
Enfa สรุปให้

เลือกอ่านตามหัวข้อ
ปัญหาผดผื่นขึ้นตามร่างกายของลูกน้อย ลูกเป็นผื่นแดงทั้งตัว เรียกได้ว่าเวียนมาบรรจบพบกันได้เกือบทุกเดือน เพราะผิวหนังของลูกนั้นมีความบอบบาง จึงเสี่ยงต่อการระคายเคือง การแพ้ หรือถูกแมลงสัตว์กัดต่อยจนเกิดเป็นผดผื่นหรือตุ่มขึ้นตามร่างกายได้ง่าย ๆ
บทความนี้จาก Enfa จะพาคุณพ่อคุณแม่มาตามติดเรื่องผื่น ๆ ของลูกน้อยกันค่ะ มาดูกันว่าลูกน้อยกำลังเป็นผื่นแบบไหนอยู่นะ
ลูกเป็นตุ่มแดงตามตัว มีผื่นขึ้นเต็มไปหมด เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ การระคายเคือง การติดเชื้อ แพ้สภาพอากาศ แพ้ต่อสารเคมี แพ้น้ำ ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย หรือเป็นโรคผิวหนังแบบเรื้อรัง เป็นต้น
ซึ่งสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมรับมือเมื่อพบว่าลูกน้อยมีผื่นขึ้นตามตัวก็คือ การพาลูกไปพบแพทย์ค่ะ เพื่อให้สามารถระบุได้ว่าผื่นเหล่านั้นเกิดจากสาเหตุใด เพื่อที่แพทย์จะได้สามารถให้คำแนะนำในการดูแลรักษาเมื่อลูกเป็นผื่นได้อย่างเหมาะสม
โดยวิธีดูแลเมื่อลูกเป็นผื่น หรือลูกเป็นผื่นแดงทั้งตัวแบบง่าย ๆ ก็คือ
• รักษาความสะอาดแก่ลูกน้อย: ค่อย ๆ ทำความสะอาดบริเวณที่ลูกเป็นผดผื่นด้วยน้ำอุ่นและสบู่สำหรับเด็กอ่อนที่ปราศจากน้ำหอม หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีสารเคมีชนิดรุนแรง และไม่ควรถูสบู่แรงเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้ หลังอาบน้ำควรซับผิวของลูกเบา ๆ ด้วยผ้าขนหนูที่สะอาด ไม่ควรซับหรือถูที่ผิวแรง ๆ เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคือง หรือทำให้ผิวหนังอักเสบได้ค่ะ
• ทาครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับเด็ก: ทาครีมสำหรับรักษาอาการผดผื่นตามที่แพทย์แนะนำ ไม่ควรซื้อครีมทาหรือยาทามาใช้เอง เพราะอาจเสี่ยงต่อการระเคืองได้ง่ายหากมีตัวยาที่เป็นสารเคมีรุนแรง หรือใช้มอยส์เจอไรเซอ์สำหรับเด็ก เพื่อเสริมการปกป้องให้แก่ผิวของลูก เสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว
• เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสม: สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ให้ลูก เพื่อให้สามารถระบายอากาศได้ดี เลือกผ้าที่ทำจากผ้าเนื้อนุ่ม เช่น ผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงเสื้อผ้ารัดรูปหรือวัสดุสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติกักความร้อนและความชื้น เพราะเสี่ยงที่จะทำให้ผื่นแย่ลงกว่าเดิม
• หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง: ผิวของเด็กเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคืองและกลายเป็นผื่นได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงสารระคายเคืองที่อาจกระตุ้นให้ลูกเป็นผื่น ไม่ว่าจะเป็นสบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรง น้ำหอม น้ำยาซักผ้า รวมถึงเวลาซักเสื้อผ้าของลูก ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และปราศจากน้ำหอมเสมอ
• หมั่นสังเกตอาการของลูก: คอยสังเกตดูว่าลูกมีสัญญาณของการติดเชื้อหรือไม่ เช่น รอยแดง บวม หนอง หรือมีไข้ หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นอาการใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้พาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
ลูกมีผื่นแดงขึ้นตามตัว ไม่คัน ส่วนมากมักจะเป็น ผดร้อน ซึ่งเป็นผดเกิดขึ้นเมื่อท่อระบายเหงื่อเกิดการอุดตัน จึงเกิดเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ บนผิวหนัง หากลูกเป็นผื่นชนิดนี้ ให้คอยระวังเรื่องสภาพอากาศภายในห้องที่อาจจะร้อนเกินไป
หาก ลูกมีผื่นแดงขึ้นตามตัว ไม่คัน หลีกเลี่ยงการพาลูกออกไปข้างนอกในช่วงที่อากาศร้อน ก็จะช่วยป้องกันผดผื่นร้อนได้ค่ะ แต่ถ้าผื่นแดงนั้นไม่มีท่าทีว่าจะลดลง หรือมีผื่นแดงติดต่อกันหลายวัน ควรหาเวลาพาลูกไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยค่ะ
