Enfa สรุปให้

  • หน่อไม้เป็นพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงมาก และให้สารอาหารที่ดีต่อการตั้งครรภ์หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์ โปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค เป็นต้น

  • หน่อไม้ต้องนำมาปรุงสุก เพราะหน่อไม้ดิบมีสารอันตรายที่เรียกว่า ไซยาไนด์ ซึ่งหากกินแต่น้อยสารพิษนี้ก็จะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ แต่ถ้าหากกินหน่อไม้ดิบบ่อย ๆ และสะสมไซยาไนด์เอาไว้มาก อาจทำให้ขาดออกซิเจนและเสียชีวิต

  • อย่างไรก็ตาม คนท้องสามารถกินหน่อไม้ได้ตามปกติ และสามารถกินได้ทุกช่วงอายุการตั้งครรภ์ เนื่องจากเป็นพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง แต่ควรปรุงสุกก่อนทุกครั้ง และเลือกหน่อไม้ที่สะอาดเท่านั้น

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • คนท้องกินหน่อไม้ได้ไหม
     • หน่อไม้คืออะไร
     • ประโยชน์และโทษจากการรับประทานหน่อไม้
     • หน่อไม้ดีต่อคนท้องอย่างไร
     • หน่อไม้อันตรายต่อคนท้องอย่างไร
     • คนท้องกินหน่อไม้ดองได้ไหม
     • คนท้องกินแกงหน่อไม้ได้ไหม
     • คนท้องกินซุบหน่อไม้ได้ไหม
     • คนท้องรับประทานอะไรดี ให้ลูกได้สารอาหารที่ดี

หน่อไม้ เป็นพืชที่สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย ทั้งต้ม ผัด แกง หรือจะนำมาลวกจิ้มน้ำพริกก็อร่อยและได้คุณค่าทางสารอาหารที่ดีต่อร่างกายด้วย นอกจากหน่อไม้สดแล้ว ยังมีหน่อไม้ดองซึ่งง่ายต่อการนำมาปรุงอาหารและสามารถเก็บไว้ได้นาน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่ใครต่อใครก็ติดอกติดใจกันถ้วนหน้า แต่...ถ้าตั้งท้องแล้ว คุณแม่ยังจะสามารถกินหน่อไม้ได้อยู่หรือเปล่า? หรือคนท้องไม่ควรกินหน่อไม้เลย?

คนท้องกินหน่อไม้ได้ไหม


คนท้องสามารถกินหน่อไม้ได้ค่ะ และสามารถกินได้ตลอดการตั้งครรภ์ด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้วหน่อไม้ก็จัดว่าเป็นพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงด้วย

แต่เพื่อให้ดีต่อสุขภาพการตั้งครรภ์มากขึ้น ควรกินอาหารอื่น ๆ ด้วย เพื่อให้เกิดความหลากหลาย ไม่เบื่ออาหาร และยังช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้นด้วย

รู้จักหน่อไม้ และสารอาหารในหน่อไม้


หน่อไม้ หรือก็คือหน่ออ่อน ๆ ของต้นไผ่ก่อนที่จะเติบโตกลายไปเป็นต้นไผ่โดยสมบูรณ์ สามารถนำมารับประทานได้ หน่อไม้จัดว่าเป็นพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงค่ะ โดยมีสารอาหารหลัก ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

  • ไฟเบอร์ ช่วยในการทำงานของระบบขับถ่าย
  • โปรตีน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
  • วิตามินบี 6 ดีต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง
  • วิตามินอี มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการสึกหรอของเซลล์
  • วิตามินเค ช่วยในการแข็งตัวของเลือด บำรุงเนื้อเยื่อกระดูก
  • ธาตุเหล็ก ป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
  • ทองแดง ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง บำรุงระบบภูมิคุ้มกัน
     
สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

ประโยชน์และโทษจากการรับประทานหน่อไม้ในแม่ตั้งครรภ์


หน่อไม้ เป็นพืชที่มีทั้งคุณประโยชน์ แต่ในขณะเดียวกัน หากบริโภคผิดวิธี ก็อาจจะกลายเป็นผลเสียต่อร่างกายได้ค่ะ

