Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การตั้งครรภ์ในไตรมาสแรก หรือในช่วง 1 – 3 เดือนแรกนั้น เป็นช่วงเวลาที่แห่งการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคุณแม่ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้พร้อมกับการตั้งครรภ์ การดูแลสุขภาพครรภ์จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากการได้รับโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพครรภ์แล้ว ยังมีเรื่องที่คนท้องไตรมาสแรกควรระวังอีกด้วย
สำหรับคุณแม่ท้องไตรมาสแรก กิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ที่เคยทำในทุกวันนั้น ยังสามารถทำได้ตามปกติ แต่ก็มีบางกิจกรรม รวมทั้งข้อห้ามคนท้อง 1 - 3 เดือนแรก ที่คุณแม่ต้องปรับเปลี่ยนหรือหยุดกิจกรรมเหล่านั้นไปในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในท้อง ดังนี้
1. งดการดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์ในขณะตั้งครรภ์จะส่งผลกระทบกับตัวอ่อนในครรภ์ รวมทั้งอาจจะทำให้เด็กที่เกิดมีปัญหาสุขภาพหรือที่รู้จักกันในชื่อ กลุ่มอาการทารกในครรภ์ได้รับแอลกอฮอล์ (Fetal Alcohol Syndrome) โดยเด็กที่มีปัญหาสุขภาพนี้ จะมีความผิดปกติบนใบหน้า ไอคิวต่ำ มีปัญหาทางด้านความจำหรือเป็นโรคสติปัญญาบกพร่อง รวมไปถึงมีความบกพร่องในการเรียนรู้และสื่อสาร เป็นต้น
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรงดและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งอาหารอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ตลอดช่วงการตั้งครรภ์ทั้ง 9 เดือน ไปจนถึงในช่วงเวลาที่ต้องให้นมลูก
2. หลีกเลี่ยงหรือลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
นอกจากแอลกอฮอล์ที่สามารถส่งผลกระทบกับทารกในครรภ์ได้แล้ว เครื่องดื่มจำพวกคาเฟอีนก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรงดดื่ม หรือดื่มในปริมาณที่น้อยลงในช่วงตั้งครรภ์เช่นกัน เพราะคาเฟอีนที่สูงเกินไป อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพของทารก เช่น มีความผิดปกติโดยกำเนิด คลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักแรกคลอดน้อย เป็นต้น
คาเฟอีนไม่ได้มีเพียงในกาแฟเท่านั้น แต่ยังพบในอาหารและเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ เช่น น้ำอัดลม ไอศกรีม ช็อกโกแลต ชา รวมทั้งยาบางชนิด
3. งดการสูบบุหรี่
คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรสูบบุหรี่และควรหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง การสูบบุหรี่ หรือสูดดมกับควันบุหรี่ในช่วงตั้งครรภ์ เสี่ยงที่จะส่งผลให้เด็กในครรภ์มีความเสี่ยงและมีปัญหาสุขภาพ เช่น การคลอดก่อนกำหนด โรคไหลตายในทารก ทารกมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ทารกมีปัญหาภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เป็นต้น
4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีอุณหภูมิสูง
การทำกิจกรรมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น การแช่อ่างน้ำร้อน อบซาวน่า โยคะร้อน การอาบแดด การออกกำลังกายหนัก รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายให้สูงขึ้นได้ คนท้อง 1 – 3 เดือน ควรงดการทำกิจกรรมเหล่านี้ออกไปก่อน เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้ อาจจะทำให้ร่างกายของคนท้องมีภาวะอันตรายจากความร้อน ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุขภาพครรภ์ของคนท้อง
5. งดการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายที่มีการปะทะ หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงในการล้ม
