ด้านสติปัญญาและการเรียนรู้
เล่น เรียนรู้การแก้ปัญหา
เด็กวัย 2-3 ขวบนั้น พัฒนาการด้านความคิดและสติปัญญาที่มีมากขึ้น จะทำให้ลูกเกิดการเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตรงหน้า ให้คุณแม่ลองเล่นเกมนี้กับลูกดูค่ะ
ให้คุณแม่ยื่นของเล่นชิ้นที่ 1 ให้ลูกถือไว้ จากนั้นยื่นของเล่นชิ้นที่ 2 ให้ลูกถือด้วยมืออีกข้าง แล้วก็ยื่นของเล่นชิ้นที่ 3 ให้ลูกอีก ดูว่าลูกทำอย่างไรกับของเล่นชิ้นที่ 3 เด็กบางคนก็วางของที่อยู่ในมือลงก่อนรับชิ้นที่3 บางคนก็เอาให้คนยื่นวางไว้ระหว่างของเล่น 2 ชิ้นแรก...นี่เป็นหนึ่งในการเล่นเพื่อฝึกการเรียนรู้และการแก้ปัญหาของลูก
ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
พาหนูขึ้นบันได เคลื่อนไหวไปพร้อมกัน
หนูน้อยในวัยนี้หลายคนมักจะสนุกสนานกับการขึ้น-ลงบันได ซึ่งจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อขาของลูกให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นค่ะ
คุณแม่ควรฝึกลูกขึ้นลงบันได ด้วยการเดินไปพร้อมๆ กับเขา มีคุณแม่เดินอยู่ข้างๆ บอกให้ลูกจับราวบันไดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย ในช่วงแรกของการฝึกนั้น คุณแม่อาจต้องใช้มือข้างหนึ่งจับลูกไว้เพื่อให้ลูกเกิดความรู้สึกอุ่นใจว่ามีคุณแม่อยู่ใกล้ๆ เริ่มจากสอนขึ้นบันได เพราะเที่ยวขึ้นนั้นง่ายกว่าเที่ยวลง เพียงแค่สอนให้เขาก้าวเท้าข้างเดิมขึ้น จะซ้ายก็ซ้ายตลอด จะขวาก็ขวาตลอด ลูกจะได้จำเป็นขั้นตอน ไม่สับสน
จากนั้นก็สอนให้ลง เริ่มจากท่านั่งแล้วยืดขาลงมาก่อนแล้วกระเถิบก้นลงมา ไม่กี่อาทิตย์เขาก็จะเริ่มลงคล่องขึ้นค่ะ ท่าที่เหมาะในการฝึกลูกทั้งขึ้นและลง คือคุณแม่ควรจับมือลูกด้านที่ไม่จับราวบันได และใช้ตัวเองบังลูกไว้ด้วย ตอนขึ้นคุณแม่ควรอยู่หลังลูกหนึ่งขั้น และตอนลงคุณควรอยู่หน้าลูกหนึ่งขั้นค่ะ
ทุกครั้งที่ฝึก ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง คุณแม่ต้องอยู่กับลูกด้วยเสมอ อย่าลืมชมเชยและให้กำลังใจลูกทุกครั้งที่เขาสามารถขึ้น - ลงบันไดด้วยตนเอง ฝึกอยู่สักระยะหนึ่งลูกก็สามารถทำได้เองโดยไม่ต้องมีคนช่วยจับ
การเดินขึ้นบันไดนี้ จะช่วยให้กล้ามเนื้อขาและการทรงตัวของลูกแข็งแรง ไม่ล้มง่าย วิ่งกระโดดได้ดีและคล่องแคล่ว และยังช่วยให้ลูกฝึกควบคุมร่างกายได้ดีขึ้น มีการกะระยะและควบคุมอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น
ด้านภาษาและการสื่อสาร
สนุกกับการตอบคำถามลูกน้อย
ลูกวัยนี้จะช่างพูด ช่างถาม และชอบสำรวจโลกมากขึ้น จึงไม่แปลกที่ลูกจะชอบถามโน่น ถามนี่อยู่บ่อยๆ บางครั้งคุณแม่ก็รู้สึกว่า ลูกถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งที่ตอบไปแล้วด้วย อันที่จริงการเป็นหนูน้อยทำไมของลูก นอกจากความอยากรู้อยากเห็นแล้ว ลูกวัยนี้กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาหลักเหตุผลและฝึกฝนการแยกแยะสิ่งต่างๆ ฉะนั้นคุณแม่จึงควรเสริมพัฒนาการด้านการสื่อสารของลูกด้วยการสนุกกับการตอบคำถามของลูกค่ะ
เวลาลูกสงสัยเรื่องอะไร เขาอาจจะมีคำตอบอยู่ในใจ แต่ยังพูดอธิบายเองไม่ถูก และถ้าคำตอบของเราไม่ตรงกับกับที่เขาคิดไว้ เขาก็มักจะถามย้ำอยู่เรื่อยๆ จนบางครั้งอาจทำให้คุณแม่รู้สึกรำคาญได้ค่ะ เช่น เขาอาจเข้าใจว่าผลไม้สีแดงเป็นมะเขือเทศ ทั้งๆ ที่มันคือแอปเปิ้ล ถ้าเราบอกว่านั่นคือแอปเปิ้ล ลูกก็อาจถามย้ำอยู่เรื่อย ๆ หากเป็นอย่างนี้คุณแม่ก็อาจถามเขากลับว่า “แล้วหนูคิดว่ามันเป็นอะไรคะลูก" เพื่อที่จะได้รู้ว่าลูกเข้าใจว่าอย่างไร ตรงนี้ก็เป็นโอกาสที่เราจะสอนเขาต่อด้วยการอธิบายอย่างง่าย ๆ ได้ว่า “หนู เห็นมันเป็นสีแดงเหมือนกับที่เรากินที่บ้านใช่มั้ยคะ มันไม่ใช่มะเขือเทศนะ หนูลองดูดี ๆ สิคะ เห็นมั้ยคะว่าเปลือกมันแข็งกว่า ลูกใหญ่กว่า กลิ่นก็หอมๆ ด้วย" ตรงจุดนี้ คุณแม่สามารถสอนเจาะลงในเรื่องที่ลูกยังไม่เข้าใจได้ค่ะ
การตั้งคำถาม คือกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญของลูก เป็นโอกาสที่คุณแม่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
ด้านอารมณ์และสังคม
กลวิธีปราบลูกดิ้นเมื่อไม่ได้ดังใจ
เด็กในวัย 2 ขวบจะเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น บางครั้งก็จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ลงไปนอนดิ้นกับพื้นเพื่อเรียกร้องความสนใจ ทำให้คุณแม่ไม่สบายใจว่าลูกอาจมีปัญหาทางด้านอารมณ์ ทั้งที่จริงแล้วพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และคุณแม่เองก็สามารถรับมือได้ค่ะ
การรับมือปัญหาลูกดิ้นอาละวาดนั้น ที่สำคัญคุณแม่ควรต้องตั้งสติให้ดี อย่าได้อาย เพราะส่วนใหญ่แล้วมักอายและเลือกวิธีลงโทษลูกแทน ซึ่งไม่ถูกต้อง แต่ควรใช้วิธีพาลูกเดินออกจากร้านมาสงบจิตใจอยู่นอกห้าง แล้วปล่อยให้เขาร้อง เดี๋ยวสักพักเขาก็จะหยุดร้องไปเองค่ะ อาจดูใจร้ายบ้าง แต่ก็เป็นการฝึกความอดทนให้ลูกรู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง และควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ในที่สุด
หลังจากลูกสงบ ควรอธิบายให้ลูกฟังด้วยเหตุผลว่าทำไมถึงตามใจเขาไม่ได้ และเมื่อต้องออกไปนอกบ้าน คุณแม่ควรทำข้อตกลงกับลูกว่า วันนี้จะพาไปที่ใด และเขาจะได้อะไรบ้างจากการไปเที่ยวครั้งนี้ และถ้าจะให้ดีคุณแม่ไม่ควรพาไปเดินในโซนที่ลูกชอบ ไม่อย่างนั้นเขาเห็นแล้วอาจจะอาละวาดอยากได้ขึ้นมาค่ะ