ลูกมีทารกมีตุ่มใสขึ้นที่หน้า ขึ้นตามตัว คันยุบยิบ ลูกมีผื่นคันขึ้นตามตัวแต่ไม่มีไข้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
• โรคอีสุกอีใส เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ติดต่อได้ง่าย โดยจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส ๆ ที่เต็มไปด้วยของเหลว ขึ้นตามร่างกาย
• โรคมือเท้าปาก เป็นการติดเชื้อไวรัสอีกชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดแผลพุพองขนาดเล็กที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดตามบริเวณมือ เท้า และภายในปาก
• โรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังของทารกมีปฏิกิริยาต่อสารระคายเคืองหรือสารก่อภูมิแพ้ และเกิดเป็นตุ่มใส ๆ ขึ้นตามร่างกาย
• หากลูกมีตุ่มใสและมีอาการคันร่วมด้วย ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมทันทีค่ะ
บางครั้งผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังของลูกน้อย ก็อาจทำให้เกิดความสับสนได้ว่า ลูกกำลังเป็นสิวหรือเปล่า ซึ่งตุ่มที่อาจมีลักษณะคล้ายสิวนั้น อาจเป็นสิวข้าวสารในทารกแรกเกิด (Baby Milia) ซึ่งเป็นผื่นที่เกิดจากรูขุมขนอุดตัน
โดยสิวชนิดนี้ มักเกิดขึ้นที่บริเวณใบหน้า รอบดวงตา และจมูก โดยสิวข้าวสารนี้มักจะหายไปเองในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หรืออาจใช้เวลาเป็นเดือนค่ะ
ตุ่ม หรือผดผื่นที่ดูแล้วคล้ายกับยุงกัดนั้น แน่นอนว่าอาจจะหมายถึงตุ่มที่เกิดจากยุงกัดหรือแมลงสัตว์กัดต่อยจริง ๆ ก็ได้ค่ะ ซึ่งตุ่มเหล่านี้ทายา หรือดูแลรักษาความสะอาดก็สามารถดีขึ้นได้
แต่บางครั้งตุ่มที่ดูคล้ายกับยุงกัดก็อาจจะหมายถึงอาการแพ้ หรือการติดเชื้อไวรัสบางชนิดได้เหมือนกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วถ้าหากลูกมีอาการคันร่วมด้วย ให้พาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
ผื่นคันเด็ก ผื่นขึ้นตามตัวเด็ก ลูกมีผื่นคันขึ้นตามตัวแต่ไม่มีไข้ โดยมากแล้วไม่เป็นอันตรายและสามารถหายได้เอง ด้วยการทายาสำหรับรักษาผดผื่นตามที่แพทย์แนะนำ หรือการดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย
อย่างไรก็ตาม ผื่นบางชนิดอาจก่อให้เกิดอันตรายที่น่าเป็นกังวลได้เช่นกัน โดยเฉพาะผื่นที่มาพร้อมกับไข้สูง และทำให้ลูกหายใจลำบาก มีอาการปวดรุนแรง หรืออาการอื่น ๆ ร่วมด้วย กรณีเช่นนี้ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
ผื่นขึ้นตามตัวเด็ก ผื่นแดงในเด็ก ลูกเป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ คัน บางครั้งผื่นที่ขึ้นตามตัวลูกเหล่านี้ ก็เป็นสัญญาณของอาการแพ้นมวัวค่ะ ซึ่งอาการแพ้นมวัวนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจาการดื่มนมวัว และการกินอาหารที่ทำมาจากผลิตภัณฑ์นมวัวต่าง ๆ เช่น ชีส โยเกิร์ต เนย เป็นต้น โดยอาการแพ้นั้นอาจมีทั้งผดผื่นขึ้นตามร่างกาย ไปจนถึงอาการท้องเสียขั้นรุนแรง
อาการแพ้นมวัว ถือเป็นอาการแพ้อาหารที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามและคิดว่าแค่เลี่ยงนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัวก็จบกันไป เพราะจริง ๆ แล้วอาการแพ้นมวัวนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ตั้งแต่ยังเด็กค่ะ แต่ถ้าหากปล่อยไว้อาการแพ้นมวัวอาจรุนแรงขึ้น และเสี่ยงต่อลูกโซ่ภูมิแพ้ที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้ชนิดอื่น ๆ ตามมาด้วย
สำหรับเด็กที่มีอาการแพ้นมวัวนั้น โภชนาการถือเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากการกินนมแม่ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้ได้รับสารอาหารและสารภูมิคุ้มที่มีประโยชน์แล้ว คุณแม่ยังควรงดนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัวด้วยเช่นกัน เพราะเด็กบางคนสามารถแพ้นมวัวผ่านนมแม่ได้
