นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

  •  เข้าสู่ระบบ
  •  สมัครสมาชิก Enfa Smart Club
  • ผลิตภัณฑ์
    • ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด​
    • เอนฟินิทัส
    • เอพลัส มายด์โปร เจนเทิล แคร์
    • เอพลัส ซี-ไบโอม
    • เอพลัส มายด์โปร
    • เอนฟาโกร สมาร์ทพลัส
    • ยูเอชที ซุพีเรียร์
    • ยูเอชที
    • เอนฟามาม่า เอพลัส
    • นมสูตรพิเศษ
  • พัฒนาการลูกน้อย
    • คุณแม่ตั้งครรภ์
  • ทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF
    • MFGM เพื่อ IQ และ EF ที่เหนือกว่า
  • เลือกโภชนาการที่ใช่
    • นมแม่ดีที่สุด
    • น้ำนมเหลือง
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กแพ้นมวัว
    • โภชนาการย่อยง่าย แก้ปัญหาเด็กไม่สบายท้อง
  • Enfa Smart Club
    • สมัครสมาชิก
    • สิทธิประโยชน์
  • Cart
    00 items
Home / Pregnancy / ตรวจครรภ์ เร็วสุดกี่วัน? ตรวจครรภ์ วิธีไหนแม่นยำที่สุด?

ตรวจครรภ์ เร็วสุดกี่วัน? ตรวจครรภ์ วิธีไหนแม่นยำที่สุด?

Enfa สรุปให้

  • ตรวจตั้งครรภ์เร็วสุดกี่วัน หลังจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ไป 12-14 วัน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้
  • ตรวจการตั้งครรภ์ สามารถทำได้ทั้งการตรวจในห้องปฏิบัติการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และตรวจเองที่บ้านโดยใช้ที่ตรวจครรภ์ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
  • วิธีตรวจครรภ์โดยแพทย์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี เพราะได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง และถ้าหากมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจริง คุณแม่สามารถเข้าสู่กระบวนการฝากครรภ์ได้เลยทันที

 

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • ตรวจตั้งครรภ์มีกี่วิธี และตรวจอย่างไรบ้าง
  • ตรวจตั้งครรภ์เร็วสุดกี่วัน
  • ค่า hCG กับการตรวจครรภ์
  • เมื่อไหร่ถึงควรตรวจตั้งครรภ์
  • ผลตรวจครรภ์อ่านอย่างไร
  • วิธีตรวจครรภ์ในสมัยโบราณ
  • เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการตรวจครรภ์
  • ไขข้อข้องใจเรื่องการตรวจครรภ์กับ Enfa Smart Club

 

การตรวจครรภ์ ถือว่าเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในระยะแรกเริ่มของการตั้งครรภ์ เพราะจะทำให้คุณแม่ได้ทราบว่า หลังจากเริ่มมีอาการคล้ายอาการคนท้องแล้ว ขณะนี้ตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ ซึ่งบางคนก็อาจจะรู้สึกได้ถึงอาการแพ้ท้อง แล้วจึงทำการตรวจครรภ์ ขณะที่บางคนไม่มีอาการแพ้ท้องหรืออาการผิดปกติใด ๆ เลย กว่าจะรู้ว่าตั้งครรภ์อีกทีก็อาจจะเข้าไตรมาสที่สองไปแล้ว

ดังนั้น บทความวันนี้จาก Enfa จึงจะพาคุณแม่ทุกคนมารู้จักกับการตรวจครรภ์แบบต่าง ๆ กันค่ะ มาดูกันว่าตรวจการตั้งครรภ์ ทำอย่างไร? เช็กวิธีตรวจครรภ์ ด้วยวิธีไหนถึงจะให้ผลแม่นยำที่สุด คํานวณอายุครรภ์กี่สัปดาห์? และตรวจตั้งครรภ์เร็วสุดกี่วัน? ถึงจะพบว่ามีการตั้งครรภ์ มาหาคำตอบเหล่านี้กันได้เลยค่ะ

 

ตรวจตั้งครรภ์ทำอย่างไร เช็กวิธีตรวจครรภ์เรียงลำดับตามความแม่นยำ


การตรวจครรภ์ สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

 

ตรวจครรภ์โดยแพทย์ หรือตรวจครรภ์ในห้องปฏิบัติการ

 

1. ตรวจครรภ์ด้วยการเจาะเลือดตรวจครรภ์ (Blood Test)

การตรวจเลือดตั้งครรภ์ หรือการตรวจเลือดเพื่อหาการตั้งครรภ์ เป็นอีกหนึ่งวิธีการตรวจครรภ์ที่ให้ผลลัพธ์แม่นยำสูง เพราะผลการตรวจเลือดไม่เพียงแค่จะบอกว่าคุณแม่กำลังตั้งท้องหรือไม่ แต่ยังสามารถตรวจพบระดับฮอร์โมน hCG หรือฮอร์โมนการตั้งครรภ์ได้อีกด้วย

ซึ่งสามารถตรวจได้ 2 วิธี คือ

  • การตรวจเลือดเพื่อหาปริมาณ hCG (Quantitative blood test) เพื่อดูว่ามีปริมาณ hCG เท่าไหร่ อายุครรภ์กี่สัปดาห์แล้ว และมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ใดบ้าง ซึ่งการตรวจเลือดแบบนี้อาจจะต้องรอผลตรวจตั้งแต่ 1-3 วัน เพราะเป็นการตรวจในห้องปฏิบัติการ
  • การตรวจเลือดเพื่อวัดคุณภาพของhCG (Qualitative blood test) เพื่อดูว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีปริมาณ hCG เท่าไหร่ หรือตั้งครรภ์ได้กี่สัปดาห์แล้ว หรือมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์อย่างไรบ้าง

 

2. ตรวจครรภ์ด้วยการตรวจปัสสาวะคนท้อง "Urine Pregnancy Test" หรือ ยูพีที (UPT)

การตรวจปัสสาวะเป็นวิธีที่ง่ายมาก ทำได้โดยการปัสสาวะผ่านแท่งตรวจ ซึ่งแท่งตรวจก็จะมีทั้งแท่งตรวจแบบหยด และแท่งตรวจแบบจุ่ม

  • สำหรับแท่งตรวจแบบจุ่ม ก็จะต้องปัสสาวะใส่ในถ้วยตวงปัสสาวะ และนำแท่งตรวจจุ่มลงไปในปัสสาวะ ทิ้งไว้สักพักเพื่อรอผล
  • สำหรับแท่งตรวจแบบหยด ผู้ตรวจจำเป็นจะต้องปัสสาวะผ่านแท่งตรวจให้พอชุ่ม แล้ววางทิ้งไว้เพื่อรอผลตรวจ

