
Enfa สรุปให้
แม่ตั้งครรภ์ไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน ถ้าหากร่างกายของคุณแม่สะสมคาเฟอีนเอาไว้ในปริมาณสูง ก็จะเกิดความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้
ซึ่งโกโก้ที่แปรรูปเป็นผงแล้ว และใช้สำหรับในการชงดื่มนั้น ผงโกโก้เพียง 1 ช้อนชา ให้คาเฟอีนสูงถึง 6.6 มิลลิกรัม
ส่วนผงโกโก้เพียว ๆ แบบไม่หวาน หรือไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติ ขนาด 100 กรัม (หรือ 3.5 ออนซ์) จะมีคาเฟอีนสูงถึง 230 มิลลิกรัม

เลือกอ่านตามหัวข้อ
โกโก้ปั่น โกโก้เย็น อีกหนึ่งเครื่องดื่มยอดนิยม ที่หอม หวาน อร่อย ถูกใจใครต่อใคร ไม่เว้นแม้แต่คุณแม่ตั้งครรภ์หลาย ๆ คนที่ต่างก็ตกหลุมความอร่อยของเครื่องดื่มโกโก้ด้วย แต่การดื่มโกโก้ปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือไม่ ส่วนผสมของโกโก้มีสารอันตรายต่อการตั้งครรภ์หรือเปล่า มาไขข้อข้องใจไปพร้อม ๆ กันกับบทความนี้จาก Enfa เลยค่ะ
สำหรับคุณแม่ที่รู้ตัวว่าตั้งท้อง และเริ่มที่จะลด ละ เลี่ยง อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีประโยชน์ต่อการตั้งครรภ์ อาจจะกำลังสงสัยว่า แล้วอย่างนี้เครื่องดื่มอย่าง โกโก้ คนท้องกินได้ไหม
แน่นอนค่ะว่าคนท้องกินโกโก้ได้ หรือกินอาหารที่ทำมาจากโกโก้ได้ แต่...ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น เพราะในโกโก้ มีสารคาเฟอีนอยู่ไม่น้อยเลยเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มจำพวกชา หรือกาแฟ
ซึ่งคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ ไม่ควรรับคาเฟอีนเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายของคุณแม่สะสมปริมาณคาเฟอีนเอาไว้มากเกินไป จนกระทั่งสารคาเฟอีนส่งผลต่อทารกในครรภ์
แล้วเครื่องดื่มอย่างช็อกโกแลตล่ะ คนท้องกินได้ไหม คำตอบคือคนท้องกินช็อกโกแลตได้ค่ะ เพราะในช็อกโกแลตมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีและช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลาย แต่ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม เพราะอาหารคนท้องที่ควรหลีกเลี่ยงคือของหวานจัดหรือไขมันสูง หากกินมากเกินไปอาจเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและเสี่ยงต่อเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ทางที่ดีเลือกดาร์กช็อกโกแลตที่มีโกโก้เข้มข้นและน้ำตาลต่ำ เพื่อให้ได้สารอาหารโดยไม่กระทบสุขภาพค่ะ
โกโก้ หรือเมล็ดคาเคานั้นนอกจากจะให้ความอร่อยจนติดลิ้นใครต่อใครแล้ว ก็ยังมีคาเฟอีนอยู่ด้วย โดยโกโก้ที่แปรรูปเป็นผงแล้ว และใช้สำหรับในการชงดื่มนั้น ผงโกโก้เพียง 1 ช้อนชา ให้คาเฟอีนสูงถึง 6.6 มิลลิกรัมเลยทีเดียว
และผงโกโก้เพียว ๆ แบบไม่หวาน หรือไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติ ขนาด 100 กรัม (หรือ 3.5 ออนซ์) จะมีคาเฟอีนสูงถึง 230 มิลลิกรัมเลยทีเดียว
