นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

10 ข้อห้ามคนท้อง 1 – 3 เดือน ที่คุณแม่ต้องระวัง!

Enfa สรุปให้

  • ข้อห้ามคนท้อง 1 - 3 เดือน มีบางเรื่องที่คุณแม่จะต้องงดละเว้น โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน เพื่อให้สุขภาพร่างกายของคุณแม่และสุขภาพครรภ์ไม่มีภาวะอันตรายเกิดขึ้น 
  • คนท้องอ่อนห้ามกินอะไรบ้าง อาหารที่คนท้อง 1 – 3 เดือนแรกควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ แอลกอฮอล์ กาแฟ เนื้อสัตว์ดิบหรือเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารที่มีน้ำตาลเป็นจำนวนมาก เป็นต้น
  • คนท้องอ่อนห้ามกินผลไม้อะไรบ้าง จริง ๆ แล้วคนท้องอ่อน ๆ สามารถกินผลไม้ได้ทุกชนิด ยกเว้นผลไม้บางชนิดที่มีอาการแพ้ หรือผลไม้ที่อาจมีผลต่อสุขภาพ เช่น หากเป็นเบาหวาน อาจต้องกินผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย เลี่ยงผลไม้ที่น้ำตาลสูง

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

การตั้งครรภ์ในไตรมาสแรก หรือในช่วง 1 – 3 เดือนแรกนั้น เป็นช่วงเวลาที่แห่งการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคุณแม่ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้พร้อมกับการตั้งครรภ์ การดูแลสุขภาพครรภ์จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากการได้รับโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพครรภ์แล้ว ยังมีเรื่องที่คนท้องไตรมาสแรกควรระวังอีกด้วย

 

 

10 ข้อห้ามคนท้อง 1 – 3 เดือน ที่คุณแม่ตั้งครรรภ์ไตรมาสแรกควรระวัง


สำหรับคุณแม่ท้องไตรมาสแรก กิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ที่เคยทำในทุกวันนั้น ยังสามารถทำได้ตามปกติ แต่ก็มีบางกิจกรรม รวมทั้งข้อห้ามคนท้อง 1 - 3 เดือนแรก ที่คุณแม่ต้องปรับเปลี่ยนหรือหยุดกิจกรรมเหล่านั้นไปในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในท้อง ดังนี้

 

1. งดการดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์ในขณะตั้งครรภ์จะส่งผลกระทบกับตัวอ่อนในครรภ์ รวมทั้งอาจจะทำให้เด็กที่เกิดมีปัญหาสุขภาพหรือที่รู้จักกันในชื่อ กลุ่มอาการทารกในครรภ์ได้รับแอลกอฮอล์ (Fetal Alcohol Syndrome) โดยเด็กที่มีปัญหาสุขภาพนี้ จะมีความผิดปกติบนใบหน้า ไอคิวต่ำ มีปัญหาทางด้านความจำหรือเป็นโรคสติปัญญาบกพร่อง รวมไปถึงมีความบกพร่องในการเรียนรู้และสื่อสาร เป็นต้น

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรงดและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งอาหารอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ตลอดช่วงการตั้งครรภ์ทั้ง 9 เดือน ไปจนถึงในช่วงเวลาที่ต้องให้นมลูก

 

2. หลีกเลี่ยงหรือลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

นอกจากแอลกอฮอล์ที่สามารถส่งผลกระทบกับทารกในครรภ์ได้แล้ว เครื่องดื่มจำพวกคาเฟอีนก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรงดดื่ม หรือดื่มในปริมาณที่น้อยลงในช่วงตั้งครรภ์เช่นกัน เพราะคาเฟอีนที่สูงเกินไป อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพของทารก เช่น มีความผิดปกติโดยกำเนิด คลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักแรกคลอดน้อย เป็นต้น

คาเฟอีนไม่ได้มีเพียงในกาแฟเท่านั้น แต่ยังพบในอาหารและเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ เช่น น้ำอัดลม ไอศกรีม ช็อกโกแลต ชา รวมทั้งยาบางชนิด

 

3. งดการสูบบุหรี่

คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรสูบบุหรี่และควรหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง การสูบบุหรี่ หรือสูดดมกับควันบุหรี่ในช่วงตั้งครรภ์ เสี่ยงที่จะส่งผลให้เด็กในครรภ์มีความเสี่ยงและมีปัญหาสุขภาพ เช่น การคลอดก่อนกำหนด โรคไหลตายในทารก ทารกมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ทารกมีปัญหาภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เป็นต้น

 

4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีอุณหภูมิสูง

การทำกิจกรรมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น การแช่อ่างน้ำร้อน อบซาวน่า โยคะร้อน การอาบแดด การออกกำลังกายหนัก รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายให้สูงขึ้นได้ คนท้อง 1 – 3 เดือน ควรงดการทำกิจกรรมเหล่านี้ออกไปก่อน เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้ อาจจะทำให้ร่างกายของคนท้องมีภาวะอันตรายจากความร้อน ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุขภาพครรภ์ของคนท้อง

 

5. งดการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายที่มีการปะทะ หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงในการล้ม

