Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
วิธีคุมกำเนิดแบบ “หน้า 7 หลัง 7” เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบโบราณที่เกิดขึ้นมาก่อนจะมียาคุมกำเนิดสมัยใหม่ และอุปกรณ์คุมกำเนิดอื่นๆ สิ่งที่เราเรียกกันว่า “หน้า 7 หลัง 7” จริง ๆ แล้วมีที่มาจากแนวคิดทางการแพทย์ตะวันตกที่เรียกว่า Rhythm Method หรือ Calendar Method (วิธีคุมกำเนิดแบบปฏิทิน) ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่เกิดจากการสังเกตทางธรรมชาติว่า ผู้หญิงจะมีรอบเดือนประมาณ 28 วัน และในรอบเดือนนั้น ไข่จะตกเพียงครั้งเดียว และมักจะอยู่ช่วงกลางรอบ (ประมาณวันที่ 14 ถ้านับจากวันแรกของประจำเดือน) จากการค้นพบนี้ แพทย์และองค์กรศาสนาจึงเริ่มเผยแพร่ “วิธีนับวันปลอดภัย” ให้คู่สมรสใช้เป็นการคุมกำเนิดโดยไม่ต้องพึ่งยาคุมหรืออุปกรณ์คุมกำเนิด
จากการค้นพบนี้ นำไปสู่การสร้างแนวคิดที่เข้าใจได้ง่ายขึ้นสำหรับคนทั่วไป โดยไม่ต้องคำนวณซับซ้อน จึงกลายเป็นสูตรท่องจำง่ายๆ ว่า “7 วันแรกหลังหมดประจำเดือน” + “7 วันก่อนประจำเดือนรอบใหม่” = ระยะปลอดภัยที่โอกาสท้องของผู้หญิงค่อนข้างน้อย ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการลดรูปจากทฤษฎี Rhythm Method ที่ซับซ้อนกว่านั้น
แล้วจะนับหน้า 7 หลัง 7 ยังไง มาดูวิธีนับหน้า 7 หลัง 7 ตามหลักการกันค่ะ
หลายคนอาจมีคำถามว่าแล้วใช้วิธีหน้า 7 หลัง 7 ท้องไหม ต้องบอกว่าการใช้วิธี “หน้า 7 หลัง 7” คุมกำเนิดเพียงอย่างเดียวถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพน้อย เหตุผลที่ยังท้องได้ก็เพราะ
ในทางการแพทย์มีการเก็บสถิติไว้ชัดเจนว่า วิธี “หน้า 7 หลัง 7” มีโอกาสพลาดสูง โดยอัตราล้มเหลว (กรณี Typical use หรือใช้จริงในชีวิตประจำวัน) อยู่ที่ประมาณ 20-25% ต่อปี แปลว่าถ้าผู้หญิง 100 คนใช้วิธีนี้เป็นหลักตลอด 1 ปี จะมี 20-25 คนที่ตั้งครรภ์ ส่วนอัตราล้มเหลว (กรณี Perfect use หรือนับแบบเป๊ะ และผู้หญิงมีรอบเดือนสม่ำเสมอไม่คลาดเคลื่อน ซึ่งหาได้ยาก) อยู่ที่ประมาณ 9% ต่อปี
ถ้าอยากคุมกำเนิดแบบเห็นผลจริง แนะนำว่าใช้ถุงยาง, ยาคุม, ยาฉีด, ห่วงคุมกำเนิด (IUD) หรือวิธีสมัยใหม่อื่นๆ จะเป็นผลมากกว่าค่ะ
“หน้า 7 หลัง 7” ไม่ใช่วิธีที่ใช้การันตีว่าจะ “ไม่ท้อง” แต่ใช้คำนวณหาช่วงเวลาที่ “โอกาสท้องน้อยลง” กว่าช่วงกลางรอบเดือนที่มีไข่ตกค่ะ แต่ในชีวิตจริง รอบเดือนของผู้หญิงไม่ตรงเป๊ะ วันไข่ตกก็ไม่แน่นอน แถมอสุจิก็มีชีวิตอยู่ได้ 3-5 วัน ถ้าไข่ตกเร็วกว่าที่คิด อสุจิที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ผสมได้ สูตร “หน้า 7 หลัง 7” เป็นแค่การนับแบบง่ายๆ ไม่ได้อิงข้อมูลของร่างกายจริงในรอบนั้น จึงมีโอกาสท้องได้ค่ะ ถ้าไม่พร้อมมีลูก ไม่ควรใช้วิธีนี้เป็นหลัก
ข้อดีของการนับหน้า 7 หลัง 7
ข้อเสียของการนับหน้า 7 หลัง 7
คุณแม่เป็นวางรากฐานอนาคตของลูกน้อยนับตั้งแต่วันแรกของการตั้งครรภ์ นอกจากคุณแม่จะคอยใส่ใจสุขภาพและกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์แล้ว แม่ตั้งครรภ์ยังต้องการสารอาหารอย่างเพียงพอ เพื่อส่งต่อให้กับลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็น
และยังรวมถึงสารอาหารอื่นๆ อีกมากมายที่คุณแม่อาจจะไม่ได้กินอย่างครบถ้วนจากมื้ออาหารปกติ การดื่มนมบำรุงครรภ์จึงเป็นทางเลือกที่ดีอย่างยิ่งในการเสริมสารอาหารให้กับคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ และอย่าลืมเลือกนมที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ด้วยนะคะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่
Enfa สรุปให้ วิธีคุมกำเนิดแบบ “หน้า 7 หลัง 7” เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบโบราณที่เกิดขึ้นมาก่อนจะมียาคุ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ฉีดยาคุม 1 เดือน ท้องได้แต่มีโอกาสน้อยมาก หรือน้อยกว่า 1% โดยเฉพาะการฉีดยาตรงตามนั...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน มีโอกาสท้องได้น้อยมาก ถ้าฉีดตรงเวลาทุกเข็ม แต่ถ้าล่าช้าเกิน 14...
อ่านต่อ