Enfa สรุปให้:

  • เพลงกล่อมเด็ก หรือเพลงกล่อมลูก เป็นวรรณกรรมประเภทมุกปาฐะ หรือเพลงพื้นบ้านประเภทหนึ่ง ซึ่งผ่านการสืบทอดแบบปากต่อปากกันมาเรื่อย ๆ ในแต่ละท้องที่จะมีเพลงกล่อมเด็กในแบบฉบับของตนเอง เราจึงพบเพลงกล่อมเด็กมีด้วยกันหลากหลายภาษาและหลากหลายประเทศ

  • เพลงกล่อมเด็กมักมีจังหวะที่ช้าและคงที่ ใช้ถ้อยคำที่ง่าย มีสัมผัสคล้องจอง ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ จึงทำให้เพลงกล่อมเด็กสามารถปลอบประโลม สร้างความผ่อนคลายและความสงบ ทำให้ลูกน้อยผล็อยหลับได้ในที่สุด

  • เพลงกล่อมเด็กมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้ ทั้งการเรียนรู้ด้านอารมณ์ พัฒนาการการได้ยิน รวมทั้งยั้งช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ทางภาษาของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • เพลงกล่อมเด็กคืออะไร
     • เพลงกล่อมลูกมีผลอย่างไร
     • เพลงกล่อมเด็กพัฒนาสมองได้อย่างไร
     • เด็กแรกเกิดกับเพลงกล่อมเด็ก
     • แนะนำ 10 เพลงกล่อมเด็ก
     • เคล็ดลับกล่อมลูกหลับสบายด้วยดนตรี
     • ความสำคัญของการนอนกับพัฒนาการสมอง

“โยกเยกเอย น้ำท่วมเมฆ กระต่ายลอยคอ …”  เคยได้ยินเพลงนี้กันใช่ไหมคะ บางคนอาจจะร้องต่อกันได้ด้วย ท่วงทำนองพร้อมกับสำผัสภาษาของเนื้อเพลงที่ใครหลาย ๆ คนคุ้นชินกัน นี่คือเพลงกล่อมเด็กนั่นเอง! เพลงกล่อมเด็กไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวช่วยสำหรับการกล่อมลูกเข้านอนเท่านั้น แต่ยังสามารถเสริมสร้างพัฒนาการการเรียนรู้ของลูกน้อยได้ดีอีกด้วย

เพลงกล่อมเด็กคืออะไร


เพลงกล่อมเด็กที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงนกขมิ้น เพลงจันทร์เจ้า และเพลงอื่น ๆ คือ วรรณกรรมประเภทมุขปาฐะ หรือเพลงพื้นบ้านประเภทหนึ่ง ซึ่งผ่านการสืบทอดแบบปากต่อปากตามท้องถิ่นนั้น ๆ โดยเพลงกล่อมเด็กจะมีการใช้ถ้อยคำที่ง่าย มีสัมผัสคล้องจอง ทำนองเพลงช้า เพื่อใช้ในการกล่อมเด็กให้นอนหลับ หรือใช้ในการปลอบเด็กให้หยุดร้องไห้

นอกจากเพลงกล่อมเด็กจะสามารถใช้กล่อม หรือปลอบเด็กได้แล้ว เพลงกล่อมเด็กยังสามารถเป็นเครื่องมือในการส่งต่อประเพณี วัฒนธรรม จนไปถึงความรู้ให้กับคนรุ่นต่อไปได้เช่นกัน ดังนั้น เราจึงพบเห็นเพลงกล่อมเด็กที่หลากหลายตามภูมิภาคและประเทศนั้น ๆ