ตลอดการตั้งท้องทั้งในไตรมาสแรกจนไปถึงไตรมาสที่ 3 คุณแม่ท้องควรงดการเล่นกีฬาและกิจกรรมที่มีการปะทะ หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะล้ม เช่น ฟุตบอล ชกมวย สเก็ต สกี ปีนเขา เป็นต้น โดยกิจกรรมหรือกีฬาประเภทนี้ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุและไปกระทบกระเทือนทารกในครรภ์ได้
6. หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดถาดอุจจาระของสัตว์เลี้ยง
คนท้องควรหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดถาดอุจจาระของสัตว์เลี้ยง เนื่องจากจะก่อให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคทอกโซพลาสโมซิส หรือโรคขี้แมว โดยเป็นโรคติดเชื้อจากปรสิตอย่าง ท็อกโซพลาสมา กอนดี (Toxoplasma gondii) พบได้ในมูลของสัตว์ เนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ
ซึ่งหากคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นโรคนี้ ควรเข้ารับการรักษาโดยด่วน เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือการติดเชื้อที่รุนแรงในขณะตั้งครรภ์ได้
7. หลีกเลี่ยงการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก
การยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากในช่วงตั้งครรภ์ อาจจะก่อให้เกิดปัญหากับสุขภาพครรภ์ของคุณแม่ เช่น กล้ามเนื้อตึง ไส้เลื่อน การคลอดก่อนกำหนด
8. งดการเสพสารเสพติด
การเสพสารเสพติด ไม่เพียงเสี่ยงผิดกฏหมาย แต่ยังเป็นอันตรายกับร่างกายของคุณแม่และทารกในครรภ์อีกด้วย การเสพสารเสพติดในช่วงตั้งครรภ์จะส่งผลให้ทารกแรกเกิดมีภาวะติดยาแต่กำเนิด (Neonatal Abstinence Syndrome - NAS) พบได้ในแม่ที่ใช้ยาเสพติด เช่น เฮโรอีน เมธาโดน และยาแก้ปวดในขณะตั้งครรภ์
เด็กที่มีภาวะติดยาแต่กำเนิด จะมีอาการร้องไห้มากผิดปกติ เป็นไข้ หงุดหงิดได้ง่าย หายใจเร็วหรือหยุดหายใจ มีปัญหาในการนอน ช็อก ตัวสั่น อาเจียน เหงื่อออก กินนมได้น้อย รวมไปถึงเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ
9. งดการใช้ยารักษาโรคบางชนิด
คุณแม่ท้องควรงดการใช้ยารักษาโรคบางชนิด เนื่องจากยาอาจจะไปส่งผลกระกับทารกในครรภ์ได้ หากคุณแม่มีการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ควรปรึกษากับแพทย์ที่ฝากครรภ์เพื่อประเมินความเสี่ยงว่าควรงดใช้ยา หรือสามารถใช้ต่อไปได้
ตัวอย่างยารักษาโรคที่คุณแม่ท้องไม่ควรกิน:
10. หลีกเลี่ยงการเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก
การเล่นเครื่องในสวนสนุกที่มีลักษณะเหวี่ยง หมุน หรือเคลื่อนที่เร็ว เช่น รถไฟเหาะ เครื่องเหวี่ยงหมุนชนิดต่าง ๆ แรงสั่นสะเทือนของเครื่องเล่น อาจจะทำให้เกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ซึ่งเป็นสาเหตุของการคลอดก่อนกำหนด มากไปกว่านั้น ยังอาจจะทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หมดสติ และทำให้อาการแพ้ท้องของคุณแม่แย่ลงอีกด้วย
การเสริมสร้างสุขภาพครรภ์ที่ดีด้วยโภชนาการที่มีประโยชน์ รู้จักอาหารที่คนท้องห้ามกิน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน มีร่างกายที่แข็งแรง แต่ก็ยังมีอาหารบางประเภทที่คนท้องอ่อนห้ามกิน ดังนี้
อาหารประเภทนี้อาจจะปนเปื้อนแบคทีเรียลิสเทอเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria Monocytogenes) เมื่อคุณแม่กินเข้าไปก็อาจจะทำให้เป็นโรคลิสเทริโอซิส ซึ่งเป็นอันตรายกับคุณแม่และทารกในครรภ์
หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์มีลักษณะดิบ หรือปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ เนื่องจากอาจจะทำให้เป็นโรคติดเชื้อจากปรสิตอย่าง ท็อกโซพลาสมา กอนดี (Toxoplasma gondii) ซึ่งเป็นอันตรายกับแม่ตั้งครรภ์
การกินไข่ดิบ หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของไข่ดิบ อาจจะทำให้คุณแม่ได้ติดเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลา ซึ่งแม้ว่าจะไม่ทำให้เกิดอันตรายกับทารกในครรภ์ แต่จะทำให้คุณแม่มีอาการท้องเสีย อาหารเป็นพิษได้
ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกินไข่ที่ปรุงสุก เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับแบคทีเรียซาลโมเนลลาที่อาจจะปนเปื้อนมาในไข่
คุณแม่ตั้งครรภ์ยังคงสามารถดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนได้ แต่ควรดื่มคาเฟอีนไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณ แก้วละ 6 ออนซ์ 2 แก้ว) การรับคาเฟอีนในปริมาณที่มากจะสร้างความเสี่ยงกับสุขภาพของทารก เช่น มีความผิดปกติโดยกำเนิด คลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักแรกคลอดน้อย
ในช่วงตั้งครรภ์ไม่ว่าจะอยู่ในไตรมาสใดหรือช่วงอายุครรภ์ใดก็ตาม ไม่ควรดื่มหรือกินอาหารที่มีการปรุงด้วยแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น
ชาที่ทำจากสมุนไพร ผลไม้แห้ง ดอกไม้แห้ง เครื่องเทศ และไม่ได้มีส่วนประกอบของคาเฟอีน คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถดื่มได้ แต่ไม่ควรดื่มเกิน 4 แก้วต่อวัน
นอกจากนี้ แม่ท้องไม่ควรดื่มชาสมุนไพรที่มีส่วนประกอบของพืชบางชนิด เช่น เม็ดยี่หร่า ลูกซัด ชะเอม ใบไธม์ กัญชาเทศ เป็นต้น เพราะอาจจะเป็นอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์
คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถกินผลไม้ได้ทุกชนิด ไม่มีข้อห้ามในการกินผลไม้ทุกชนิดค่ะ เว้นเสียแต่ว่าคุณแม่จะมีอาการแพ้กับผลไม้บางชนิดจึงควรหลีกเลี่ยง
อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณแม่ที่มีความเสี่ยงของเบาหวาน หรือน้ำตาลในเลือดสูง คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีน้ำตาลในปริมาณที่สูง
มากไปกว่านั้น เพื่อสุขภาพที่ดี ควรเลือกกินผลไม้ที่สด สะอาด และควรทำการล้างผลไม้ให้สะอาดก่อนกินในทุก ๆ ครั้ง เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งแปลกปลอมที่อาจะติดมากับผลไม้
ถึงแม้กิจกรรมที่คนท้องทำในแต่ละวัน จะสามารถทำกิจกรรมเหล่านั้นได้ตามปกติเหมือนเดิม แต่ก็ยังมีสิ่งที่คนท้องห้ามทำในช่วงตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ หรือผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์
นอกจากจะหลีกเลี่ยงกิจกรรมและอาหารบางประเภทที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพครรภ์แล้ว ในระยะเวลา 1 – 3 เดือนแรก คุณแม่ควรสังเกตอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้
หากคุณแม่ตั้งครรภ์ 1 – 3 เดือนแรกมีอาการข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุ และทำการรักษาต่อไป
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
Enfa สรุปให้ หากคุณแม่ไม่รู้ว่าท้องแล้วกินเหล้า แม้เพียงปริมาณน้อยก็อาจเสี่ยงต่อการแท้ง คลอดก่อ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เข็มขัดพยุงครรภ์ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยรองรับน้ำหนักของหน้าท้องในหญิงตั้งครรภ์ ลดอาการป...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ มีมูกใส ๆ ออกมาขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายตอนต...
อ่านต่อ