ลูกมีเสลดในคอ ทําไงดี มีวิธีวิธีดูดเสลดในคอทารกอย่างไรบ้าง

Enfa สรุปให้

• ทารกมีเสลดในลำคอ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการติดเชื้อในลำคอ โรคหืด หลอดลมอักเสบไข้หวัด หรืออาจเกิดจากอาการแพ้นมวัว เป็นต้น
• หากทารกมีเสลดในลำคอ คุณพ่อคุณแม่จะต้องช่วยขับเสมหะในลำคอให้ลูก โดยอาจใช้วิธีการเคาะปอด หรือดูดเสมหะในลำคอทารกด้วยยางแดง
• หากลูกมีอาการเสมหะไม่หยุด ทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น ควรพาลูกไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคเรื้อรังบางชนิดได้

เวลาที่เบบี๋ตัวน้อยไม่สบาย บางครั้งอาจพ่วงมาด้วยอาการเสมหะในลำคอ ทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลใจ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อลูกมีเสลดในคอ ทําไงดีถึงจะหาย วันนี้ Enfa มีวิธีดูดเสลดในคอทารกที่ทำได้ง่าย ๆ มาฝากค่ะ

ลูกมีเสลดในคอ ทําไงดี

ทารกมีเสลดในคอ ทําไงดี? หากลูกมีเสลดหรือเสมหะในลำคอ ก็ต้องขับเสมหะนั้นออกมาค่ะ เพื่อให้ลูกรู้สึกสบายตัวขึ้น

ซึ่งวิธีระบายเสมหะในลำคอนั้น อาจต้องมีการกินยา การดูดเสมหะ หรือใช้วิธีเคาะปอด เพื่อช่วยให้สามารถระบายเสมหะออกจากลำคอได้ดี

ทารกแรกเกิดมีเสมหะในคอ อันตรายไหม

การมีเสมหะในลำคอ เป็นเรื่องปกติค่ะ ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายรุนแรงที่น่าเป็นกังวล การดูแลรักษาตามอาการ และระบายเสมหะออกจากลำคอ สามารถช่วยให้ทารกหายเป็นปกติได้

เสลดในคอทารก เกิดจากอะไร

ทารกมีเสลดในคอ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น:

• เยื่อบุปอดเกิดการอักเสบ ร่างกายจึงปล่อยสารคัดหลั่งออกมาเคลือบลำคอ
• มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหลอดลมและก่อให้เกิดการระคายเคือง
• โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) และจมูกอักเสบชนิดไม่แพ้ (Non-Allergic Rhinitis)
• โรคไซนัสอักเสบ (Rhinosinusitis)
• โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic Bronchitis) และโรคหืด (Asthma)
• การติดเชื้อเรื้อรังบริเวณคอ
• โรคภูมิแพ้
• ไข้หวัด
• กรดไหลย้อน

หากลูกมีเสมหะในลำคอบ่อย ๆ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร จะได้เข้ารับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป อย่าปล่อยไว้จนกระทั่งลูกเป็นโรคเรื้อรังขั้นรุนแรง

วิธีแก้เสมหะในคอทารก มีอะไรบ้าง

วิธีแก้เสมหะในคอทารก สามารถทำได้หลายวิธี คือ

• หากทารกมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป สามารถให้ลูกดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อขับเสมหะในลำคอได้ค่ะ
• ทำการเคาะปอดทารก โดยเคาะเบา ๆ ที่ด้านหลังของทารก เพื่อช่วยเร่งเสมหะในลำคอให้ระบายออกมา
• ทำการดูดเสมหะในลำคอลูกด้วยลูกยางแดง เพื่อดูดเอาเสมหะออกมา

แต่ถ้าหากคุณแม่ได้พยายามทำหลายวิธีแล้ว แต่ลูกยังมีเสมหะในลำคออยู่อีก ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ และรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ

วิธีดูดเสลดในคอทารก

วิธีดูดเสมหะทารก เป็นอีกวิธีช่วยระบายเสมหะในลำคอลูกที่ทำได้ง่ายมาก ๆ ดังนี้ค่ะ

• เตรียมลูกยางแดงสำหรับใช้ดูดเสมหะให้เรียบร้อย
• บีบลูกยางแดงแล้วค่อย ๆ สอดเข้าไปในปากลูก ให้ปลายลูกยางแดงชนกับโคนลิ้น
• เมื่อลูกยางแดงสัมผัสโคนลิ้น ลูกจะเริ่มมีอาการไอ ให้ทำการดูดน้ำมูกทันที  
• เพื่อป้องกันไม่ให้ทารกสำลักเสมหะ ควรตะแคงข้างทารกก่อนทำการดูดเสมหะ

ท่าเคาะปอด ช่วยลูกน้อยระบายเสมหะในคอ

การเคาะปอด เป็นอีกหนึ่งวิธีการระบายเสมหะในลำคอของลูกน้อยที่ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

• ท่าที่ 1 อุ้มลูกหันหน้าเข้าอก วางศีรษะลูกพาดกับบ่า วางผ้าขนหนูที่หลังของลูก แล้วจุ้มมือขึ้นมา เคาะลงไปที่เหนือบริเวณกระดูกสะบัก
• ท่าที่ 2 ให้ลูกนอนหงายหนุนหมอน นำผ้าขนหนูมาวางตรงหน้าอกของลูก แล้วเคาะลงไปที่บริเวณไฟปลาร้าหรือใต้ราวนม
• ท่าที่ 3 ให้ลูกนอนตะแคงพร้อมยกแขนขึ้นไปด้านหน้าเล็กน้อย วางผ้าขนหนูที่ด้านข้างลำตัวของลูก แล้วเคาะลงไปที่บริเวณเหนือชายโครงด้านข้าง ต่ำจากรักแร้เล็กน้อย

ทารกมีเสลดในคอ อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณของอาการแพ้นมวัว

หากทารกมีเสมหะในลำคอบ่อย ๆ อาจเป็นไปได้ว่าลูกกำลังแพ้นมวัวอยู่ค่ะ เพราะในเด็กเล็ก ๆ นั้นระบบทางเดินอาหารยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงยังไม่สามารถย่อยโมเลกุลโปรตีนและแล็กโทสในนมวัวได้ จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เกิดอาการแพ้นมวัวตามมา ได้แก่

• มีผื่นขึ้นตามร่างกาย
• เป็นลมพิษ
• มีอาการคันตามผิวหนัง
• มีอาการไอ จาม
• มีเสมหะในลำคอ
• หายใจเหนื่อยหอบ
• เวลาหายใจจะมีเสียงวี้ด
• ท้องเสีย
• ท้องผูก
• อาเจียน

หากลูกมีเสมหะบ่อย ๆ คุณพ่อคุณแม่ควรหาเวลาพาลูกไปเข้ารับการตรวจร่างกายกับแพทย์ เพื่อหาสาเหตุของปัญหาสุขภาพที่ลูกน้อยอาจกำลังเผชิญอยู่นะคะ

รู้ได้ยังไงว่าทารกมีเสลดในคอ

หากลูกมีอาการไอไม่หยุด จนคล้ายจะมีอาการไอเรื้อรัง และเวลาไอ มักจะอาเจียนเอาเสมหะออกมาด้วย ลักษณะเช่นนี้แปลว่าลูกมีเสมหะในลำคอ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จะต้องช่วยลูกขับเสมหะออกมาให้หมด ใช้วิธีบรรเทาอาการไอของลูกน้อย อาการเจ็บคอ และอาการไม่สบายตัวของทารกน้อย

ทารกไอเสมหะออกมาได้ไหม

ทารกสามารถไอเอาเสมหะออกมาได้ค่ะ แต่ไม่สามารถขับเสมหะออกมาได้ทั้งหมดผ่านการไอเพียงอย่างเดียว จำเป็นจะต้องใช้วิธีอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การเคาะปอด การดูดเสมหะในลำคอ หรือในบางกรณีอาจจำเป็นต้องกินยาขับเสมหะตามที่แพทย์สั่ง