 

3. ตรวจครรภ์ด้วยการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยอัลตราซาวนด์

การตรวจการตั้งครรภ์ ด้วยวิธีนี้ จะเป็นการตรวจด้วยการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในช่องท้องและสร้างภาพขึ้นมา ทำการตรวจโดยแพทย์ทั่วไปหรือสูตินรีแพทย์

ซึ่งนอกจากจะช่วยตรวจดูว่ามีการตั้งครรภ์แล้ว ยังสามารถบอกตำแหน่งการตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์แฝดหรือไม่ มีการท้องนอกมดลูกหรือไม่ มดลูกมีก้อนเนื้องอกมดลูก ถุงน้ำ หรือซีสต์รังไข่หรือไม่ เป็นต้น

นอกจากนี้ หลังอายุครรภ์ 4 เดือนไปแล้ว การตรวจอัลตราซาวนด์ยังสามารถตรวจเพศของลูก และคัดกรองความพิการหรือภาวะผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เช่น รกเกาะต่ำ ภาวะน้ำคร่ำมากหรือน้อยเกินไป ความพิการแต่กำเนิดของทารก เป็นต้น

 

ตรวจครรภ์โดยตรวจด้วยตนเอง

ตรวจตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง แบบที่คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง โดยการซื้อที่ตรวจครรภ์ หรือชุดทดสอบการตั้งครรภ์จากปัสสาวะที่จำหน่ายอยู่ในร้านค้าทั่วไปหรือร้านขายยา

ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีทดสอบหาฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ที่ออกมากับปัสสาวะ โดยเป็นฮอร์โมนที่ถูกสร้างจากรกและบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ โดยสามารถตรวจพบฮอร์โมน hCG ได้ในปัสสาวะ หลังจากปฏิสนธิไปแล้ว 1-2 สัปดาห์ และระดับฮอร์โมนจะขึ้นสูงสุดในช่วง 9-12 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ ซึ่งความแม่นยำของการตรวจวิธีนี้จะมีมากถึง 90 %

โดยอุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์นี้แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ คือ

 

 

  • ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม

อุปกรณ์ชุดนี้จะมีราคาถูก ประกอบไปด้วยแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ และถ้วยตวง (บางยี่ห้อไม่มี) วิธีการใช้คือเก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง แล้วนำแผ่นทดสอบจุ่มลงในถ้วยตวงประมาณ 3 วินาที แล้วนำออกมาจากถ้วยตวง ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีเพื่อรออ่านผลตรวจครรภ์ ข้อควรระวัง คือ อย่าให้น้ำปัสสาวะเลย หรือสูงเกินกว่าขีดลูกศรของแผ่นทดสอบ

 

  • ที่ตรวจครรภ์แบบหยด หรือแบบปัสสาวะผ่าน 

มีเพียงแท่งตรวจครรภ์ที่ใช้ในการทดสอบเท่านั้น วิธีการใช้คือ ถอดฝาครอบออกแล้วถือแท่งให้หัวลูกศรชี้ลงพื้น แล้วปัสสาวะผ่านบริเวณที่ต่ำกว่าลูกศรให้ชุ่มประมาณ 30 วินาที จากนั้นรออ่านผลประมาณ 3-5 นาที

 

  • ที่ตรวจครรภ์แบบปากกาหรือแบบตลับ 

ชุดอุปกรณ์จะประกอบไปด้วยหลอดหยด ตลับตรวจครรภ์ และถ้วยตวงปัสสาวะ ขั้นตอนการใช้ คือ เก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง จากนั้นนำหลอดหยดดูดน้ำปัสสาวะแล้วหยดลงในตลับตรวจครรภ์ประมาณ 3-4 หยด วางตลับทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วจึงอ่านผลการตรวจ

 

  • ที่ตรวจครรภ์ดิจิทัล

ประกอบไปด้วยอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว คือ แท่งสำหรับตรวจครรภ์ที่เป็นแบบดิจิทัล มีลักษณะคล้ายกับที่ตรวจครรภ์แบบปากกา และวิธีใช้ก็คล้ายกันด้วย คือเพียงแค่ถอดฝาครอบแท่งตรวจครรภ์ออก แล้วถือให้ลูกศรหัวทิ่มลงพื้น จากนั้นปัสสาวะผ่านให้โดนบริเวณที่อยู่ตำกว่าลูกศร โดยปัสสาวะผ่านประมาณ 5-30 วินาที เพื่อให้ที่ตรวจครรภ์มีความชุ่มเพียงพอ จากนั้นวางพักไว้ในแนวราบ และรออีกประมาณ 5 นาที เพื่ออ่านผลลัพธ์การตั้งครรภ์

 

ตรวจตั้งครรภ์เร็วสุดกี่วัน


หลายคนก็อาจจะสงสัยว่า หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว อีกกี่วันถึงจะรู้ว่าท้อง? และกระบวนการที่จะสามารถบอกได้ว่าท้องหรือไม่ท้องนั้นก็คือการตรวจครรภ์นั่นเอง ซึ่งก็สามารถเลือกได้ว่าจะตรวจด้วยตนเอง หรือเข้ารับการตรวจโดยตรงกับแพทย์

ส่วนระยะเวลาในการตรวจนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าคำนวณวันตกไข่ไว้ได้อย่างแม่นยำหรือไม่ เพราะถ้าหากคำนวณวันตกไข่เอาไว้แล้ว หลังจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ไปอีก 12-14 วัน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เพราะเป็นระยะเวลาที่มีการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิเสร็จสมบูรณ์พอดี การตรวจในระยะนี้ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรตรวจครรภ์เร็วเกินไป เพราะการตรวจครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ผ่านไปแค่ไม่กี่วัน ไม่ได้เป็นตัวการันตีผลตรวจครรภ์ว่าจะมีความแม่นยำสูง แต่กลับเสี่ยงที่จะเกิดการคลาดเคลื่อนเพราะการปฏิสนธิอาจจะยังไม่สมบูรณ์ดี ทางที่ดีควรรออย่างน้อย 12-14 วันหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ในวันตกไข่จะได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด

 

ค่า hcg สำคัญกับการตรวจครรภ์อย่างไร


hCG คืออะไร

ฮอร์โมน hCG เป็นฮอร์โมนการตั้งครรภ์ที่เกิดจากรก ประกอบไปด้วยความยาวกรดอะมิโนจำนวน 237 ตัว แบ่งเป็น

  • อัลฟ่า เอชซีจี (Alpha Subunit) หรือ Alpha-hCG คือ ประกอบย่อยของฮอร์โมน hCG มีความยาวของกรดอะมิโน 92 ตัว
  • เบต้า เอชซีจี (Beta Subunit) หรือ Beta-hCG คือ ประกอบย่อยของฮอร์โมน hCG มีความยาวของกรดอะมิโน 145 ตัว

ซึ่งจะฮอร์โมน hCG จะสามารถตรวจพบได้หลังจากผ่านการปฏิสนธิไปแล้ว 6 วัน หากมีระดับ hCG สูงก็แปลว่ากำลังตั้งครรภ์ แต่ถ้าระดับ hCG อยู่ในระดับต่ำถึงต่ำมาก ก็แปลว่ายังไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ซึ่งการตรวจหา hCG นั้นจะตรวจเพื่อดักจับส่วนประกอบย่อยฮอร์โมน โดยใช้น้ำยาสำหรับตรวจหา hCG โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม hCG ยังสามารถบอกถึงความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้อีกด้วย เพราะแม้ว่าจะตรวจพบการตั้งครรภ์แล้ว แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่งแล้วพบว่าระดับ hCG ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องอยู่ เนื่องจากเป็นการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ และอาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของการเสียชีวิต

หรือถ้าหากจู่ ๆ ระดับ hCG เกิดพุ่งสูงขึ้นมา ก็อาจเป็นสัญญาณเสี่ยงของครรภ์ไข่ปลาอุก ซึ่งเป็นภาวะที่ตัวอ่อนไม่เจริญเติบโตเป็นทารก แต่กลายเป็นเนื้องอกที่ไม่ได้ร้ายแรงแทน

 

ค่า hCG คนท้อง

ค่า hCG ในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ จะอยู่ที่ 25 mIU/mL แต่ถ้าหากตรวจพบอยู่ที่ 6-24 mIU/mL ถือว่าเป็นระยะอ่อนไหวที่อาจจะต้องกลับมาตรวจอีกรอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น โดยค่า hCG ก่อนจะทยอยเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงไตรมาสแรก จากนั้นจะค่อย ๆ ลดปริมาณลงในไตรมาสสุดท้าย

ค่า hCG ของคนท้องสามารถตรวจพบตามอายุครรภ์เป็นสัปดาห์ ดังนี้

  • อายุครรภ์ 3 สัปดาห์: 6 – 70 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 4 สัปดาห์ : 10 - 750 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 5 สัปดาห์: 200 - 7,100 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 6 สัปดาห์: 160 - 32,000 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 7 สัปดาห์: 3,700 - 160,000 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 8 สัปดาห์ s: 32,000 - 150,000 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 9 สัปดาห์: 64,000 - 150,000 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 10 สัปดาห์: 47,000 - 190,000 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 12 สัปดาห์: 28,000 - 210,000 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 14 สัปดาห์: 14,000 - 63,000 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 15สัปดาห์: 12,000 - 71,000 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 16 สัปดาห์: 9,000 - 56,000 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 16 - 29 สัปดาห์ (ไตรมาสสอง): 1,400 - 53,000 mIU/mL
  • อายุครรภ์ 29 - 41 สัปดาห์ (ไตรมาสสาม): 940 - 60,000 mIU/mL

 

ค่า hCG คนไม่ท้อง

ค่า hCG ที่น้อยกว่า 5 mIU/mL ถือว่าไม่พบการตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากตรวจพบอยู่ที่ 6-24 mIU/mL ถือว่าเป็นระยะอ่อนไหวที่อาจจะต้องกลับมาตรวจอีกรอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น

 

ตรวจ hCG กี่วัน

การตรวจวัดระดับhCG แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้

  • ตรวจโดยการตรวจเลือด สามารถตรวจพบระดับ hCG ได้หลังจากที่มีการปฏิสนธิผ่านไปแล้ว 8-11 วัน
  • ตรวจโดยการตรวจปัสสาวะ สามารถตรวจพบระดับ hCG ได้หลังจากที่มีการปฏิสนธิผ่านไปแล้ว 12-14 วัน

 

ค่า hCG ขึ้นน้อย แต่ท้อง เป็นไปได้ไหม

โดยทั่วไปแล้วระดับ hCG ที่ต่ำกว่า 5 mIU/mL ถือว่าไม่พบการตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากตรวจพบอยู่ที่ 6-24 mIU/mL ถือว่าเป็นระยะอ่อนไหวที่อาจจะต้องกลับมาตรวจอีกรอบ ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น แต่ตรวจครรภ์เร็วเกินไป ทำให้ระดับฮอร์โมนมีน้อยกว่าที่ควรจะตรวจพบการตั้งครรภ์

 

ตรวจครรภ์ได้ตอนไหน ตรวจเมื่อไหร่ถึงชัวร์ที่สุด


โดยปกติแล้วคงไม่มีใครที่จู่ ๆ ก็นึกอยากจะตรวจครรภ์ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ เพราะคนที่ต้องการจะตรวจครรภ์นั้น ก็มักจะมีเหตุปัจจัยบางประการที่รู้สึกว่าตัวเองอาจจะกำลังตั้งครรภ์โดยที่ไม่ทันรู้ตัว หรือสังเกตว่าประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ มีอาการคนท้อง หรือเริ่มมีอาการแพ้ท้อง

ดังนั้น หากจะถามว่า ควรตรวจครรภ์ตอนไหน ก็คงจะต้องขึ้นอยู่กับว่า อยู่ระหว่างการพยายามตั้งครรภ์หรือไม่ ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือเปล่า หรือมีอาการแพ้ท้องเบื้องต้นไหม หากมีอาการบ่งชี้อย่างใดอย่างหนึ่ง และสงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งท้องหรือไม่ ก็สามารถที่จะตรวจครรภ์ได้ทันที

แต่หากจะถามว่า แล้วตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด ตรวจครรภ์ควรตรวจตอนไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงที่สุด คำตอบคือ ควรจะต้องรอจนกว่าจะถึงวันที่ประจำเดือนขาดไป จึงเริ่มทำการตรวจครรภ์ได้

แต่ในกรณีที่ต้องการตรวจเร็วที่สุด ส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณแม่ได้คำนวณวันตกไข่ไว้ก่อนหน้านั้นหรือไม่ หรือจำครั้งสุดท้ายที่มีเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่ หากมีข้อมูลในส่วนนี้ ก็ให้นับไป 12-14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ในวันที่คาดว่าจะมีการตกไข่แล้ว ซึ่งช่วงระยะเวลาดังกล่าวถือว่าเป็นระยะเวลาเร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้

แต่ถ้าหากตรวจครรภ์ก่อน 12-14 วันหลังการมีเพศสัมพันธ์ในวันไข่ตก แบบนี้ถือว่าตรวจครรภ์เร็วเกินไป ก็อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่แม่นยำ เพราะการปฏิสนธิยังไม่สมบูรณ์ ระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์ยังไม่คงที่ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ตรงกับความจริงที่กำลังตั้งครรภ์อยู่

 

ปฏิสนธิกี่วันถึงจะรู้ว่าท้อง เราควรเริ่มนับความเป็นไปได้ในการตั้งครรภ์จากวันที่มีเพศสัมพันธ์ไหม

แม้ส่วนมากแล้วมักจะมีการแนะนำให้ตรวจครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ล่าสุด แต่อย่าลืมว่าไม่ใช่การมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งจะนำไปสู่การตั้งครรภ์ การมีเพศสัมพันธ์ที่จะนำไปสู่การตั้งครรภ์ จะต้องเป็นจังหวะที่ร่างกายของผู้หญิงมีการตกไข่ จึงจะมีโอกาสที่จะเกิดการตั้งครรภ์ได้

 

แล้วแบบนี้หลังปฏิสนธิกี่วันถึงจะรู้ว่าท้อง

ส่วนมากแล้ว หากสามารถคาดคะเนวันที่จะมีการตกไข่ได้ ก็ให้นับจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ในวันไข่ตกไป 12-14 วันหลังปฏิสนธิ ก็อาจจะสามารถทราบได้ว่ากำลังตั้งท้องหรือไม่

 

ท้องกี่สัปดาห์ตรวจเจอ ตรวจครรภ์ต้องรอ 14 วัน จริงหรือ ตัวเลขนี้มาจากไหน

การตรวจครรภ์อย่างเร็วที่สุดที่สามารถตรวจพบได้คือ 12-14 วัน เพราะหลังจากที่มีการตกไข่ ประจำเดือนของผู้หญิงจะมาอีกใน 14 วันถัดมา ซึ่งก็แปลว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น

แต่ถ้าครบ 14 วันหลังการมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดในวันที่มีการตกไข่แล้วประจำเดือนยังไม่มา ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ใช้ได้ผลกับคนที่ประจำเดือนมาปกติเท่านั้น ในกรณีที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจจะต้องมาคำนวณหาครั้งล่าสุดที่มีประจำเดือน และคำนวณวันที่คาดว่าจะมีไข่ตก แล้วนำข้อมูลมาประกอบกันเพื่อคำนวณดูว่าหลังจากนั้นประจำเดือนจะมาในช่วงไหน

 

ผลตรวจครรภ์อ่านอย่างไร ทำความเข้าใจ Sensitivity ของการตรวจแต่ละแบบ


ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด

เป็นที่ค่อนข้างจะแน่นอนว่า หากผลจากที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด หรือผลเป็นบวก ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่ด้วย เพราะน่าจะกำลังมีเบบี๋ตัวน้อย ๆ เข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวเร็ว ๆ นี้

อย่างไรก็ตาม ผลตรวจครรภ์ 2 ขีด ก็ยังแบ่งออกเป็นกรณีต่าง ๆ ดังนี้

 

  • ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีดเข้ม บอกอะไร

ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีดเข้ม แสดงว่า น่าจะกำลังตั้งครรภ์ เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น ควรทำการตรวจใหม่อีกครั้งในอีก 2-3 วันข้างหน้าด้วยที่ตรวจครรภ์อันใหม่ หรือไปเข้ารับการตรวจโดยตรงอีกครั้งกับแพทย์

 

  • ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 1 ขีดเข้ม 1 ขีดจาง บอกอะไร

ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด แต่อีกขีดหนึ่งขีดแค่เพียงจาง ๆ ก็เป็นผลลัพธ์ที่แสดงว่า น่าจะกำลังตั้งครรภ์ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น ควรทำการตรวจใหม่อีกครั้งในอีก 2-3 วันข้างหน้าด้วยที่ตรวจครรภ์อันใหม่ หรือไปเข้ารับการตรวจโดยตรงอีกครั้งกับแพทย์

 

  • ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด แต่ไม่ท้อง เป็นไปได้ไหม

ในกรณีที่ผลตรวจครรภ์ขึ้นเป็นบวก แต่ไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น สามารถเกิดขึ้นได้จริง แต่เกิดขึ้นได้น้อย ซึ่งอาจเป็นผลพวงมาจากการรับประทานยารักษาภาวะการมีบุตรยาก หรือมีปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ ที่ทำให้มีเลือดหรือโปรตีนปนอยู่ในปัสสาวะ และทำให้ผลตรวจผิดเพี้ยนไป หรือที่ตรวจครรภ์อาจไม่ได้คุณภาพ

ดังนั้น เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น ควรทำการตรวจใหม่อีกครั้งในอีก 2-3 วันข้างหน้าด้วยที่ตรวจครรภ์อันใหม่ หรือไปเข้ารับการตรวจโดยตรงอีกครั้งกับแพทย์

 

ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 1 ขีด

หากผลจากที่ตรวจครรภ์ขึ้น 1 ขีด หรือผลเป็นลบ ก็ค่อนข้างจะแน่นอนว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลตรวจครรภ์ 1 ขีด ก็ยังแบ่งออกเป็นกรณีต่าง ๆ ดังนี้

 

  • ตรวจครรภ์ 1 ขีดแต่ท้อง เป็นไปได้ไหม

มีหลายกรณีที่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจริง แต่คเวลาตรวจครรภ์ กลับพบว่าผลตรวจครรภ์ขึ้นเป็นลบ หรือขึ้น 1 ขีด ซึ่งก็มีคำอธิบายอยู่ด้วยกันหลายอย่าง ดังนี้

  • มีระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์ หรือฮอร์โมน hCG ในปัสสาวะน้อยเกินไป
  • ตรวจครรภ์เร็วเกินไป เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำสูงสุด ควรรอตรวจครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ในวันไข่ตกไปแล้วประมาณ 12-14 วัน
  • ที่ตรวจครรภ์หมดอายุการใช้งาน ชำรุด หรือไม่ได้มาตรฐาน
  • อาจมีการตั้งครรภ์นอกมดลูก

หากมั่นใจหรือเอะใจว่าน่าจะมีการตั้งครรภ์ และผลตรวจขึ้นเป็นลบ หรือขึ้นแค่ 1 ขีด ควรทำการตรวจอีกครั้งในวันถัดไปด้วยที่ตรวจครรภ์อันใหม่ หรือไปเข้ารับการตรวจโดยตรงอีกครั้งกับแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น

 

ตรวจฉี่ไม่ท้อง แต่ประจําเดือนไม่มา แปลว่ามีโอกาสท้องไหม

หากตรวจฉี่แต่ผลเป็นลบ หรือผลจากที่ตรวจครรภ์ขึ้นขีดเดียว ก็อาจจะมีโอกาสท้องได้ ในกรณีที่:

  • มีการตั้งครรภ์จริง แต่ระดับฮอร์โมน hCG ในปัสสาวะน้อยเกินไป จนทำให้ตรวจไม่พบการตั้งครรภ์
  • มีการตั้งครรภ์จริง แต่ตรวจครรภ์เร็วเกินไป เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำสูงสุด ควรรอตรวจครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ในวันไข่ตกไปแล้วประมาณ 12-14 วัน
  • มีการตั้งครรภ์จริง แต่ที่ตรวจครรภ์หมดอายุการใช้งาน ชำรุด หรือไม่ได้มาตรฐาน
  • มีการตั้งครรภ์จริง แต่อาจเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก
  • มีการตั้งครรภ์จริง แต่ก่อนหน้านั้น หรือระหว่างนั้นมีการรับประทานยาสำหรับใช้รักษาภาวะมีบุตรยาก ซึ่งอาจส่งผลต่อองค์ประกอบของปัสสาวะ ทำให้ตรวจไม่พบการตั้งครรภ์
  • มีการตั้งครรภ์จริง แต่มีการแท้งไปก่อนหน้านั้นแล้วโดยไม่รู้ตัว
  • มีการตั้งครรภ์จริง แต่เป็นการท้องลม ซึ่งตัวอ่อนฝ่อไปนานแล้วโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้น หากไม่มั่นใจในผลตรวจครรภ์นั้น สามารถตรวจใหม่อีกครั้งได้ในวันถัดไป โดยใช้ที่ตรวจครรภ์อันใหม่ หรือสามารถไปเข้ารับการตรวจอีกครั้งโดยตรงกับแพทย์เพื่อให้ทราบผลลัพธ์ที่แม่นยำได้

 

วิธีตรวจครรภ์แบบโบราณมีอะไรบ้าง และแม่นยำแค่ไหน


การตรวจครรภ์ในสมัยก่อนนั้น มีอยู่ด้วยกันหลากหลายวิธี ถ้าย้อนไปไกลสุดเท่าที่มีหลักฐานปรากฎไว้ก็คือในสมัยอียิปต์โบราณ หรือราว ๆ 1,350 ปีก่อนคริสตกาล จะให้ผู้หญิงปัสสาวะรดกระดาษปาปิรุสที่มีเมล็ดข้าวบาร์เลย์และเมล็ดข้าวสาลีวางเอาไว้ ซึ่งการปัสสาวะรดนี้กระดาษปาปิรุสนี้จะกินเวลาหลายวัน และจะวัดผลการตั้งครรภ์จากการที่

  • ถ้าหากเมล็ดข้าวบาร์เลย์งอกขึ้นมาเป็นต้น แปลว่ากำลังจะมีบุตรชาย
  • แต่ถ้าเมล็ดข้าวบาร์เลย์งอกขึ้นมาแทน ก็แปลว่ากำลังจะมีบุตรสาว
  • แต่ถ้าเมล็ดทั้งสองไม่งอกต้นใด ๆ ออกมาเลย ก็แปลว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ แน่นอนว่าในเรื่องของความแม่นยำนั้น ก็คงจะไม่ได้แม่นยำ 100%

 

พอมาถึงยุคกลาง - ยุคศตวรรษที่ - ยุคศตวรรษที่ 19

ก็เริ่มมีการจำแนกสีของปัสสาวะ โดยจะมีการนำไวน์ไปผสมกับปัสสาวะเพื่อสังเกตปฏิกิริยา ซึ่งสีปัสสาวะที่มีการตั้งครรภ์ จะเป็นปัสสาวะที่มีสีซีดใสเหมือนเลมอน ไปจนถึงสีขาวนวล แต่ด้านบนของปัสสาวะจะมีสีที่ออกคล้ำขุ่น ซึ่งก็ยังไม่ถือว่ามีความแม่นยำแต่อย่างใด ดังนั้น ช่วงเวลาดังกล่าวจึงมักจะสังเกตจากอาการต่าง ๆ เช่น อาการแพ้ท้อง เป็นตัวชี้วัดสำคัญว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่

 

จนเริ่มเข้าสู่ยุคปี 1900

นักวิทยาศาสตร์เริ่มมีการศึกษาถึงฮอร์โมนต่าง ๆ ที่น่าจะมีผลต่อการตั้งครรภ์ จนในช่วงปี 1920 เซลมาร์ อัชเฮม (Selmar Aschheim) และ เบิร์นฮาร์ด ซอนเดก (Bernhard Zondek) เริ่มมีการศึกษาว่ามีฮอร์โมนเฉพาะในการตั้งครรภ์อยู่จริง (รู้จักกันในยุคหลังว่าคือฮอร์โมน hCG) โดยทำการทดลองฉีดปัสสาวะของหญิงตั้งครรภ์เข้าไปในหนูทดลอง ก่อนที่จะ มีการเปลี่ยนมาใช้กระต่าย กบ คางคก เพื่อทดลองฉีดhCGและกระตุ้นให้เกิดการตกไข่ในสัตว์เหล่านั้น

 

กระทั่งราวปี 1970

วงการแพทย์เริ่มมีการรณรงค์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการคัดกรองการตั้งครรภ์เบื้องต้น และมีชุดทดสอบการตั้งครรภ์ผลิตออกมาใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น แต่ยังจำกัดอยู่ในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ไม่สามารถนำกลับมาตรวจเองที่บ้านได้

และกว่าที่โลกจะมีชุดตรวจครรภ์ขนาดจิ๋วที่สามารถพกพาได้และใช้ตรวจเองที่บ้านได้ ก็ในปี 1979 ที่เริ่มมีการจำหน่ายชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่สามารถตรวจได้เองที่บ้านโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ แบบที่พวกเราใช้กันในปัจจุบันนี้นี่เอง