ตลอดการตั้งท้องทั้งในไตรมาสแรกจนไปถึงไตรมาสที่ 3 คุณแม่ท้องควรงดการเล่นกีฬาและกิจกรรมที่มีการปะทะ หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะล้ม เช่น ฟุตบอล ชกมวย สเก็ต สกี ปีนเขา เป็นต้น โดยกิจกรรมหรือกีฬาประเภทนี้ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุและไปกระทบกระเทือนทารกในครรภ์ได้

 

6. หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดถาดอุจจาระของสัตว์เลี้ยง

คนท้องควรหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดถาดอุจจาระของสัตว์เลี้ยง เนื่องจากจะก่อให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคทอกโซพลาสโมซิส หรือโรคขี้แมว โดยเป็นโรคติดเชื้อจากปรสิตอย่าง ท็อกโซพลาสมา กอนดี (Toxoplasma gondii) พบได้ในมูลของสัตว์ เนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ

ซึ่งหากคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นโรคนี้ ควรเข้ารับการรักษาโดยด่วน เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือการติดเชื้อที่รุนแรงในขณะตั้งครรภ์ได้



7. หลีกเลี่ยงการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก

การยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากในช่วงตั้งครรภ์ อาจจะก่อให้เกิดปัญหากับสุขภาพครรภ์ของคุณแม่ เช่น กล้ามเนื้อตึง ไส้เลื่อน การคลอดก่อนกำหนด 

 

8. งดการเสพสารเสพติด

การเสพสารเสพติด ไม่เพียงเสี่ยงผิดกฏหมาย แต่ยังเป็นอันตรายกับร่างกายของคุณแม่และทารกในครรภ์อีกด้วย การเสพสารเสพติดในช่วงตั้งครรภ์จะส่งผลให้ทารกแรกเกิดมีภาวะติดยาแต่กำเนิด (Neonatal Abstinence Syndrome - NAS) พบได้ในแม่ที่ใช้ยาเสพติด เช่น เฮโรอีน เมธาโดน และยาแก้ปวดในขณะตั้งครรภ์

เด็กที่มีภาวะติดยาแต่กำเนิด จะมีอาการร้องไห้มากผิดปกติ เป็นไข้ หงุดหงิดได้ง่าย หายใจเร็วหรือหยุดหายใจ มีปัญหาในการนอน ช็อก ตัวสั่น อาเจียน เหงื่อออก กินนมได้น้อย รวมไปถึงเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ

 

9. งดการใช้ยารักษาโรคบางชนิด

คุณแม่ท้องควรงดการใช้ยารักษาโรคบางชนิด เนื่องจากยาอาจจะไปส่งผลกระกับทารกในครรภ์ได้ หากคุณแม่มีการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ควรปรึกษากับแพทย์ที่ฝากครรภ์เพื่อประเมินความเสี่ยงว่าควรงดใช้ยา หรือสามารถใช้ต่อไปได้

ตัวอย่างยารักษาโรคที่คุณแม่ท้องไม่ควรกิน:

  • กลุ่มยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) 
  • ยาสมุนไพร
  • กลุ่มยารักษาความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน หรือกลุ่มยาเอซีอี อินฮิบิเตอร์ (ACE Inhibitor)
  • ยาลดไข้บางชนิด
  • ยารักษาสิวบางชนิด

 

10. หลีกเลี่ยงการเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก

การเล่นเครื่องในสวนสนุกที่มีลักษณะเหวี่ยง หมุน หรือเคลื่อนที่เร็ว เช่น รถไฟเหาะ เครื่องเหวี่ยงหมุนชนิดต่าง ๆ แรงสั่นสะเทือนของเครื่องเล่น อาจจะทำให้เกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ซึ่งเป็นสาเหตุของการคลอดก่อนกำหนด มากไปกว่านั้น ยังอาจจะทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หมดสติ และทำให้อาการแพ้ท้องของคุณแม่แย่ลงอีกด้วย


คนท้องอ่อนห้ามกินอะไรบ้าง


การเสริมสร้างสุขภาพครรภ์ที่ดีด้วยโภชนาการที่มีประโยชน์ รู้จักอาหารที่คนท้องห้ามกิน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน มีร่างกายที่แข็งแรง แต่ก็ยังมีอาหารบางประเภทที่คนท้องอ่อนห้ามกิน ดังนี้

 

  • นมและผลิตภัณฑ์นมที่ไม่ได้ผ่านการทำพาสเชอร์ไรซ์หรือทำให้สุก

อาหารประเภทนี้อาจจะปนเปื้อนแบคทีเรียลิสเทอเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria Monocytogenes) เมื่อคุณแม่กินเข้าไปก็อาจจะทำให้เป็นโรคลิสเทริโอซิส ซึ่งเป็นอันตรายกับคุณแม่และทารกในครรภ์

 

  • เนื้อดิบ หรือเนื้อที่ผ่านการปรุงแบบสุก ๆ ดิบ ๆ

หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์มีลักษณะดิบ หรือปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ เนื่องจากอาจจะทำให้เป็นโรคติดเชื้อจากปรสิตอย่าง ท็อกโซพลาสมา กอนดี (Toxoplasma gondii) ซึ่งเป็นอันตรายกับแม่ตั้งครรภ์

