช่วง 2-3 สัปดาห์ หรือ 2-3 เดือนแรกหลังคลอด
ผื่นผ้าอ้อม (Diaper Rash)
ผื่นผ้าอ้อมเด็ก มักพบบริเวณง่ามขา ก้น และอวัยวะเพศของทารก เกิดจากความอับชื้น หรือเกิดจากการเสียดสีของผ้าอ้อมกับผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นผื่นแดงระคายเคือง
ผื่นผ้าอ้อมทารก สามารถรักษาได้ด้วยการหมั่นทำความสะอาดผิวของทารก ทาโลชันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น คอยดูแลให้ผิวของลูกแห้งเสมอ เปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอับชื้นและหมักหมมสิ่งสกปรกหรือแบคทีเรีย
ผื่นน้ำลาย (Drool Rash)
เมื่อทารกอายุย่าง 3-4 เดือน ต่อมน้ำลายจะทำงานมากขึ้น ทำให้ทารกมีน้ำลายไหลเยิ้มออกมามากขึ้นตามไปด้วย และก่อให้เกิดการอับชื้นที่บริเวณปากและลำคอ หากไม่เช็ดให้แห้ง และทำความสะอาด ก็จะทำให้เกิดการหมักหมมจนเกิดอาการผื่นแดงระคายเคือง หรือมีผิวลอกเป็นขุยที่บริเวณปาก คาง และลำคอได้
คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลไม่ให้ลูกน้ำลายไหลเยิ้มตลอดเวลา หมั่นซับและเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ผิวของลูกเปียกชื้นน้ำลายเป็นเวลานาน ๆ และหมั่นทาโลชันหรือออยล์บำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และบำรุงให้ผิวทารกแข็งแรง
ผื่นแพ้ในทารก (Eczema)
ผื่นแพ้ในทารก ถือว่าเป็นโรคผิวหนังชนิดเรื้อรังค่ะ ลูกน้อยจะมีอาการคัน ผิวแห้ง ลอก แดง ลูกเป็นผื่นแดงทั้งตัว โดยอาจพบตามข้อพับต่าง ๆ แขน ขา ลำคอ ใบหน้า ศีรษะ หรือส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย
หากลูกมีผื่นแพ้ทารก ควรพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป หมั่นทาโลชันและมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเสริมความชุ่มชื้นให้ผิว และทาครีมยาเพื่อรักษาอาการผื่นแพ้ในทารก
ผื่นจากโรคมือเท้าปาก (Hand, Foot, and Mouth Disease)
โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส และระบาดได้ง่ายในเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง โดยอาการสำคัญที่จะปรากฎให้เห็นก็คือ
เจ็บคอ
มีไข้สูง
เบื่ออาหาร
มีผื่นแดงขึ้นบริเวณมือ เทา ปาก คาง
เป็นแผลในปาก
โรคมือเท้าปากสามารถรักษาได้ตามอาการ และหายได้เองภายใน 7-10 วัน สามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาความสะอาด ไม่พาลูกไปในแหล่งชุมชนแออัดที่มีการระบาด ไม่ให้คนอื่นหอมหรือจูบลูก ไม่สัมผัสลูกหากยังไม่ล้างมือ และที่สำคัญคือควรพาลูกไปรับวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปากตั้งแต่อายุ 6 เดือนถึง 5 ปี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ให้อาการรุนแรงหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน
ผดร้อนทารก (Heat Rash)
ผื่นผดร้อนทารก เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และต่อมเหงื่อของลูกมีการอุดตัน ทำให้ไม่สามารถระบายเหงื่อออกทางผิวหนังได้เท่าที่ควร ทำให้เกิดการระคายเคือง และกลายเป็นผดผื่นแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามใบหน้า ลำคอ หน้าอก หรือทั่วทั้งร่างกาย
ผื่นผดร้อนสามารถหายได้เอง โดยดูแลควบคู่ไปกับการทำความสะอาดเพื่อไม่เกิดการหมักหมมของเหงื่อไคล สวมเสื้อผ้าสบาย ๆ ไม่หนาเกินไป เพื่อให้ระบายอากาศได้ดี ไม่ปล่อยให้ลูกอยู่ในอุณหภูมิร้อนจัด ก็จะช่วยป้องกันผดร้อนทารกได้
ผื่นลมพิษในทารก (Hives)
ผื่นลมพิษ มักมีสาเหตุมาจากอาการภูมิแพ้ในทารก เช่น แพ้นมวัว แพ้ไข่ แพ้ถั่ว แพ้ฝุ่น แพ้ละอองเกสรดอกไม้ แพ้เหงื่อ ทำให้มีผื่นลมพิษปรากฎขึ้นตามร่างกาย
หากลูกมีผื่นลมพิษบ่อย ๆ ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสารก่อภูมิแพ้ และรับการรักษาเฉพาะทางที่เหมาะสม โดยคุณพ่อคุณแม่ก็จะได้หาวิธีป้องกันไท่ให้ลูกได้รับสารก่อภูมิแพ้นั้นเข้าสู่ร่างกายอีก
ผื่นจากโรคติดเชื้อ เช่น โรคอีสุกอีใส โรคหัด