โกโก้ คือ เมล็ดของต้นคาเคา (Cacao) ซึ่งเมื่อถูกเก็บเกี่ยวแล้ว เมล็ดของต้นคาเคาก็จะถูกนำมาผ่านกระบวนการเพื่อแปรรูปรสชาติและเนื้อสัมผัส โดยอาจจะถูกใช้ทั้งเมล็ดสด เมล็ดแห้ง หรือถูกบดเป็นผง หรือนำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารยอดนิยมอย่างช็อกโกแลตด้วย
ส่วนสาเหตุที่เรามักจะได้ยินว่าคนท้องควรกินหรือดื่มโกโก้ให้น้อยลงนั่นก็เป็นเพราะว่า ปริมาณของคาเฟอีนในโกโก้นั้น เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มอย่างชาหรือกาแฟแล้วนั้น ก็ถือว่ามีปริมาณคาเฟอีนที่สูงไม่แพ้กันเลยค่ะ
และแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน ถ้าหากร่างกายของคุณแม่สะสมคาเฟอีนเอาไว้ในปริมาณสูง ก็จะเกิดความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้
เนื่องจากคาเฟอีนนั้นสามารถที่จะส่งผ่านไปยังรกได้ง่าย ซึ่งเมื่อทารกได้รับคาเฟอีนเข้าไปมาก ๆ เข้า ตับอ่อนของทารกก็จะมีปัญหาในการย่อย ด้วยเหตุนี้ทารกจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับผลข้างเคียงจากปริมาณคาเฟอีนได้ง่าย แม้ว่าจะเป็นปริมาณคาเฟอีนที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ก็ตาม
มากไปกว่านั้น จากผลการวิจัยยังพบอีกว่า ทารกที่ได้รับคาเฟอีนมากเกินไปในระหว่างตั้งครรภ์ อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะมีการคลอดก่อนกำหนด หรือมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ หรือมีความพิการแต่กำเนิด อีกทั้งการได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่สูงขณะตั้งครรภ์ ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของการแท้งบุตรหรือการตายคลอดอีกด้วย
มากไปกว่านั้น คาเฟอีนยังเสี่ยงที่จะทำให้ทารกหัวใจเต้นเร็วขึ้น เสี่ยงที่จะได้รับธาตุเหล็กน้อยลง เนื่องจากสารคาเฟอีนนั้นอาจจะไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กของทารก และคาเฟอีนยังอาจส่งผลเสียต่อการนอนหลับของทารกด้วย
โอวัลตินเป็นเครื่องดื่มที่มีมอลต์และนม ซึ่งแม่ท้องสามารถดื่มได้ในปริมาณพอเหมาะ ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกของ คนท้องควรดื่มอะไรที่ช่วยเติมพลังงานระหว่างวัน แต่ควรเลือกสูตรน้ำตาลน้อยและตรวจดูฉลากว่าไม่มีคาเฟอีนมากเกินไป หากดื่มวันละ 1 แก้วก็เพียงพอ ทั้งยังได้รับสารอาหารจากนมซึ่งดีต่อกระดูกและฟันของแม่และลูกค่ะ
ช็อกโกแลตทำมาจากโกโก้ แน่นอนว่ามีคาเฟอีนอย่างแน่นอน ดังนั้น หากคุณแม่ติดดื่มช็อกโกแลตเย็น ก็สามารถดื่มได้นะคะ แต่ไม่ควรดื่มมากเกินไปค่ะ เพราะเครื่องดื่มตระกูลช็อกโกแลตเย็นนี้ ร่างกายได้รับทั้งน้ำตาลและคาเฟอีนเลยค่ะ หากดื่มมากเกินไป ร่างกายอาจสะสมทั้งคาเฟอีนและน้ำตาลในปริมาณที่สูง
ทางที่ดีดื่มแต่น้อย นาน ๆ ครั้งดื่ม หรือดื่มช็อกโกแลตเย็นแบบน้ำตาลน้อย หรือไม่ใส่น้ำตาลเลยก็จะดีต่อสุขภาพค่ะ
ไมโลมีส่วนผสมของโกโก้และมอลต์ ซึ่งให้พลังงานสูง แม่ท้องสามารถดื่มได้บ้างแต่ไม่ควรเกินวันละ 1 แก้ว เพราะมีทั้งคาเฟอีนและน้ำตาล สำหรับใครที่กังวลว่า คนท้องห้ามกินอะไร เครื่องดื่มหวานมาก ๆ ก็ควรอยู่ในกลุ่มที่ต้องระวังนั่นเองค่ะ ทางที่ดีเลือกสูตรหวานน้อยหรือสูตรไม่มีน้ำตาล เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ค่ะ
แม่ท้องสามารถดื่มช็อกโกแลตปั่นได้ในบางครั้ง แต่ควรดื่มแต่น้อยเพราะมีทั้งคาเฟอีนและน้ำตาลสูง การเลือกเมนูนี้เป็น อาหารว่างสำหรับคนท้องควรเลือกสูตรที่ใส่น้ำตาลน้อย หรือไม่เติมไซรัป เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และหากอยากดื่มของหวานแนะนำสลับกับนมร้อนหรือน้ำธัญพืชที่มีโฟเลตสูงแทน ก็จะดีต่อสุขภาพแม่และลูกมากกว่าค่ะ
คนท้องดื่มโกโก้ปั่นได้ค่ะ แต่ไม่ควรดื่มมาก หรือทางที่ดีไม่ควรเกิน 1 แก้วต่อวัน เพราะสำหรับโกโก้ปั่นนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของปริมาณคาเฟอีนเท่านั้นที่คุณแม่จะต้องกังวล แต่ยังรวมถึงปริมาณน้ำตาลที่ใช้เพื่อเพิ่มรสหวานของโกโก้ปั่นด้วย
นอกจากจะเพิ่มคาเฟอีนในร่างกายแล้ว ก็ยังเพิ่มน้ำตาลในร่างกายด้วย ซึ่งหากสะสมไว้ในปริมาณมากทั้งคาเฟอีนและน้ำตาลก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพแบบคูณสองได้ค่ะ
ทางที่ดีจึงไม่ควรดื่มเยอะ และไม่ควรเติมสารให้ความหวานมากเกินไปด้วยค่ะ ควรเลือกดื่มเป็นโกโก้ปั่นเพียว ๆ ไร้น้ำตาล หรือน้ำตาลน้อย หรือดื่มให้น้อยลง นาน ๆ ดื่มที ก็จะดีต่อสุขภาพมากกว่า
ไม่ว่าคนท้องกินโกโก้ร้อน หรือคนท้องกินโกโก้เย็น ก็ถือว่าสามารถทำได้ค่ะ เพียงแต่ไม่ควรดื่มในปริมาณที่มากเกินไป หรือทางที่ดีไม่ควรเกิน 1 แก้วต่อวัน
เพราะผงโกโก้เพียง 1 ช้อนชา ให้คาเฟอีนสูงถึง 6.6 มิลลิกรัม และผงโกโก้เพียว ๆ แบบไม่หวาน หรือไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติ ขนาด 100 กรัม (หรือ 3.5 ออนซ์) จะมีคาเฟอีนสูงถึง 230 มิลลิกรัม
ซึ่งปริมาณคาเฟอีนในร่างกายที่เหมาะสำหรับแม่ตั้งครรภ์คือวันละไม่เกิน 200 มิลลิกรัม หากดื่มโกโก้เยอะ ก็เสี่ยงที่ร่างกายจะสะสมปริมาณคาเฟอีนเข้าไปมากขึ้นค่ะ
นอกจากเรื่องของคาเฟอีนแล้ว สำหรับโกโก้ร้อนและโกโก้เย็นที่เติมน้ำตาลมาก ๆ หรือหลาย ๆ คนอาจจะติดดื่มโกโก้ที่มีรสหวาน กรณีนี้นอกจากจะเสี่ยงต่อการสะสมคาเฟอีนในร่างกายแล้ว ยังเสี่ยงที่จะสะสมน้ำตาลด้วย ซึ่งแน่นอนว่าการสะสมน้ำตาลในร่างกายปริมาณมาก ๆ เข้า ก็เสี่ยงทั้งโรคอ้วนและเบาหวาน และไม่เป็นผลดีต่อการตั้งครรภ์ในระยะยาวด้วย
สำหรับคุณแม่ที่ดื่มโกโก้มาตลอด เป็นโกโก้เลิฟเวอร์ แม้ตอนตั้งครรภ์แล้วก็ยังติดดื่มโกโก้วันละหลาย ๆ แก้ว และนอกจากจะดื่มโกโก้แล้ว ก็ยังกินช็อกโกแลตในมื้อว่างอีกด้วย จึงอาจจะทำให้เกิดความกังวลว่าจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์
ซึ่งวิธีรับมือนั้น ก็อาจจะต้องพูดให้เบาใจได้ว่า คุณแม่อยากกินหรืออยากดื่มโกโก้ ก็ทำได้เลยค่ะ หากคุณแม่สามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำว่าคาเฟอีนจากโกโก้ที่กินเข้าไปนั้นจะไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน
แต่ในความเป็นจริงเราไม่สามารถจะคำนวณได้เป๊ะ ๆ ใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์ และเพื่อไม่ให้ร่างกายสะสมคาเฟอีนเอาไว้มากเกินไป การลดปริมาณโกโก้ในแต่ละวันลง จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ
หากคุณแม่ติดดื่มโกโก้วันละหลาย ๆ แก้ว ก็ทยอยลดปริมาณลงมาจนกระทั่งเหลือแค่วันละแก้ว หรือถ้าคุณแม่คนไหนติดกินช็อกโกแลตเป็นมื้อว่าง ก็ควรจะหาอาหารอื่น ๆ หรือธัญพืชอื่น ๆ มากินเป็นมื้อว่างแทนที่ช็อกโกแลต เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนทั้งจากโกโก้และจากช็อกโกแลต เพราะยิ่งกินมากเท่าไหร่ ก็เสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับคาเฟอีนมากเท่านั้น
หลังคลอดคุณแม่สามารถดื่มโอวัลตินได้ค่ะ เพราะช่วยเสริมพลังงานและมีวิตามินหลายชนิดที่ดีต่อการให้นมลูก แต่ควรเลือกสูตรน้ำตาลน้อยและไม่มีคาเฟอีนมาก เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อลูกน้อยในช่วงให้นม สำหรับแม่ที่ยังต้องการสารอาหารบำรุงร่างกาย นมสำหรับคนท้องหรือสูตรแม่ให้นมก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะมีโฟเลตและแคลเซียมที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดค่ะ
คุณแม่ให้นมสามารถกินช็อกโกแลตได้ในปริมาณเล็กน้อย เพราะมีสารช่วยกระตุ้นอารมณ์ดี แต่ต้องระวังคาเฟอีน เพราะอาจส่งผลให้ลูกหลับยาก ควรกินหลังให้นมเสร็จเพื่อให้ร่างกายมีเวลาขับคาเฟอีนก่อนรอบต่อไป หากอยากหา อาหารว่างสำหรับคนท้องและแม่ให้นม แนะนำผลไม้รสหวานธรรมชาติหรือนมอุ่นแทนช็อกโกแลต จะได้ประโยชน์มากกว่าและยังมีโฟเลตช่วยบำรุงสมองลูกด้วยค่ะ
หลังคลอดสามารถดื่มโกโก้ปั่นได้ในบางครั้ง แต่ต้องระวังปริมาณคาเฟอีนและน้ำตาล เพราะคาเฟอีนสามารถส่งผ่านทางน้ำนมได้ ทางที่ดีควรดื่มในปริมาณน้อยและเลือกสูตรไม่หวาน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและฟื้นตัวไวขึ้น อาหารและเครื่องดื่มในช่วงนี้ควรเน้น อาหารคนท้อง หรือเมนูที่คล้ายกัน เช่น นมอุ่น ผัก ผลไม้สด เพราะอุดมด้วยโฟเลตที่ช่วยบำรุงเลือดและเพิ่มคุณค่าของน้ำนมให้ลูกน้อยค่ะ
โอรีโอ้เองก็มีโกโก้เป็นส่วนประกอบ แต่อาจจะมีสัดส่วนที่ไม่ได้มากนักเมื่อเทียบกับส่วนผสมอื่น ๆ ดังนั้นคุณแม่สามารถที่จะกินโอรีโอ้ หรือดื่มโอรีโอ้ปั่นได้ค่ะ
แต่เรื่องของปริมาณคาเฟอีนนั้น อาจจะไม่น่ากังวลเท่ากับปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนท้องที่ติดหวาน ทางที่ดีดื่มแต่น้อย นาน ๆ ครั้งดื่ม หรือดื่มโอรีโอ้ปั่นแบบน้ำตาลน้อย หรือไม่ใส่น้ำตาลเลยก็จะดีต่อสุขภาพค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
Enfa สรุปให้ อาหารที่มีโฟเลตสูง ได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม คะน้า บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง พ...
อ่านต่อ
ไฟเบอร์คนท้อง 7-11 เลือกยังไง ไฟเบอร์ที่คนท้องกินได้สำคัญอย่างไร คนท้องกินไฟเบอร์มะขามได...
อ่านต่อ
Enfa สรุปให้ คนท้องกินไข่วันละกี่ฟอง คนท้องสามารถกินไข่ได้วันละ 1-2 ฟอง หรืออาจมากสุดเพียง 3 ฟอง...
อ่านต่อ