 

  • ไข่ดิบ

การกินไข่ดิบ หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของไข่ดิบ อาจจะทำให้คุณแม่ได้ติดเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลา ซึ่งแม้ว่าจะไม่ทำให้เกิดอันตรายกับทารกในครรภ์ แต่จะทำให้คุณแม่มีอาการท้องเสีย อาหารเป็นพิษได้

ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกินไข่ที่ปรุงสุก เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับแบคทีเรียซาลโมเนลลาที่อาจจะปนเปื้อนมาในไข่

 

  • คาเฟอีน

คุณแม่ตั้งครรภ์ยังคงสามารถดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนได้ แต่ควรดื่มคาเฟอีนไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณ แก้วละ 6 ออนซ์ 2 แก้ว) การรับคาเฟอีนในปริมาณที่มากจะสร้างความเสี่ยงกับสุขภาพของทารก เช่น มีความผิดปกติโดยกำเนิด คลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักแรกคลอดน้อย

 

  • แอลกอฮอล์

ในช่วงตั้งครรภ์ไม่ว่าจะอยู่ในไตรมาสใดหรือช่วงอายุครรภ์ใดก็ตาม ไม่ควรดื่มหรือกินอาหารที่มีการปรุงด้วยแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น

 

  • ชาสมุนไพร

ชาที่ทำจากสมุนไพร ผลไม้แห้ง ดอกไม้แห้ง เครื่องเทศ และไม่ได้มีส่วนประกอบของคาเฟอีน คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถดื่มได้ แต่ไม่ควรดื่มเกิน 4 แก้วต่อวัน

นอกจากนี้ แม่ท้องไม่ควรดื่มชาสมุนไพรที่มีส่วนประกอบของพืชบางชนิด เช่น เม็ดยี่หร่า ลูกซัด ชะเอม ใบไธม์ กัญชาเทศ เป็นต้น เพราะอาจจะเป็นอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์


คนท้องอ่อนห้ามกินผลไม้อะไร


คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถกินผลไม้ได้ทุกชนิด ไม่มีข้อห้ามในการกินผลไม้ทุกชนิดค่ะ เว้นเสียแต่ว่าคุณแม่จะมีอาการแพ้กับผลไม้บางชนิดจึงควรหลีกเลี่ยง

อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณแม่ที่มีความเสี่ยงของเบาหวาน หรือน้ำตาลในเลือดสูง คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีน้ำตาลในปริมาณที่สูง

มากไปกว่านั้น เพื่อสุขภาพที่ดี ควรเลือกกินผลไม้ที่สด สะอาด และควรทำการล้างผลไม้ให้สะอาดก่อนกินในทุก ๆ ครั้ง เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งแปลกปลอมที่อาจะติดมากับผลไม้


คนท้องห้ามทําอะไรบ้าง กิจกรรมที่คุณแม่ท้อง 1 – 3 เดือนควรหลีกเลี่ยง


ถึงแม้กิจกรรมที่คนท้องทำในแต่ละวัน จะสามารถทำกิจกรรมเหล่านั้นได้ตามปกติเหมือนเดิม แต่ก็ยังมีสิ่งที่คนท้องห้ามทำในช่วงตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ หรือผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์

  • หลีกเลี่ยงการแช่อางน้ำร้อน การอบซาวน่า เนื่องจากจะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายกับทารกในครรภ์
  • หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดถาดอุจจาระของสัตว์เลี้ยงเพราะอาจจะเสี่ยงติดเชื้อปรสิตจากอุจจาระของสัตว์เลี้ยงได้
  • งดกิจกรรมหรือกีฬาที่มีการปะทะ หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงในการล้มแรงปะทะจากกิจกรรมหรือกีฬาบางชนิดอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
  • หลีกเลี่ยงการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากในช่วงตั้งครรภ์ อาจก่อให้เกิดปัญหากับสุขภาพครรภ์ของคุณแม่
  • หลีกเลี่ยงการเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกเนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของเครื่องเล่นอาจจะทำให้เกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด


หากคุณแม่ตั้งครรภ์ 1 – 3 เดือนแรกมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์


นอกจากจะหลีกเลี่ยงกิจกรรมและอาหารบางประเภทที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพครรภ์แล้ว ในระยะเวลา 1 – 3 เดือนแรก คุณแม่ควรสังเกตอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้

  • มีเลือดออกทางช่องคลอด
  • คลื่นไส้และอาเจียนมากกว่าปกติ
  • มีไข้สูง
  • ตกขาวร่วมกับมีอาการคัน
  • แสบหรือเจ็บในขณะปัสสาวะ
  • ขาหรือน่องมีอาการปวด หรือมีอาการบวม
  • ปวดหัวรุนแรง
  • โรคประจำตัวมีอาการกำเริบและรุนแรง

หากคุณแม่ตั้งครรภ์ 1 – 3 เดือนแรกมีอาการข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุ และทำการรักษาต่อไป

 


บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama