Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ลูกมีเสมหะ หายใจครืดคราด แต่ไม่มีไข้ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
ทารกมีเสมหะ และหายใจครืดคราด ไม่ได้อันตรายเสมอไปค่ะ แต่เมื่อคุณแม่สังเกตเห็นทารกไอ มีเสมหะ ไม่มีไข้ ควรคอยดูอาการอย่างใกล้ชิด เพราะในเด็กเล็ก ระบบหายใจยังไม่ได้พัฒนาสมบูรณ์เท่าผู้ใหญ่ ทำให้สิ่งเล็กน้อยที่ผู้ใหญ่ทนได้ จะส่งผลมากกว่ากับเด็กค่ะ
หากลูกน้อยหายใจมีเสียงครืดคราดจากเสมหะหรือน้ำมูกค้าง แต่ยังดูดนมได้ปกติ ไม่มีไข้ ตัวไม่ร้อน ไม่หอบเหนื่อยหรือซึม ถือเป็นอาการไม่รุนแรงและมักไม่อันตรายค่ะ
แต่หากทารกหายใจแรง หายใจเร็ว เห็นหน้าอกบุ๋มเวลาหายใจ ริมฝีปากหรือปลายมือปลายเท้าเขียว ดูดนมไม่ได้ สำลักนมบ่อย อาเจียนมาก หรือทารกซึม มีไข้สูง ไม่ค่อยตอบสนอง ถือเป็นสัญญาณของอาการที่รุนแรงขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาลูกน้อยไปโรงพยาบาลทันทีค่ะ
อาการที่มักพบเวลาลูกหายใจครืดคราด มีเสมหะ มีดังนี้ค่ะ
เมื่อทารกไอมีเสมหะ วิธีแก้เบื้องต้นที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้ มีดังนี้ค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีบรรเทาอาการไอของลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้ที่บ้านค่ะ แต่หากลูกเริ่มมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอดูแล เพราะถือเป็นสัญญาณของอาการที่รุนแรงมากขึ้นค่ะ
อาการลูกไอ มีเสมหะ และหายใจครืดคราด อาจเกิดจากภูมิแพ้ทางเดินหายใจในเด็ก โดยเฉพาะถ้าอาการของลูกน้อยมีลักษณะดังนี้:
แต่คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องคอยเฝ้าสังเกตดีๆ เพราะอาการแบบเดียวกันอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น หวัดธรรมดา, การติดเชื้อไวรัส, หลอดลมอักเสบ, หรือกรดไหลย้อนในเด็ก ได้เช่นกัน
ดังนั้น หากลูกมีอาการต่อเนื่องบ่อยๆ หรืออาการเหล่านี้เริ่มรบกวนการนอนและการกินของลูก ควรพาไปพบกุมารแพทย์ เพื่อตรวจเพิ่มเติมว่าเป็นภูมิแพ้ในเด็กจริงหรือไม่ หรือมีโรคอื่นแอบแฝงค่ะ
หากลูกมีสัญญาณที่น่าจะเป็นอาการภูมิแพ้ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยทันที เพื่อจะได้ป้องกันและทำการรักษาได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก เพื่อให้เค้าสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรง เอาชนะได้ทุกอุปสรรค ไม่สะดุดทุกอาการแพ้
เพราะหากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้ลูกเป็นภูมิแพ้ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รักษา ลูกจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภูมิแพ้ลูกโซ่ ซึ่งภูมิแพ้ลูกโซ่ก็คือเมื่อลูกเป็นภูมิแพ้ชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็เสี่ยงที่จะเกิดภูมิแพ้ชนิดอื่นๆ ตามมาได้เมื่ออายุมากขึ้น
คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันภูมิแพ้ในเด็กได้ด้วยวิธีเหล่านี้
หากลูก 1 ขวบ ไอมีเสมหะ ไม่มีไข้ แล้วลูกยังกินนมได้ เล่นได้ และไม่มีอาการหอบเหนื่อยมาก มักดูแลที่บ้านได้ค่ะ สิ่งที่ต้องตระหนักคือลูกวัยนี้ยังเล็กมาก ต้องพึ่งพาพ่อแม่ทั้งหมด เช่น ล้างจมูก ดูดน้ำมูก อุ้มศีรษะสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตอาการของเค้าว่ามีอาการเตือนที่อันตรายหรือไม่ หากลูกเริ่มแสดงอาการหอบ เหนื่อย หน้าอกบุ๋ม หรือหายใจเร็วผิดปกติ ปากหรือปลายมือปลายเท้าเขียว ไอจนกินนม/อาหารไม่ได้ หรืออาเจียนมาก ซึม ไม่ค่อยตอบสนอง หรือมีไข้ร่วม ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อความปลอดภัย
ถ้าไอมีเสมหะแต่ไม่มีไข้ และลูกวัย 2 ขวบยังกินได้ เล่นได้ ร่าเริง มักดูแลที่บ้านได้ค่ะ ลูกวัยนี้เริ่มช่วยบอกอาการตัวเองได้บ้างว่าไม่สบายตรงไหน แต่ยังดูแลตัวเองไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่อาจต้องคอยล้างจมูก ดูดน้ำมูกให้เค้าหายใจโล่งขึ้น และถ้าลูกมีสัญญาณเตือนถึงอาการที่รุนแรงขึ้น ควรรีบพาไปพบคุณหมอทันทีเพื่อความปลอดภัย
ถ้าลูก 3 ขวบ ไอมีเสมหะ แต่ไม่มีไข้ ส่วนใหญ่จะไม่อันตราย และสามารถดูแลที่บ้านได้ค่ะ เป้าหมายหลักคือช่วยให้เสมหะไม่ค้างและลูกหายใจได้โล่งขึ้น ซึ่งคุณแม่ช่วยได้ด้วยการให้ลูกดื่มน้ำเยอะขึ้น ช่วยลูกล้างจมูก ที่สำคัญคือลูก 3 ขวบอาจเริ่มบ้วนหรือถ่มเสมหะออกได้เมื่อลูกมีเสลดในคอ ลองสอนให้เค้าบ้วนออกมา ดีกว่ากลืนลงไป
ถ้าลูก 4 ขวบไอมีเสมหะ แต่ลูกยังกินได้ เล่นได้ ร่าเริง และไม่มีอาการหอบเหนื่อย สามารถดูแลที่บ้านได้ แต่ถ้ามีอาการเตือน หรืออาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ควรรีบพาไปพบคุณหมอค่ะ
บทความแนะนำ
ลูกมีเสมหะ หายใจครืดคราด ไม่มีไข้ อันตรายไหม ลูกไอมีเสมหะ วิธีแก้ ทารกมีเสมหะ หายใจครืดคราด เกิดจ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกไอแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะไม่มีไข้ มักเกิดจากสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น อากาศแห้ง หรือไวรัสบ...
อ่านต่อลูก 1 ขวบ ท้องเสีย ไม่มีไข้ อาจเกิดจากการเปลี่ยนอาหารหรือเปลี่ยนนม อาการแพ้อาหารบางชนิด หรืออาจเป...
อ่านต่อ