เพลงกล่อมลูกมีผลต่อลูกน้อยอย่างไรบ้าง


มีผลการทดลองจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งทำการศึกษาเพลงกล่อมเด็กจะส่งผลอย่างไรบ้างกับเด็กที่ได้ฟัง โดยการทดลองนี้ ได้นำเพลงกล่อมเด็กจากหลายประเทศ ต่างภาษามาทดลองเปิดให้เด็กทารกฟัง ผลลัพธ์ที่ออกมากคือ เด็กทารกทุกคนมีการตอบสนองกับเพลงกล่อมเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเพลงภาษาแม่ของตัวเอง หรือเพลงภาษาอื่น ๆ รวมทั้งยังผ่อนคลายไปกับเพลงเหล่านั้นอีกด้วย

เพลงกล่อมเด็กจึงทำหน้าที่ผ่อนคลาย ปลอบประโลม ทำให้เด็กสงบลง เข้าสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด การใช้เพลงกล่อมเด็กกับลูกน้อย ด้วยผลลัพธ์ของเพลงกล่อมเด็กเหล่านี้ จึงทำให้มีการใช้เพลงกล่อมเด็กในการกล่อมเข้านอนมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

เพลงกล่อมเด็กพัฒนาสมองลูกน้อยได้อย่างไร มีบทบาทในการเสริมสร้างพัฒนาการยังไงบ้าง


นอกจากเพลงกล่อมเด็ก จะใช้ในการกล่อมเด็กให้หลับ หรือปลอบให้หยุดร้องไห้ได้แล้ว เพลงกล่อมเด็กยังมีบทบาทในการเสริมสร้างพัฒนาการการเรียนรู้ตั้งแต่การได้ยิน จนไปถึงพัฒนาการสมองได้เช่นกัน อันที่จริงแล้ว ลูกน้อยจะสามารถได้ยินเสียงตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยจะสามารถจดจำเสียงของคุณแม่ได้ รวมทั้งยังตอบสนองกับเสียงอื่น ๆ ที่คุณแม่ฟังได้ด้วยเช่นกัน

การเปิดเพลง หรือดนตรีที่มีท่วงทำนองที่เรียบง่าย ช้า และสงบอย่างเพลงกล่อมเด็กนั้น จึงช่วยเสริมสร้างพัฒนาการการได้ยินของลูกน้อยตั้งแต่ช่วงเวลาที่อยู่ในครรภ์ จวบจนเมื่อลืมตาดูโลก นอกจากนี้ เนื้อเพลงของเพลงกล่อมเด็ก ยังช่วยให้เด็กเสริมสร้างการเรียนรู้เรื่องของภาษาและการอ่านได้เป็นอย่างดี

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

ลูกน้อยแรกเกิดของคุณแม่ตอบสนองต่อเพลงกล่อมเด็กยังไงบ้างนะ


ลูกน้อยจะสามารถเรียนรู้และแยกความแตกต่างของเสียง ระหว่างเสียงปกติกับเสียงดนตรีออกจากกันได้ตั้งแต่อายุน้อย ๆ รวมทั้งยังสามารถจดจำความแตกต่างของแต่ละเพลงและเนื้อเพลงได้เช่นกัน โดยเด็กจะตอบสนองกับเพลงกล่อมเด็กในแต่ละด้าน ดังนี้

          • ทำให้ลูกน้อยสงบและหลับได้: เพลงกล่อมเด็กจะช่วยให้ลูกน้อยสงบและกล่อมให้หลับได้ รวมทั้งยังช่วยให้เด็กสามารถแสดงอารมณ์และรับรู้ความรู้สึกของตัวเองได้ดีกว่าเดิม

          • กระตุ้นการเรียนรู้ด้านภาษา: เพลงกล่อมเด็กสามารถเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ภาษาของเด็กได้ เมื่อเด็กได้ฟังเพลงกล่อมเด็ก จะค่อย ๆ จดจำคำศัพท์และภาษาที่อยู่ในเพลงนั้น ๆ ซึ่งเป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ภาษาของเด็ก รวมทั้งยังสามารถช่วยกระตุ้นให้เด็กเริ่มฝึกพูดได้เร็วขึ้น

          • เสริมสร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูก: นอกจากการเปิดเพลงกล่อมเด็กให้ลูกน้อยได้ฟังแล้ว การที่คุณพ่อคุณแม่ร้องเพลงกล่อมเด็กให้ลูกฟัง ยังช่วยเสริมสร้างความผูกพันระหว่างลูกน้อยและคุณพ่อคุณแม่ได้เช่นกัน เป็นเสมือนกันสื่อสารระหว่างทั้งคู่

แนะนำ 10 เพลงกล่อมเด็กจาก Enfa Smart Club


สำหรับคุณพ่อและคุณแม่ที่กำลังหาเพลงกล่อมเด็กให้ลูกน้อยได้ฟัง เรามีเพลงกล่อมเด็กแนะนำจากเพลย์ลิสต์ Spotify ของ Enfa Smart Club คุณแม่สามารถเปิดสตรีมเพลงฟังกันได้เลยฟรี! มาลองฟัง 10 เพลงแนะนำจากเอนฟากันค่ะ

          1. เพลงกล่อมเด็กนอน “Twinkle Twinkle Little Star”
          2. เพลงกล่อมเด็กนอน “Bla Bla Black Sheep”
          3. เพลงกล่อมเด็กนอน “Are You Sleeping”
          4. เพลงกล่อมเด็กนอน “ช้าง”
          5. เพลงกล่อมเด็กนอน “Row Row Row Your Boat”
          6. เพลงกล่อมเด็กนอน “Hush Little Baby”
          7. เพลงกล่อมเด็กนอน “Little Brown Jug”
          8. เพลงกล่อมเด็กนอน “Kumbaya”
          9. เพลงกล่อมเด็กนอน “ลาวดวงเดือน”
          10. เพลงกล่อมเด็กนอน “The Itsy Bitsy Spider”

เคล็ดลับกล่อมลูกหลับสบายด้วยดนตรีกล่อมนอนและเพลงกล่อมเด็ก


เพื่อให้ลูกน้อยหลับสบายด้วยการใช้ดนตรีกล่อมเด็กกล่อมลูกเข้านอน เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาแบ่งปันคุณพ่อคุณแม่เมื่อต้องใช้ดนตรีกล่อมทารกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกัน ตามมาดูกันเลย!

         • เริ่มฝึกให้ฟังเพลงกล่อมเด็กอายุไหนก็ได้: การเปิดเพลงกล่อมเด็กให้ลูกน้อยฟัง สามารถเริ่มเปิดให้ฟังตั้งแต่อายุน้อย ๆ ได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอให้โตก่อน โดยสามารถใส่กิจกรรมฟังเพลงกล่อมเด็กเข้าไปในกิจวัตรประจำวันก่อนนอนในแต่ละวันได้เลย เพื่อให้ลูกน้อยคุ้นชินและทำเป็นกิจวัตร

         • เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม: เลือกใช้อุปกรณ์ที่แต่ละบ้านสะดวกจะใช้ในการเปิดเพลงกล่อมเด็ก ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ เครื่องเล่นเสียง คอมพิวเตอร์ หรือลำโพงบลูทูธ จัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมใช้ในทุก ๆ วัน

         • เลือกจังหวะดนตรีที่เหมาะสม: ถึงแม้ว่าเพลงกล่อมเด็กจะมีท่วงทำนองที่คล้าย ๆ กัน นั่นคือ มีทำนองที่ช้า ฟังสบาย แต่เพลงกล่อมเด็กก็ยังมีทำนองและจังหวะที่แตกต่างกันไปในแต่ละเพลง เราจึงควรเลือกเพลงกล่อมเด็กที่มีจังหวะที่เหมาะสมกับลูกน้อย โดยแนะนำเพลงที่มีจังหวะอยู่ที่ประมาณ 60 – 80 BPM ซึ่งยังเป็นความถี่เฉลี่ยนจังหวะการเต้นของหัวใจที่ลูกน้อยได้ฟังจากอกในตอนที่อุ้ม หรือให้นมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังควรเลือกเพลงที่ไม่มีการเร่งจังหวะ เพื่อเป็นการเลี่ยงการกระตุ้นที่ทำให้ตื่นจากภวังค์ สะกิดให้ตื่น หรือตกใจ

