Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
DHA ถือเป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ซึ่งหลายคนก็คงจะเคยได้ยินด้วยว่าคนท้องต้องกิน DHA ให้ถึงโดส ถ้าขาด DHA อาจส่งผลเสียต่อลูกในท้องได้ แต่ DHA คนท้อง จำเป็นจริงไหม DHA กินตอนไหน และ DHA สำคัญต่อทารกในครรภ์อย่างไร บทความนี้จาก Enfa จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความสำคัญของ DHA กับแม่ตั้งครรภ์ค่ะ
DHA (Docosahexaenoic Acid) เป็นกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า-3 ซึ่งร่างกายของเราไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้ค่ะ จำเป็นจะต้องได้รับผ่านการกินอาหาร หรืออาหารเสริมเท่านั้น
โดย DHA ทำหน้าที่สำคัญในการช่วยเสริมสร้างระบบประสาท สมอง และบำรุงสายตา เป็นอีกหนึ่งโภชนาการสำคัญที่แม่ตั้งครรภ์ควรได้รับอย่างเพียงพอ
เนื่องจาก DHA สําหรับคนท้อง มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด ป้องกันภาวะน้ำหนักแรกเกิดต่ำ และลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าหลังคลอดอีกด้วย ดังนั้น หากคุณแม่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์แล้ว หรือกำลังวางแผนจะตั้งครรภ์ ควรดูแลร่างกายให้ได้รับ DHA อย่างเพียงพอและต่อเนื่องเพื่อสุขภาพการตั้งครรภ์ที่ดี
WHO แนะนำว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ DHA อย่างน้อย 200-300 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อเสริมสร้างสุขภาพคุณแม่ไปพร้อมๆ กับ พัฒนาการของลูกน้อย
อย่างไรก็ตาม ปริมาณ DHA ในแต่ละไตรมาส ควรดูแลไม่ให้น้อยกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวันก็จริง แต่...เนื่องจากพื้นฐานสุขภาพของคุณแม่แต่ละคนแตกต่างกัน ในบางรายที่มีภาวะแทรกซ้อน หรือเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำให้เพิ่มปริมาณ DHA คนท้องไตรมาส 3 ก็ได้ค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว หากวางแผนที่จะตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่ควรเริ่มกินวิตามินคนท้องล่วงหน้าอย่างน้อย 1-3 เดือน เนื่องจากความผิดปกติแต่กำเนิดที่พบบ่อยที่สุดบางอย่าง สามารถเกิดขึ้นก่อนที่จะรู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์
ว่าที่คุณแม่ควรเริ่มกิน DHA ตั้งแต่เริ่มวางแผนที่จะตั้งครรภ์ เพื่อให้ร่างกายมีปริมาณ DHA เพียงพอให้ตัวอ่อนใช้ในการสร้างเซลล์สมอง หากทารกในครรภ์ได้รับ DHA น้อยเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้ทารกเติบโตได้ช้า ไอคิวต่ำ มีปัญหาด้านการมองเห็น และยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะการตั้งครรภ์ผิดปกติมากขึ้นด้วย เช่น คลอดก่อนกำหนด ครรภ์เป็นพิษ รวมถึงภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
DHA กินตอนไหน ก่อนอื่นต้องแยกประเภทของแหล่งอาหารที่มี DHA ก่อนค่ะ
สำหรับ DHA ที่ได้จากอาหารต่าง ๆ เช่น ปลาทะเล ไข่ ธัญพืช และอาหารทะเล แน่นอนว่าไม่มีกำหนดตายตัว เพราะอยู่ในอาหารที่กิน ดังนั้น จะกินตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ได้ค่ะ
ส่วน DHA ที่อยู่ในรูปแบบของอาหารเสริม ควรต้องกินพร้อมกับมื้ออาหาร แต่จะกินเป็นตอนเช้าหรือเย็นก็ได้ เอาตามความสะดวกของคุณแม่
อย่างไรก็ตาม ต้องดูปริมาณให้ดีนะคะ ไม่ควรบริโภคเกิน 200-300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือกินในปริมาณที่แพทย์แนะนำเท่านั้น หากกินมากไปอาจส่งผลข้างเคียงทำให้คลื่นไส้ อาเจียน หรือเสี่ยงทำให้เลือดออกง่าย
DHA หรือกรดไขมันโอเมก้า 3 จริง ๆ แล้วอัดแน่นอยู่ในอาหารต่าง ๆ ที่เรากินกันเป็นประจำนี่เองค่ะ หากเลือกกินอาหารที่มี DHA สูงเป็นประจำอยู่แล้ว ก็อาจไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริม DHA เว้นแต่ว่าแพทย์จะวินิจฉัยให้คุณแม่ควรกินอาหารเสริม DHA
โดยอาหารคนท้องที่มี DHA สําหรับคนท้องในปริมาณสูง มีดังนี้
นอกจากการกินอาหารแล้ว คุณแม่ยังสามารถเสริม DHA ได้ด้วยอาหารเสริม DHA สำหรับคนท้องค่ะ แต่ DHA คนท้องยี่ห้อไหนดี อาจจะตอบได้ยาก เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
ซึ่งคุณแม่สามารถเลือกอาหารเสริม DHA สําหรับคนท้อง ได้ ดังนี้
โดยทั่วไปแล้วคุณแม่ไม่จำเป็นต้องหยุดกิน DHA ค่ะ เพราะถึงแม้จะไม่ได้ตั้งครรภ์อีก แต่ร่างกายก็ยังจำเป็นต้องได้รับ DHA อย่างเพียงพอเพื่อเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท สมอง และสายตา
ซึ่งสมองของเด็กนั้นเริ่มพัฒนาแทบจะในทันทีหลังจากปฏิสนธิ โดยตัวคุณแม่เป็นกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยพัฒนาสมองของลูก ซึ่งวิธีหนึ่งที่ทำได้คือ การกินอาหารที่มีสารอาหารสำคัญต่อพัฒนาการทางสมอง คือ DHA
การให้ลูกได้รับ DHA ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับแม่ตั้งครรภ์ เพราะ DHA จะสะสมอยู่สะสมในสมองของเด็กมากเป็นพิเศษในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์
และหลังคลอดลูกคุณแม่ก็ยังจำเป็นจะต้องกินอาหารที่มีประโยชน์เหมือนเดิม และต้องกิน DHA ตามปกติเหมือนกับที่ทำตลอดมา เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารและโภชนาการสำคัญผ่านทางนมแม่ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตที่สมวัยค่ะ
สำหรับคุณแม่มือใหม่ การใส่ใจเรื่องโภชนาการคนท้อง เป็นสิ่งที่ต้องทำและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่เพียงช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้กับคุณแม่ แต่ยังส่งเสริมให้ทารกในครรภ์เติบโตและพัฒนาการได้ตามวัยอีกด้วย
โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรได้รับโภชนาการที่สำคัญอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง ดังนี้
นอกจากการกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับคุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วนแล้ว คุณแม่ยังสามารถเสริมโภชนาการคนท้องได้ด้วยการ ดื่มนมเอนฟามาม่า เอพลัส วันละ 2 แก้ว เพื่อให้ได้แคลเซียม โฟเลต และโคลีนตามความต้องการของคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรในแต่ละวัน (THAI DRI)
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
สำหรับคุณแม่และคุณพ่อแล้ว เราต่างอยากให้ลูกน้อยของเราเติบโตมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีพัฒนาการทา...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ DHA คนท้อง ทำหน้าที่สำคัญในการช่วยเสริมสร้างระบบประสาท สมอง และบำรุงสายตา และลดความ...
อ่านต่อ