หน่อไม้ดีต่อคนท้องอย่างไร


  • มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล ในหน่อไม้มีไฟเบอร์สูง ซึ่งนอกจากไฟเบอร์จะเด่นในเรื่องการขับถ่ายแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ด้วย
  • ดีต่อลำไส้ แม่ท้องหลายคนมีปัญหาท้องผูก การกินหน่อไม้จะช่วยเพิ่มไฟเบอร์ให้มากขึ้น ในหน่อไม้มีไฟเบอร์และพรีไบโอติกส์ที่มีประโยชน์ ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ ทำให้ขับถ่ายได้คล่อง
  • คาร์โบไฮเดรตต่ำ แม่ท้องหลายคนมีปัญหาสุขภาพอย่างเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง จำเป็นต้องจำกัดการกินคาร์โบไฮเดรต เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง แต่หน่อไม้มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ช่วยให้ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตได้ดี
  • ลดความเสี่ยงของโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก แม่ท้องหลายคนเสี่ยงต่อโรคโลหิตจางเพราะได้รับธาตุเหล็กไม่พอ หรือถูกทารกดึงเอาธาตุเหล็กไปใช้จนหมด แต่หน่อไม้มีธาตุเหล็กสูง หากกินเป็นประจำควบคู่ไปกับอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงขนิดอื่น ๆ ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ
  • เพิ่มธาตุเหล็กในร่างกาย หน่อไม้เองก็เป็นอาหารที่มีวิตามินซีสูง และวิตามินทำหน้าที่สำคัญในการดูดซึมธาตุเหล็ก ยิ่งร่างกายได้รับวิตามินซีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กให้ร่างกายได้มากเท่านั้น
     

หน่อไม้อันตรายต่อคนท้องอย่างไร


แม้หน่อไม้จะดีต่อสุขภาพจริง แต่หน่อไม้นั้นเป็นพืชที่ไม่ควรกินดิบบ่อยนะคะ เพราะในหน่อไม้มีสารพิษที่ชื่อว่าไซยาไนด์ ซึ่งหากกินเข้าไปแต่น้อย สารพิษนี้ก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะ แต่ถ้าหากร่างกายสะสมสารไซยาไนด์ไว้มากเกินไป จากที่ปกติร่างกายของเราจะมีออกซิเจนจับตัวอยู่กับเซลล์เม็ดเลือดแดง สารไซยาไนด์ที่มีอยู่ในปริมาณมากนี้จะไปจับตัวกับเซลล์เม็ดเลือดแดงแทน ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน ในกรณีที่ไม่รุนแรงถึงชีวิต อาจทำให้หมดสติได้ แต่ถ้าในกรณีที่รุนแรง อาจเสียชีวิตได้ค่ะ

ดังนั้น จึงไม่ควรกินหน่อไม้ดิบบ่อย ๆ หรือถ้าจะให้ดีควรนำหน่อไม้มาต้มและปรุงให้สุกจะดีกว่าค่ะ เพราะหน่อไม้ที่ผ่านความร้อนจะสามารถลดปริมาณของไซยาไนด์ลงได้ จนไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

แล้วแบบนี้ คนท้องกินหน่อไม้ดองได้ไหม


หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันว่าคนท้องไม่ควรกินหน่อไม้ดอง เพราะมีสารที่เป็นอันตรายต่อคนท้อง แต่จริง ๆ แล้วคนท้องสามารถกินหน่อไม้ดองได้ตามปกติเช่นเดียวกันกับหน่อไม้สดที่นำมาปรุงสุกในเมนูอาหารต่าง ๆ เลยค่ะ

เพียงแต่ความเสี่ยงของหน่อไม้ดองนั้นมีเรื่องที่ต้องคอยระวัง คือ

  • ปริมาณโซเดียมสูง เพราะอาหารกระป๋องส่วนใหญ่นั้นมักจะมีโซเดียมสูง ซึ่งการบริโภคโซเดียมในปริมาณมากนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะจะเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง เสี่ยงต่อภาวะบวมน้ำ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพการตั้งครรภ์
  • ความสะอาด หน่อไม้ดอง หน่อไม้กระป๋องบางยี่ห้อผลิตออกมาแบบไม่ถูกสุขลักษณะ หรือไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ หากเลือกหน่อไม้ดองที่ไม่สะอาด ก็เสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสได้
     