ในกรณีที่คุณแม่มีน้ำนมไม่พอ หรือไม่สามารถให้นมแม่ไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแพทย์มักแนะนำ “โปรตีนที่ผ่านการย่อยอย่างละเอียด* (EHP)” โปรตีนนมขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติ Hypoallergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และอาจมีโพรไบโอติกส์ เช่น LGG ซึ่งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพื่อหยุดอาการแพ้นมวัว รวมถึงลดโอกาสเกิดภูมิแพ้อื่น ๆ ในอนาคต
*อ้างอิงจากแนวทางการรักษาโรคแพ้โปรตีนนมวัวของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย หน้า 33
ลูกมีผื่นแดงขึ้นตามตัว คัน ผื่นที่ขึ้นตามร่างกายนั้น เมื่อเป็นแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้ โดยเฉพาะผื่นจำพวกผดผื่นร้อน ผื่นลมพิษ ผื่นจาการระคายเคือง ผื่นจากการแพ้สารเคมี หรือผื่นจากการแพ้อาหาร เพราะตราบเท่าที่ยังต้องพบเจอกับสภาพแวดล้อม สภาพอากาศ หรือสารก่อภูมิแพ้ที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ผดผื่นเหล่านี้ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีกเรื่อย ๆ ค่ะ
ซึ่งการดูแลรักษาผื่นไม่ให้กลับมาเป็นอีก ก็จำเป็นจะต้องอาศัยการดูแลสุขลักษณะอนามัยร่วมด้วย ดังนี้
• หมั่นรักษาสุขอนามัยของลูกอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้ผิวหนังของลูกเกิดการอับชื้น หรือเกิดการหมักหมมเป็นเวลานาน
• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเหมาะสำหรับผิวอันบอบบางของลูก
• หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นหรือสารระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็นผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม แอลกอฮอล์ หรือน้ำหอม สารเคมีเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองในเด็กได้ง่าย
• คอยดูแลให้ผิวของลูกมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ผิวแห้ง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังได้ง่าย การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ หรืออาหารบางชนิดที่ก่อให้เกิดผื่นอาการแพ้
ในกรณีที่ผื่นเกิดจากอาการแพ้อาหาร หรืออาการแพ้นมวัว ลูกเป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ คัน คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับเรื่องของโภชนาการควบคู่ไปด้วย โดยลูกน้อยควรได้รับโภชนาการอย่างนมแม่ต่อเนื่อง 6 เดือนแรกเป็นอย่างน้อย
เนื่องจากนมแม่ มีสารอาหารสำคัญหลายชนิด ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของลูกน้อยให้แข็งแรง นอกจากนี้ คุณแม่ที่ให้นมแม่ ยังควรหลีกเลี่ยงการรับประทานนมวัว รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนมวัวด้วยเช่นกัน เนื่องจากเด็กบางคนสามารถมีอาการแพ้นมวัวผ่านจากการรับนมแม่ได้
ทั้งนี้ หากคุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ และมีความจำเป็นที่ต้องให้นมผงทดแทนนมแม่ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแพทย์มักแนะนำ “โปรตีนที่ผ่านการย่อยอย่างละเอียด* (EHP)” โปรตีนนมขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติ Hypoallergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และอาจมีโพรไบโอติกส์ เช่น LGG ซึ่งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพื่อหยุดอาการแพ้นมวัว รวมถึงลดโอกาสเกิดภูมิแพ้อื่น ๆ ในอนาคต
*อ้างอิงจากแนวทางการรักษาโรคแพ้โปรตีนนมวัวของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย หน้า 33
Enfa สรุปให้ ลูกไอแล้วอ้วกตอนกลางคืน วิธีแก้ทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การเปิดเครื่องทำความชื้น ...
อ่านต่อ
ลูกไอตอนกลางคืน ลูกไอ มีเสมหะ ตอนกลางคืน ลูกไอแห้งๆ ตอนกลางคืน ลูกไอ แล้วอ๊วก ตอนกลางคืน ลูกไอหนั...
อ่านต่อ
ลูกมีเสมหะ หายใจครืดคราด ไม่มีไข้ อันตรายไหม ลูกไอมีเสมหะ วิธีแก้ ทารกมีเสมหะ หายใจครืดคราด เกิดจ...
อ่านต่อ