         • ใช้เวลาในเพียงแค่ 30 นาที: ไม่ควรเปิดเพลงกล่อมเด็กตลอดทั้งคืน ควรใช้เวลาในการเปิดเพลงกล่อมเด็กเพียงแค่ 30 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่กำลังดีและเหมาะสมกับลูกน้อย เพราะการเปิดเพลงกล่อมเด็กทั้งคืน จะทำให้ลูกน้อยไม่สามารถตอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือไม่สามารถหลับได้ลึกนั่นเอง

นอกจากนี้ หากต้องการใช้เสียงอย่าง White Noise เปิดระหว่างคืน ควรใช้อุปกรณ์ชนิดนี้โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการเปิดจากแอปพลิเคชัน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การใช้อุปกรณ์ผลิตเสียง White Noise ก็มีข้อเสียเช่นกัน ซึ่งอาจจะทำให้เด็กไม่สามารถหลับได้เองหากปราศจากอุปกรณ์นี้ หรือในเด็กบางราย การใช้อุปกรณ์ผลิตเสียง White Noise ก็อาจจะไม่เป็นผล อีกทั้งยังทำให้รู้สึกว่าเสียงอุปกรณ์นั้น กลายเป็นเสียงรบกวนระหว่างการนอนหลับ

         • ใช้เวลาในการฝึกกล่อมเมื่อใช้เพลงร่วมด้วย: ต้องบอกก่อนว่า ไม่ใช่เด็กทุกคนที่สามารถฟังเพลงกล่อมเด็กแล้วหลับได้เลย เด็กแต่ละคนมีความต้องแตกต่างกันออกไป หากเราเริ่มฝึกการกล่อมพร้อมกลับเพลงกล่อมเด็กแล้วไม่เป็นผล ให้ลองใหม่ในโอกาสต่อ ๆ ไป หรือหากไม่เป็นผลเลย ก็หยุดการฝึกนอนร่วมกับการเปิดเพลงกล่อมเด็ก

         • ใช้เพลงกล่อมเด็กได้ทุกที่: ไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ หรืออยู่นอกสถานที่ที่ไม่ใช่บ้าน เราก็สามารถใช้เพลงกล่อมเด็ก กล่อมลูกนอนได้ตลอดในทุก ๆ ที่

เข้าใจความสำคัญของการนอนหลับต่อพัฒนาการสมองของลูกน้อย


คุณแม่และคุณพ่อทราบกันหรือไม่คะว่า พัฒนาการสมองของลูกน้อย เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแม้ในยามหลับ ซึ่งในช่วงเวลาที่ลูกน้อยเข้านอนนั้น สมองที่ยังคงทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้มาในแต่ละวัน นำมาสร้างเป็นความทรงจำระยะยาวเพื่อนำมาใช้งานในภายหลัง ดังนั้นพัฒนาการสมองและการเรียนรู้ไม่ได้ทำงานแค่ช่วงเวลากลางวันเท่านั้น แต่ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลากลางคืนที่ลูกน้อยเข้านอนอีกด้วย

เพื่อเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการสมองของลูกน้อยอย่างต่อเนื่อง การนอนหลับที่ดีและมีคุณภาพจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเด็กในทุก ๆ วัย โดยการนอนหลับที่ดี ไม่เพียงช่วยในเรื่องของพัฒนาการสมองเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างระบบอื่น ๆ ของร่างกายลูกน้อยให้ทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพ

สมัครสมาชิก Enfa Smart Club ฟรี



บทความแนะนำสำหรับการนอนหลับของลูกน้อย