เพื่อให้ดีต่อสุขภาพคนท้อง ควรเลือกหน่อไม้ดองที่มีปริมาณโซเดียมต่ำ และเลือกหน่อไม้ดองจากยี่ห้อหรือแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐานความสะอาด และผ่านการฆ่าเชื้อเป็นอย่างดี

คนท้องกินแกงหน่อไม้ได้ไหม


แกงหน่อไม้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาหารบำรุงครรภ์ที่ดีเลยค่ะ ยิ่งถ้าเพิ่มผักอื่น ๆ เข้าไปด้วย ก็จะยิ่งเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้แก่คุณแม่และทารกในครรภ์มากขึ้น ดังนั้น คนท้องสามารถกินแกงหน่อไม้ได้ตามปกติเลยค่ะ

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้ตะบี้ตะบันกินแกงหน่อไม้ทุกวันนะคะ ควรเปลี่ยนเมนูอื่น ๆ บ้างเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซากจำเจ และร่างกายจะได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ดีต่อสุขภาพคนท้อง

คนท้องกินซุบหน่อไม้ได้ไหม


ซุบหน่อไม้ ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมของคุณแม่หลายท่าน ซึ่งคนท้องสามารถจะกินได้ตามปกติเลยค่ะ แต่อาจจะต้องระวังเรื่องของการใส่น้ำปลาร้านะคะ ควรเป็นน้ำปลาร้าต้มสุก และผ่านการฆ่าเชื้อมาอย่างดี ป้องกันการนำแบคทีเรียหรือไวรัสเข้าสู่ร่างกายค่ะ

คนท้องรับประทานอะไรดี ให้ลูกได้สารอาหารที่ดี


คนท้องควรต้องกินอาหารให้หลากหลาย ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารจำเป็นอย่างครบถ้วน ดีต่อสุขภาพของแม่และทารกในครรภ์

โดยสารอาหารสำคัญที่คนท้องควรได้รับอย่างเพียงพอ มีดังนี้

1. อาหารที่มี DHA สูง

ดีเอชเอ (Docosahexaenoic Acid) คือ กรดไขมันโอเมก้า 3 ชนิดหนึ่ง ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาทางสมอง ดวงตา และระบบประสาท นอกจากนี้ยังอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์บางอย่าง เช่น การคลอดก่อนกำหนด หรือโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้อีกด้วย อาหารที่มีดีเอชเอสูง เช่น ปลาทะเล อโวคาโด ไข่แดง เป็นต้น คุณแม่ควรกินอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง หรือดื่มนมสูตรเสริมดีเอชเอก็ดีเช่นกันค่ะ

2. อาหารที่มีโปรตีนสูง

โปรตีน เป็นสารอาหารสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างน้ำนมให้กับคุณแม่ ตัวอย่างอาหารที่มีโปรตีนสูง เหมาะสำหรับคนท้อง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ หรือถั่วต่าง ๆ ประมาณ 75 – 110 กรัม/วัน ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของคุณแม่ และไตรมาสของการตั้งครรภ์ โดยคำนวณง่าย ๆ คือในหนึ่งมื้ออาหาร ควรมีโปรตีนประมาณ 30 - 40% ของอาหารที่กินนั่นเอง

3. อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง

อาหารที่มีธาตุเหล็ก ถือเป็น อาหารคนท้องที่สำคัญอีกหนึ่งชนิด เพราะสามารถช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งถือเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของการคลอดทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ ดังนั้น คุณแม่ควรได้รับธาตุเหล็กไม่ต่ำกว่า 27 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งสามารถหาได้จากการกินอาหารประเภท เนื้อแดง ไข่แดง ตับ งา และผักสีเขียวเข้ม เป็นต้น

4. อาหารที่มีโฟเลตสูง

กรดโฟลิก หรือโฟเลต ก็เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมองข้าม เพราะมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาของระบบประสาทและสมอง หากคุณแม่ได้รับโฟเลตไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้ลูกน้อยเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทได้ ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรได้รับโฟเลตอย่างน้อย 600-800 มิลลิกรัม/วัน จากการกินอาหารประเภท ตับ ไข่ ผักใบเขียว และถั่วต่าง ๆ เป็นต้น

