
Enfa สรุปให้
การตรวจ PV หญิงตั้งครรภ์ แพทย์จะประเมินความนิ่ม ความบาง ความเปิด และตำแหน่งของปากมดลูก รวมถึงการเคลื่อนต่ำของศีรษะทารก เพื่อช่วยตัดสินใจแนวทางการคลอด
ตรวจ PV คือ การตรวจภายในโดยแพทย์หรือนรีแพทย์ เพื่อประเมินปากมดลูก ช่องคลอด และอวัยวะในอุ้งเชิงกราน โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์เพื่อดูความพร้อมก่อนคลอด
การ PV นอกจากดูปากมดลูก แพทย์ยังตรวจดูสุขภาพช่องคลอด ลักษณะเยื่อบุ
การมีตกขาวหรือเลือดผิดปกติ รวมถึงใช้ข้อมูลจาก PV
เพื่อประเมินความเสี่ยงและความปลอดภัยของแม่และลูกในครรภ์

เลือกอ่านตามหัวข้อ
การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงของร่างกายคุณแม่ การตรวจสุขภาพและติดตามอาการต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลฝากครรภ์ แพทย์มักใช้ข้อมูลจากสมุดฝากครรภ์เพื่อติดตามอายุครรภ์และวางแผนการดูแล หนึ่งในการตรวจที่คุณแม่อาจได้ยินบ่อยคือตรวจ PV หรือ Per Vaginal Examination ซึ่งอาจทำให้หลายคนกังวล แต่แท้จริงแล้วมีความสำคัญต่อความปลอดภัยของแม่และลูกในครรภ์
บทความนี้ Enfa จะอธิบายว่า ตรวจ PV คืออะไร ตรวจเมื่อใด ดูอะไรบ้าง และคุณแม่ควรเตรียมตัวอย่างไรค่ะ
ตรวจ PV (Per Vaginal Examination) คือการตรวจภายในโดยแพทย์หรือนรีแพทย์ เพื่อประเมินอวัยวะในอุ้งเชิงกราน ได้แก่ ช่องคลอด ปากมดลูก และมดลูก การตรวจนี้ช่วยให้แพทย์ทราบถึงความผิดปกติหรือการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ช่วงปลาย เช่น ท้อง 36 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อติดตามว่าร่างกายพร้อมสำหรับการคลอดหรือยัง
วิธีการตรวจ PV ประกอบด้วย
การตรวจ PV จึงไม่ใช่แค่การตรวจภายในทั่วไปเท่านั้น
แต่มีเป้าหมายเฉพาะในการประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนและระหว่างการคลอดด้วย
หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องตรวจ PV คุณแม่ตั้งครรภ์ นั่นเป็นเพราะว่าการตรวจ PV ไม่ได้เป็นเพียงการตรวจภายในเท่านั้นค่ะ แต่การตรวจภายในคนท้องเป็นการให้ข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่งแก่ทีมแพทย์ เพื่อประเมินและเตรียมตัวสำหรับการคลอด ดังนี้
โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะทำการตรวจ PV เมื่อมีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจน เช่น
แม้การตรวจ PV จะมีความสำคัญ แต่ก็มีบางภาวะที่เป็นข้อห้ามในการ PV หญิงตั้งครรภ์ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และทารกได้ ได้แก่
การตรวจภายในหญิงตั้งครรภ์นั้นมีข้อมูลที่ต้องการประเมินหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งแต่ละอย่างจะบอกถึงความพร้อมและความก้าวหน้าในการคลอดได้เป็นอย่างดี โดยทั่วไปแล้ว การ PV หญิงตั้งครรภ์ทำเพื่อดูองค์ประกอบต่าง ๆ ของปากมดลูกและทารก ซึ่งเป็นข้อมูลชุดเดียวกับที่ใช้ประเมินก่อนคลอดโดยละเอียด ได้แก่
ตรวจ PV ก่อนคลอดจะมีความละเอียดและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เพื่อประเมิน Bishop Score ซึ่งเป็นคะแนนที่บ่งบอกความพร้อมของปากมดลูกในการคลอด ประกอบด้วย 5 ปัจจัยหลัก ดังนี้
นอกจากการประเมิน 5 ข้อนี้แล้ว ยังรวมถึงการประเมินว่าถุงน้ำคร่ำยังอยู่ดีหรือไม่ แตกหรือยัง
และยืนยันท่าของทารกอีกครั้งหนึ่งด้วย
โดยทั่วไป แพทย์จะตรวจปากมดลูกก่อนคลอดในช่วงดังนี้
ทั้งนี้ แพทย์จะไม่ตรวจบ่อยเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงติดเชื้อค่ะ
ความรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายตัวระหว่างตรวจ PV เป็นเรื่องที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การเตรียมตัวก่อนตรวจภายใจตอนท้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะคุณแม่บางท่านอาจรู้สึกแค่ตึง ๆ ไม่สบายตัว แต่บางท่านอาจรู้สึกเจ็บได้ ต่อไปนี้คือคำแนะนำสำหรับคุณแม่เมื่อมีการตรวจ PV ค่ะ
สุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อยเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงที่อยู่ในครรภ์ การที่คุณแม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนและเหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างสมอง ร่างกาย และภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรง การใส่ใจโภชนาการจึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีที่สุดของลูก โดยในแต่ละวัน คุณแม่ควรเลือกอาหารที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และกรดไขมันจำเป็น เช่น DHA โฟเลต แคลเซียม และโคลีน ซึ่งล้วนมีบทบาทต่อการพัฒนาสมองและการเจริญเติบโตของทารก
ซึ่งนอกจากการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นประจำในทุกมื้อแล้ว คุณแม่ยังสามารถเสริมด้วยนมบำรุงครรภ์และให้นมบุตร เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ อาจเลือกดื่มนมเอนฟามาม่า เอพลัส วันละ 2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมและโคลีนตามความต้องการของคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรในแต่ละวัน (THAI DRI)
โภชนาการที่ดีไม่เพียงช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่แข็งแรง แต่ยังช่วยปกป้องคุณแม่จากภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
เช่น โรคโลหิตจาง ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เมื่อแม่สุขภาพดี
ลูกก็จะได้รับการดูแลที่สมบูรณ์ไปพร้อมกัน ดังนั้น ทุกคำที่แม่เลือกกินในวันนี้
คือการวางรากฐานสู่อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อยอย่างแท้จริง
หลังจากแพทย์ตรวจปากมดลูกหรือทำการตรวจ PV ก่อนคลอด คุณแม่ตั้งครรภ์มีเลือดออกเล็กน้อยหรือเป็นสีน้ำตาลจาง ๆ ได้ ถือว่าเป็นภาวะปกติ เนื่องจากปากมดลูกและเยื่อบุช่องคลอดมีเส้นเลือดมาก และเกิดการเสียดสีจากการตรวจ แต่เลือดควรหยุดเองภายใน 1–2 วัน
แต่ถ้ามีเลือดออกมากเหมือนประจำเดือน มีลิ่มเลือด หรือปวดท้องรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อน เช่น รกลอกตัวก่อนกำหนด
ในหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับการตรวจภายในหรือตรวจ PV อาจมีเลือดออกจาง ๆ ได้เช่นกัน
เนื่องจากปากมดลูกมีความบอบบางและมีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ จึงไวต่อการกระทบกระเทือน
ถ้าเลือดออกเพียงเล็กน้อยถือว่าปกติ แต่ควรเฝ้าสังเกตถ้าเลือดออกต่อเนื่อง ออกมาก
หรือมีอาการปวดท้อง/เจ็บครรภ์ร่วมด้วย ต้องรีบติดต่อแพทย์เพื่อประเมินทันที
Enfa สรุปให้ ยาแก้ไอคนท้องที่ใช้ได้ เช่น ยากดอาการไอ (dextromethorphan) ยาละลายเสมหะ (acetylcys...
อ่านต่อ
Enfa สรุปให้ คนท้องไม่สบายกินยาอะไรได้บ้าง เมื่อคนท้องไม่สบาย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเองโดยไม่ปรึ...
อ่านต่อ
Enfa สรุปให้ ชีพจรคนท้องอ่อน หรือหัวใจเต้นช้ากว่า 60 ครั้งต่อนาที ถือว่ามีภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปก...
อ่านต่อ