บ่อยครั้งที่เด็ก ๆ มีผื่นขึ้นตามร่างกายอันเนื่องมาจากเกิดการติดเชื้อต่าง ๆ ผื่นเหล่านี้มักจะพ่วงมาด้วยอาการร่วมอื่น ๆ เช่น อ่อนเพลีย มีไข้ เจ็บคอ มีอาการไอ และอาจจะต้องมีการกินยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมอาการและรักษาอาการติดเชื้อเหล่านั้นด้วย มากไปกว่านั้น คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปรับวัคซีนเด็กตามที่กำหนด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อย และป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ
ผดผื่นทารก เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น:
ผื่นในเด็กทารกนั้น ส่วนมากแล้วมักไม่อันตราย และสามารถที่จะหายเองได้โดยไม่ต้องรับการรักษาเฉพาะทาง เช่น สิวทารก ผื่นน้ำลาย ไขบนหัวทารก เป็นต้น
หรือการรักษาตามอาการ ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นตามลำดับได้ เช่น โรคมือเท้าปาก อีสุกอีใส โรคหัด ผื่นส่าไข้ เป็นต้น
ส่วนผื่นที่เกิดจากโรคติดต่อ การติดเชื้อ หรือเกิดจากภูมิแพ้ในเด็ก กรณีเช่นนี้ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม และรับการรักษาที่เหมาะสม โดยอาจจะต้องมีการกินยาปฏิชีวนะ ใช้ครีมยาทาเพื่อรักษาผื่นตามผิวหนัง
ดังนั้น หากลูกมีผื่นขึ้นตามร่างกาย ควรสังเกตให้ดีว่าผื่นนั้นเป็นผื่นแบบไหน หรือถ้าไม่แน่ใจให้พาลูกไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมในกรณีที่ผื่นทารกเกิดจากสาเหตุที่รุนแรง
แต่ถ้าเกิดจากอาการสุขภาพโดยทั่วไป หรือเป็นผื่นทารกตามปกติ ก็ไม่จำเป็นจะต้องรับการรักษาเฉพาะทาง และไม่ต้องเพิ่มความเสี่ยงจากการรักษาลูกเองแบบผิด ๆ หรือตามที่ฟังเขามา เพราะนอกจากจะไม่ได้ทำให้ลูกหายเร็วขึ้นแล้ว อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของลูกได้ค่ะ
หากลูกมีผื่นขึ้นตามร่างกาย คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกได้ ดังนี้
ผื่นทารกแรกเกิด หากเป็นผื่นโดยทั่วไปของทารกแรกเกิด เช่น ไขบนหัวทารก สิวทารก หรือผื่นผิวแห้งหลังคลอด สิ่งนี้เป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ และสามารถหายเองได้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลค่ะ
อย่างไรก็ตาม วิธีแก้ผดผื่นบนใบหน้าทารก ควรหมั่นบำรุงผิวของลูกให้สุขภาพดี ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกเกิดผื่นผิวหนัง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันปัญหาผิวหนังของลูกน้อยได้ ดังนี้
หากลูกมีผื่นขึ้นบ่อย ๆ เอะอะก็เป็นผื่นลมพิษอีกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรหาเวลาพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ในเด็ก เพราะการที่ลูกมีผื่นแพ้ทารกบ่อย ๆ อาจเป็นไปได้ว่าลูกกำลังมีอาการแพ้นมวัว
อาการแพ้นมวัว เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของลูกยังไม่แข็งแรง เซลล์ภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้นให้ไวต่อปฏิกิริยาการแพ้
มากไปกว่านั้น ทารกมีผนังลำไส้ที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ซึ่งมีสาเหตุมาจาก “จุลินทรีย์ในทางเดินอาหารไม่สมดุล” สิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ รวมถึงโปรตีนนมวัวหลุดเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้
ซึ่งแม้ว่าทารกจะยังไม่อยู่ในวัยที่กินนมวัวได้ แต่อาการแพ้นมวัวก็สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณแม่กินอาหารที่มีส่วนผสมของนมวัว
หากลูกมีอาการแพ้นมวัวจริง คุณแม่สามารถรับมือได้ ดังนี้
อาการแพ้นมวัวในเด็ก หากตรวจพบตั้งแต่อายุยังน้อย มีการป้องกันและรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เด็กมีโอกาสที่จะหายจากอาการแพ้นมวัว และกลับมาบริโภคนมวัว หรือผลิตภัณฑ์จากนมวัวได้ค่ะ
ลูกไอตอนกลางคืน ลูกไอ มีเสมหะ ตอนกลางคืน ลูกไอแห้งๆ ตอนกลางคืน ลูกไอ แล้วอ๊วก ตอนกลางคืน ลูกไอหนั...
อ่านต่อลูกมีเสมหะ หายใจครืดคราด ไม่มีไข้ อันตรายไหม ลูกไอมีเสมหะ วิธีแก้ ทารกมีเสมหะ หายใจครืดคราด เกิดจ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกไอแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะไม่มีไข้ มักเกิดจากสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น อากาศแห้ง หรือไวรัสบ...
อ่านต่อ