5. อาหารที่มีแคลเซียมสูง

อย่างที่รู้กันว่า แคลเซียมนั้นมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง โดยเฉพาะในช่วงเวลาการเจริญเติบโตของลูกน้อย ยิ่งทำให้คุณแม่ต้องบำรุงร่างกายเพิ่มเติมพร้อมเสริมแคลเซียมให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน โดยปกติ ผู้หญิงตั้งครรภ์มักจะต้องการแคลเซียมประมาณ 1,000 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งหาได้จากการกินอาหารจำพวกนม หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น ชีส เนย หรือโยเกิร์ต เป็นต้น

6. อาหารที่มีไอโอดีนสูง

หากคุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ อาจทำให้ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายผิดปกติ และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคไทรอยด์ระหว่างตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรควรได้รับไอโอดีนจำนวน 250 ไมโครกรัม/วัน ไอโอดีนอยู่ในจำพวกอาหารทะเลทุกชนิด ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม กระเทียม หรืองา

7. อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต

การกินคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสม อาจช่วยลดอาการแพ้ท้องในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากเป็นสารอาหารที่ย่อยง่าย และให้พลังงานสูง ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อย่างไรก็ตาม คนท้องไม่ควรกินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป เพราะอาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคอ้วนระหว่างตั้งครรภ์ได้

8. อาหารที่มีโคลีนอย่างเพียงพอ

โคลีน พบมากในอาหารจำพวกไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน แซลมอน ไก่ บรอกโคลี กะหล่ำดอก เป็นต้น จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสารอาหารสำคัญที่คุณแม่ควรได้รับจากการกินอาหารในแต่ละวัน เพราะโคลีนมีส่วนสำคัญในการบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ การกินอาหารที่ให้สารโคลีนอย่างเพียงพอ หรือประมาณ 450 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับแม่ตั้งครรภ์ จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะความบกพร่องที่ระบบท่อประสาทของทารกในครรภ์ได้

9. อาหารที่มีไฟเบอร์สูง

ไฟเบอร์ เป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญที่ไม่ว่าจะเป็นแม่ก่อนคลอด แม่อุ้มท้อง แม่หลังคลอด หรือแม่ให้นมลูกก็ควรได้รับอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างตั้งครรภ์ ควรกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเป็นประจำ เพราะไฟเบอร์จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ไฟเบอร์ยังช่วยลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงและอาจช่วยป้องกันภาวะครรภ์เป็นพิษได้อีกด้วย ซึ่งแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับไฟเบอร์ประมาณ 25-35 กรัมในแต่ละวัน โดยสามารถได้ไฟเบอร์จากอาหารจำพวกผักและผลไม้ต่าง ๆ

10. อาหารที่มีโอเมก้า 3

โอเมก้า 3 เป็นสารอาหารสำคัญที่ควรได้รับอย่างเพียงพอ อย่างน้อย 200-300 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับแม่ตั้งครรภ์ เพราะโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยเสริมสร้างและดูแลสุขภาพหัวใจ ระบบภูมิคุ้มกัน สมอง และดวงตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงที่สมองของทารกมีการพัฒนาและเจริญเติบโตสูงสุด มากไปกว่านั้น การได้รับโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอขณะตั้งครรภ์ ยังอาจช่วยต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ควบคุมอารมณ์แปรปรวนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ และลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักแรกเกิดต่ำอีกด้วย

มากไปกว่านั้น เพื่อให้สุขภาพของแม่ตั้งครรภ์ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและดีต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ อีกวิธีหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงและดีต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ นั่นก็คือการดื่มนมค่ะ

คุณแม่สามารถเลือกดื่มนมวัว นมถั่วเหลือง นมข้าวโอ๊ต หรือนมแพะก็ได้ แต่สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องแพ้นมวัว หรือแพ้นมจากพืช ก็สามารถเลือกดื่มนมสำหรับคนท้องได้เช่นกันค่ะ

โดยนมสำหรับคนท้องที่ดี ควรจะเลือกนมที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญสำหรับคนท้องอย่าง ดีเอชเอ โคลีน โฟเลต และ แคลเซียม ซึ่งเป็นกลุ่มสารอาหารสำคัญของคนท้องที่คุณแม่ควรจะได้รับอย่างเพียงพอ เพื่อให้ทารกในครรภ์เติบโตได้อย่างสมบูรณ์และสมวัย



บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์