จะเห็นได้ว่า กว่าจะมีที่ตรวจครรภ์ขนาดมินิให้เราได้ใช้อย่างสะดวกในทุกวันนี้ เราต้องสูญเสียเมล็ดข้าวสาลี เมล็ดข้าวบาร์เลย์ และชีวิตของหนู กระต่าย กบ คางคก ไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ถือว่าเป็นวิวัฒนาการที่ยาวนาน กว่าที่ผู้หญิงจะสามารถมีทางเลือกในการตรวจครรภ์และทางเลือกในการดำเนินชีวิตได้เฉกเช่นปัจจุบัน

 

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการตรวจครรภ์


ก่อนจะเริ่มทำการตรวจครรภ์ คุณแม่ควรทราบหลักทั่ว ๆ ไปในการตรวจครรภ์ก่อน ดังนี้

  • การตรวจครรภ์ ไม่ควรตรวจเร็วเกินไป เพราะจะทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อน ระยะเวลาเร็วที่สุดในการตรวจครรภ์ด้วยตนเองคือ 12-14 วัน หรือ 8-10 วัน หลังจากการมีเพศสัมพันธูในวันไข่ตก
  • กรณีตรวจเลือดกับแพทย์ ควรรอจนกระทั่งประจำเดือนขาดแล้วจึงตรวจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูงสุด
  • การตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใช้ที่ตรวจครรภ์ซึ่งสามารถหาซื้อได้เองตามร้านค้าหรือร้านขายยาทั่วไป โดยจะมีอยู่ด้วยกัน 4 แบบ คือ ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม ที่ตรวจครรภ์แบบหยด ที่ตรวจครรภ์แบบปากกา ที่ตรวจครรภ์ดิจิทัล
  • การตรวจครรภ์กับแพทย์ มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี คือ เจาะเลือดตรวจครรภ์ (Blood Test) ตรวจปัสสาวะคนท้อง “Urine Pregnancy Test” หรือ ยูพีที (UPT) ตรวจหาฮอร์โมน hCG (hCG Test) และการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยอัลตราซาวนด์ ซึ่งการตรวจเหล่านี้จะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูงสุด
  • ก่อนที่จะทำการตรวจครรภ์ ไม่ควรดื่มน้ำมากจนเกินไป เพราะเสี่ยงที่จะทำให้ระดับของฮอร์โมน hCG ในปัสสาวะเจือจางลง และอาจทำให้ผลการตรวจขาดความแม่นยำ
  • ก่อนจะซื้อที่ตรวจครรภ์ และก่อนที่จะทำการตรวจครรภ์ เช็กวันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุก่อน หากพบว่าผลิตภัณฑ์หมดอายุการใช้งาน หรือมีการชำรุด ไม่ควรใช้ เพราะอาจทำให้ผลการตรวจขาดความแม่นยำ
  • ในกรณีที่มีอาการคล้ายคนท้องในระยะแรก แต่ตรวจด้วยที่ตรวจครรภ์แล้วผลเป็นลบ ให้ตรวจอีกครั้งในวันถัดไปด้วยที่ตรวจครรภ์อันใหม่ หรือไปเข้ารับการตรวจครรภ์โดยตรงกับแพทย์เพื่อความแม่นยำ

 

ไขข้อข้องใจเรื่องการตรวจครรภ์กับ Enfa Smart Club


เมนส์ไม่มากี่วันถึงท้อง

โดยปกติแล้วมักจะแนะนำให้ตรวจครรภ์เมื่อประจำเดือนขาด แต่อาจเกิดความสงสัยกันว่าแล้ว ประจําเดือนขาดกี่วันถึงท้อง?

ในส่วนนี้ก็จะแตกต่างกันไปค่ะ เพราะประจำเดือนของผู้หญิงแต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว หากพ้น 14 วันหลังจากที่มีไข่ตกแล้วประจำเดือนไม่มา ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดการตั้งครรภ์

แต่ถ้าในกรณีที่ประจำเดือนมาไม่ค่อยปกติ การนับ 14 วันหลังไข่ตก ก็อาจจะไม่ตรงกับการมีประจำเดือนในรอบต่อไป จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลอื่น ๆ มาประกอบกัน เช่น ครั้งที่มีรอบเดือนล่าสุด วันที่คาดว่าจะมีการตกไข่ล่าสุด

 

จับท้องยังไงให้รู้ว่าท้อง เราสามารถจับท้องหรือกดท้องเพื่อเช็กการตั้งครรภ์ได้หรือไม่

การจับท้อง ไม่สามารถการันตีว่าจะตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เว้นเสียแต่ว่าในกรณีที่ตั้งครรภ์โดยไม่รู้ตัว และผ่านไปหลายเดือนจนกระทั่งตัวอ่อนพัฒนาเป็นทารก และเห็นความเปลี่ยนแปลงของทารกผ่านหน้าท้อง หรือรู้สึกได้ว่าลูกดิ้น กรณีเช่นนั้นก็อาจจะตรวจพบการตั้งครรภ์ได้

แต่โดยปกติแล้ว การจับท้อง ไม่สามารถบอกว่าตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์ได้ ทางที่ดีควรตรวจด้วยที่ตรวจครรภ์ หรือไปตรวจครรภ์กับแพทย์จะดีที่สุด

 

เป็นไปได้ไหม ท้องแต่ตรวจไม่เจอ

มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะมีการตั้งครรภ์ แต่ตรวจไม่พบ แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยค่ะ ส่วนมากแล้วมักจะตรวจพบการตั้งครรภ์

แต่ในกรณีที่ตรวจไม่พบ อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

  • ตั้งครรภ์จริง แต่ระดับฮอร์โมน hCG ในปัสสาวะต่ำเกินไป จึงตรวจไม่พบ
  • ตั้งครรภ์จริง แต่ตรวจเร็วเกินไป ควรรอ 12–14 วันหลังปฏิสนธิเพื่อผลตรวจที่แม่นยำ
  • ตั้งครรภ์จริง แต่ที่ตรวจครรภ์หมดอายุ ชำรุด หรือไม่ได้มาตรฐาน
  • ตั้งครรภ์จริง แต่อาจเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก
  • ตั้งครรภ์จริง แต่มีการใช้ยารักษาภาวะมีบุตรยาก ซึ่งอาจส่งผลต่อปัสสาวะ ทำให้ตรวจไม่พบ
  • ตั้งครรภ์จริง แต่เกิดการแท้งก่อนหน้านั้นโดยไม่รู้ตัว
  • ตั้งครรภ์จริง แต่เป็นท้องลม ตัวอ่อนฝ่อไปแล้วโดยไม่รู้ตัว

 

ท้อง 4 สัปดาห์ตรวจเจอไหม

ท้อง 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน สามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เพราะรกเริ่มมีการผลิตฮอร์โมน hCG มากขึ้น ทำให้สามารถตรวจพบได้ง่ายขึ้น

 

ค่าตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลแพงไหม

ค่าตรวจครรภ์ของแต่ละโรงพยาบาลจะแตกต่างกันไป ไม่เท่ากัน อย่างโรงพยาบาลของรัฐฯ อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 100 บาทต่อครั้ง ส่วนโรงพยาบาลเอกชน อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มตั้งแต่ 1,000 บาทต่อครั้ง

แต่เพื่อให้ได้ราคาที่แม่นยำที่สุด สามารถติดต่อสอบถามกับโรงพยาบาลที่สนใจจะทำการตรวจครรภ์ได้โดยตรง เพื่อให้ได้ข้อมูลและรายละเอียดอื่น ๆ ที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด

 

ตรวจครรภ์ 2 ขีด ไม่ท้อง เกิดจากอะไร

ในกรณีที่ผลตรวจครรภ์ขึ้นเป็นบวก แต่ไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น สามารถเกิดขึ้นได้จริง แต่เกิดขึ้นได้น้อย

ซึ่งอาจเป็นผลพวงมาจาก

  • การรับประทานยารักษาภาวะการมีบุตรยาก
  • ปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ ที่ทำให้มีเลือดหรือโปรตีนปนอยู่ในปัสสาวะ และทำให้ผลตรวจผิดเพี้ยนไป
  • ที่ตรวจครรภ์อาจไม่ได้คุณภาพ

ดังนั้น เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น ควรทำการตรวจใหม่อีกครั้งในอีก 2-3 วันข้างหน้าด้วยที่ตรวจครรภ์อันใหม่ หรือไปเข้ารับการตรวจโดยตรงอีกครั้งกับแพทย์

 

วิธีการตรวจครรภ์แบบไหนแม่นยำที่สุด

การตรวจเลือดเพื่อหาการตั้งครรภ์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำสูง และให้รายละเอียดต่าง ๆ ได้มากกว่าการบอกว่าตั้งท้องหรือไม่ เพราะสามารถตรวจพบระดับฮอร์โมน hCG หรือฮอร์โมนการตั้งครรภ์ได้อย่างชัดเจนว่ามีปริมาณเท่าไหร่ ทั้งยังสามารถบอกได้ว่าขณะนี้ตั้งครรภ์กี่สัปดาห์แล้ว

 

ตรวจฉี่ไม่ท้อง ตรวจเลือดท้อง เกิดจากอะไร

เป็นไปได้หลายกรณี ไม่ว่าจะเป็น

  • ที่ตรวจครรภ์ชำรุด เสื่อมสภาพ
  • ตรวจปัสสาวะในช่วงเวลาที่ฮอร์โมน hCG ต่ำ
  • ดื่มน้ำเยอะก่อนที่จะตรวจปัสสาวะ ทำให้ระดับฮอร์โมน hCG ในปัสสาวะถูกเจือจางจนตรวจพบได้น้อยหรือตรวจไม่พบเลย
  • ตรวจครรภ์เร็วเกินไป

 

ตรวจเลือดตั้งครรภ์รอผลนานไหม

การตรวจเลือดเพื่อหาการตั้งครรภ์ อาจจะต้องรอผลตรวจตั้งแต่ 1-3 วัน เพราะเป็นการตรวจในห้องปฏิบัติการ

 

ตรวจเลือดตั้งครรภ์ ราคาประมาณเท่าไหร่

ราคาในการตรวจเลือดตั้งครรภ์นั้นจะแตกต่างกันไปตามสถานพยาบาล แต่ราคาอาจเริ่มต้นที่ 1,000 บาทขึ้นไป

เพื่อให้ได้ราคาที่แม่นยำที่สุด สามารถติดต่อสอบถามกับโรงพยาบาลที่สนใจจะทำการตรวจเลือดหาการตั้งครรภ์ได้โดยตรง เพื่อให้ได้ข้อมูลและรายละเอียดอื่น ๆ ที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด

 

hCG คือที่ตรวจอะไร

hCG ไม่ใช่ที่ตรวจ แต่เป็นฮอร์โมน hCG หรือฮอร์โมนการตั้งครรภ์ที่เกิดจากรก ประกอบไปด้วยความยาวกรดอะมิโนจำนวน 237 ตัว ซึ่งจะฮอร์โมน hCG จะสามารถตรวจพบได้หลังจากผ่านการปฏิสนธิไปแล้ว 6 วัน

หากมีระดับ hCG สูงก็แปลว่ากำลังตั้งครรภ์ แต่ถ้าระดับ hCG อยู่ในระดับต่ำถึงต่ำมาก ก็แปลว่ายังไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ซึ่งการตรวจหา hCG นั้นจะตรวจเพื่อดักจับส่วนประกอบย่อยฮอร์โมน โดยใช้น้ำยาสำหรับตรวจหา hCG โดยเฉพาะ

 

ตรวจครรภ์ 2 ขีดเข้ม แต่ไม่ท้อง เกิดจากอะไร

ในกรณีที่ผลตรวจครรภ์ขึ้นเป็นบวก หรือขึ้น 2 ขีดเข้ม แต่ไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง แต่เกิดขึ้นได้น้อย ซึ่งกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นได้จากหลายเหตุปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น

  • การรับประทานยารักษาภาวะการมีบุตรยาก
  • ปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ ที่ทำให้มีเลือดหรือโปรตีนปนอยู่ในปัสสาวะ และทำให้ผลตรวจผิดเพี้ยนไป
  • ที่ตรวจครรภ์อาจไม่ได้คุณภาพ

ดังนั้น เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น ควรทำการตรวจใหม่อีกครั้งในอีก 2-3 วันข้างหน้าด้วยที่ตรวจครรภ์อันใหม่ หรือไปเข้ารับการตรวจโดยตรงอีกครั้งกับแพทย์

 


บทความแนะนำสำหรับเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์

  • ที่ตรวจครรภ์ แม่นยำแค่ไหน และใช้อย่างไรให้ถูกวิธี
  • ที่ตรวจไข่ตก ช่วยตรวจหาวันตกไข่ได้จริงหรือ?
  • ปวดท้องน้อยข้างซ้าย อันตรายไหม เกิดจากสาเหตุอะไร
  • อาการไข่ตกเป็นยังไง วันไข่ตกอาการเป็นแบบไหนกัน มาดูกัน!
  • คนท้องท้องเสีย อันตรายไหม ป้องกันได้ยังไงบ้าง
  • รู้จักเลือดล้างหน้าเด็ก อีกสัญญาณที่บอกว่าเราตั้งครรภ์
  • มีเพศสัมพันธ์ตอนท้องได้ไหม มีแล้วจะอันตรายหรือเปล่า
  • ฤกษ์ผ่าคลอด 2567 โดย การะเกต์พยากรณ์
  • ลูกหลับดี ยิ่งมี "พัฒนาการสมอง" ต่อเนื่อง
  • สฟิงโกไมอีลิน สารอาหารในนมแม่ที่เป็นส่วนหนึ่งของ MFGM
  • สอนลูกขออั่งเปาตั่วตั่วไก๊ และศัพท์อวยพรตรุษจีน 2569
  • ท้อง 1 เดือนใหญ่แค่ไหน อาการคนท้อง 1 เดือนเป็นอย่างไร
  • ท้อง 1 สัปดาห์ตรวจเจอไหม ตรวจตอนนี้เร็วไปหรือเปล่า
  • ท่าการมีเพศสัมพันธ์ตอนตั้งครรภ์แบบไหนปลอดภัย ไม่อันตราย
  • NHS. Doing a pregnancy test. [Online] Accessed https://www.nhs.uk/pregnancy/trying-for-a-baby/doing-a-pregnancy-test/. [9 May 2022]
  • National Library of Medicine. Pregnancy Test. [Online] Accessed https://medlineplus.gov/lab-tests/pregnancy-test/. [9 May 2022]
  • Pregnancy, Birth and Baby. hCG levels. [Online] Accessed https://www.pregnancybirthbaby.org.au/hcg-levels. [9 May 2022]
  • Cleveland Clinic. Pregnancy Tests. [Online] Accessed https://my.clevelandclinic.org/health/articles/9703-pregnancy-tests. [9 May 2022]
  • Cleveland Clinic. Human Chorionic Gonadotropin. [Online] Accessed https://my.clevelandclinic.org/health/articles/22489-human-chorionic-go…. [11 May 2022]
  • WebMD. Pregnancy Tests. [Online] Accessed https://www.webmd.com/baby/guide/pregnancy-tests#091e9c5e804fb5f8-1-3. [11 May 2022]
  • Verywell Family. What Is a Blood Pregnancy Test and How Does It Work?. [Online] Accessed https://www.verywellfamily.com/what-is-a-blood-pregnancy-test-2759849. [11 May 2022]
  • Very Well Health. How Soon Can You Take a Pregnancy Test?. [Online] Accessed https://www.verywellhealth.com/how-soon-can-you-take-a-pregnancy-test-5…. [11 May 2022]
  • American Pregnancy Association. What is HCG?. [Online] Accessed https://americanpregnancy.org/getting-pregnant/hcg-levels/. [11 May 2022]
  • Icahn School of Medicine at Mount Sinai. HCG blood test – quantitative. [Online] Accessed https://www.mountsinai.org/health-library/tests/hcg-blood-test-quantita…. [11 May 2022]
  • Medical News Today. What to know about HCG pregnancy tests. [Online] Accessed https://www.medicalnewstoday.com/articles/327284. [11 May 2022]
  • State Government of Victoria. Pregnancy testing. [Online] Accessed https://www.betterhealth.vic.gov.au/health/healthyliving/pregnancy-test…. [11 May 2022]
  • National Institutes of Health (NIH). The Thin Blue LineThe History of the Pregnancy Test. [Online] Accessed https://history.nih.gov/display/history/Pregnancy+Test+Timeline. [11 May 2022]
  • โรงพยาบาลนครธน. ท้องไม่ท้อง รู้ให้แน่ ด้วยการตรวจครรภ์หาค่าเอชซีจี (hCG). [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.nakornthon.com/article/detail/. [11 พฤษภาคม 2022]
  • โรงพยาบาลเพชรเวช. Pregnancy Test. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.petcharavejhospital.com/en/Article/article_detail/pregnancy…. [11 พฤษภาคม 2022]

บทความที่แนะนำ

  • ข้อห้ามคนท้องที่คุณแม่ควรรู้ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย
    ข้อห้ามคนท้องที่คุณแม่ควรรู้ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย

    Enfa สรุปให้ ข้อห้ามคนท้อง ไม่ใช่การห้ามเด็ดขาดแต่เป็นข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัย โดยเน้นการหลี...

    อ่านต่อ
  • คู่มือคุณแม่มือใหม่ ปรึกษาตั้งครรภ์ 24 ชม. ที่ไหนดี
    คู่มือคุณแม่มือใหม่ ปรึกษาตั้งครรภ์ 24 ชม. ที่ไหนดี

    Enfa สรุปให้ การปรึกษาการตั้งครรภ์ 24 ชม. คุณแม่สามารถขอคำแนะนำจากแพทย์ได้ตลอดเวลา ผ่านบริการออ...

    อ่านต่อ
  • ไม่รู้ว่าท้องแล้วกินเหล้า อันตรายไหม ส่งผลต่อทารกอย่างไร
    ไม่รู้ว่าท้องแล้วกินเหล้า อันตรายไหม ส่งผลต่อทารกอย่างไร

    Enfa สรุปให้ หากคุณแม่ไม่รู้ว่าท้องแล้วกินเหล้า แม้เพียงปริมาณน้อยก็อาจเสี่ยงต่อการแท้ง คลอดก่อ...

    อ่านต่อ
Custom Image สั่งซื้อออนไลน์
Chat Logo
แชททาง Line

logo
ติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์มี้ด จอห์นสัน
โทร 02 035 1365 (จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08:30 - 17:30 น.)

logo
เกี่ยวกับเรา
มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย)

logo
มาตรการและแนวทางสนับสนุน "พ.ร.บ. นม"
ติดตาม Enfa Smart Club
  • Translation missing: th.general.social.share_on_line
  • Share
  • Translation missing: th.general.social.share_on_tiktok
  • Youtube
  • Translation missing: th.general.social.share_on_spotify
logo
  • ข้อตกลงและเงื่อนไข
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นโยบายคุกกี้

© สงวนลิขสิทธิ์ 2568 บริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด

logo
เนื้อหาของ Enfa มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้แก่คุณแม่เท่านั้นและไม่สามารถใช้แทนคำวินิจฉัยของแพทย์ได้ หากต้องการคำแนะนำด้านสุขภาพควรปรึกษาแพทย์โดยตรง โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ข้อตกลงและเงื่อนไข
Footer Layer
* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Join Enfamama Cart TH
Line TH
Cart TH Join Enfamama