ลูกวัย 15 เดือนเติบโตและรู้ภาษามากขึ้น เขาไม่ต้องการนอนทั้งวันเหมือนก่อน แต่ต้องการทำอะไรๆ เหมือนอย่างคนอื่นๆ ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การตักอาหารกินเอง หรือแม้แต่การใส่เสื้อผ้าด้วยตัวเอง ซึ่งหากเราเข้าใจและเปิดโอกาสให้ลูกได้ฝึกฝนบ่อยๆ เขาก็จะทำสิ่งเหล่านี้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ...มาดูพัฒนาการแต่ละด้านของลูกน้อยเดือนนี้กันค่ะ
ด้านสติปัญญาและการเรียนรู้
-
ชอบเล่นสำรวจค้นคว้าสิ่งต่างๆ รอบตัวที่เห็นว่าน่าสนใจ โดยเฉพาะสิ่งของที่ผู้ใหญ่ ใช้กัน เช่น กระเป๋าสตางค์ หากคว้าได้ก็จะดึงรื้อ ทั้งบัตรทั้งแบงก์ออกมาเล่น
-
ยังคงเรียนรู้ผ่านการเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ในบ้านอยู่ เช่น ทำท่าพูดโทรศัพท์ หยิบไม้กวาดมาทำท่ากวาดบ้าน ซึ่งการเล่นลักษณะนี้จะสัมพันธ์กับการเริ่มใช้คำพูดแสดงความคิด ความต้องการออกมา และมีความสามารถในการทำตามความคิดของตน
-
การลองผิดลองถูกเป็นวิธีการเรียนรู้แบบหนึ่งของเด็กวัยนี้เช่นกัน สังเกตได้จากเวลาที่เราเอาเป็ดยางหรือของเล่นที่ลอยน้ำได้ให้ลูกเล่นขณะอาบน้ำ เขาจะกดให้มันจมน้ำแล้วคอยดูมันลอยขึ้นมาใหม่ แต่แทนที่เขาจะคอยแต่กดมันให้จมอย่างเดียวซ้ำๆ เขากลับจับมันมาแล่นไปบนน้ำเหมือนเรือแทน นี่เป็นผลจากการที่เขาสามารถประมวลผลจากการทดลองมาเป็นความคิดความเข้าใจได้ในระดับหนึ่งแล้วนั่นเอง
-
วัยนี้จะสนใจเรียนรู้เรื่องระยะ รูปร่าง ขนาด และความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ เช่น เมื่อเขาปล่อยให้ลูกบอลกลิ้งออกไป ถ้าเป็นวัย 11-12 เดือน ลูกจะยังคงมองที่จุดเดิมที่ยังมองเห็นลูกบอลปรากฏอยู่ แต่วัยนี้เขาจะหาลูกบอลตามทิศทางที่มันกลิ้งไปได้
-
มีการเล่นที่ซับซ้อนขึ้น เช่น หากนำแก้วพลาสติกขนาดต่างกันมาให้เล่น ลูกจะรู้จักเรียงลำดับตามขนาดของแก้ว โดยใส่แก้วใบเล็กไปในแก้วใบใหญ่ จะเห็นว่าลูกรู้จักใช้ความคิดมากขึ้น
ช่วง 2-3 ปีแรก เป็นช่วงเวลาสำคัญของพัฒนาการของเด็ก และการให้เด็กได้รับโภชนาการที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เด็กต้องได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อการเจริญเติบโตในทุกๆ ด้าน และนมมีบทบาทสำคัญในช่วงนี้ MFGM เป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีคุณค่าที่พบในน้ำนมแม่ มีความสำคัญต่อพัฒนาการโดยรวมของเด็ก โดยเฉพาะพัฒนาการ 3 ด้านที่สำคัญ คือ สมอง ภูมิคุ้มกัน และระบบขับถ่าย MFGM ช่วยพัฒนาทั้ง IQ และ EQ ของเด็ก รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนในเด็ก และลดการเจ็บป่วยของเด็กลงด้วย
ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
-
ลูกวัยนี้มีพละกำลังมาก เพราะทั้งเดิน วิ่ง (แบบกางแขนถลาไปข้างหน้า) ทั้งปีนป่าย เรียกว่าอยู่ไม่นิ่งทีเดียว ลูกจะสามารถเดินวิ่งได้มั่นคงแข็งแรงขึ้น ต้องอาศัยการฝึกใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่บ่อยๆ คุณแม่อาจหาของเล่นประเภทม้าโยกเยก หรือจักรยานสามล้อ มาให้ลูกเล่นได้
-
ทักษะการควบคุมนิ้วมือในการหยิบ คว้า จับ วางและปล่อยสิ่งของต่างๆ ทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ทำได้แม่นยำและนุ่มนวลมากขึ้น ที่สำคัญทักษะการใช้มือสัมพันธ์กับพัฒนาการด้านสติปัญญาด้วย เพราะเซลล์สมองของลูกจะได้รับการกระตุ้นมากขึ้นจากการสัมผัสสิ่งต่างๆ ด้วยนั่นเอง
-
ชอบเล่นของเล่นที่ท้าทายความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้อมือ ซึ่งของเล่นที่จะช่วยเสริมสร้างการทำงานระหว่างมือกับตาได้ดี เช่น ค้อนตอกหมุด แป้นเสียบหมุด ตัวต่อชิ้นใหญ่ๆ เป็นต้น
ด้านภาษาและการสื่อสาร
-
นอกจากจะพูดคำที่มีความหมายได้มากขึ้น ประมาณ 4-6 คำแล้ว ลูกยังเข้าใจความหมายของคำสั่งง่ายๆ ได้ เช่น “มานี่” “หยิบ...ให้แม่หน่อย” และสามารถพูดตามคำของ่ายๆ ได้ เช่น หนมๆ น้ำๆ หม่ำๆ
-
ใช้นิ้วชี้บอกความต้องการ และเริ่มใช้คำศัพท์เฉพาะหรือแสดงท่าทางบอกให้รู้ว่าเขาต้องการอะไร
ด้านอารมณ์และสังคม
-
จากการที่ลูกสามารถเคลื่อนไหวได้มากขึ้น จึงทำให้เขารู้สึกมั่นใจและเป็นตัวเองมากขึ้นเวลาที่เขาต้องการจะทำอะไร ก็จะยืนยันและมุ่งมั่นที่จะทำแม้จะถูกห้ามปราม ซึ่งหลายคนอาจตีความลักษณะเช่นนี้ว่า “ดื้อ” จริงๆ แล้วเป็นขั้นตอนหนึ่งของพัฒนาการ
-
ชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่ชอบให้คนมาช่วย จึงควรปล่อยให้เขาเรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองก่อน คุณแม่เพียงคอยระวังเรื่องความปลอดภัยและให้ความช่วยเหลือเมื่อเขาร้องขอ
-
เรียนรู้วิธีที่จะดึงความสนใจจากผู้ใหญ่ได้ดี เขารู้ว่าเมื่อร้องไห้แล้วจะได้สิ่งที่ต้องการ รู้ว่าทุกคนจะสนใจเมื่อเขาหัวเราะมากกว่ากรีดร้อง และรู้ว่าแต่ละคนมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน เช่น รู้ว่าถ้าร้องไห้ ยายจะเข้ามาโอ๋แต่แม่จะไม่สนใจ การแสดงออกของลูกจะขึ้นอยู่กับความคงเส้นคงวาของผู้ใหญ่ด้วย ถ้าผู้ใหญ่ในบ้านมีท่าทีเหมือนกัน เขาจะเรียนรู้ว่า ถ้าทำแบบนี้ทุกคนจะยอมรับหรือไม่ และไม่สับสนกับสิ่งที่ตนเรียนรู้
-
ลูกวัยนี้ชอบแสดงออก หากทำอะไรแล้วได้รับเสียงปรบมือหรือเสียงหัวเราะชอบใจจากคนในบ้านก็จะทำไม่หยุดทีเดียว
-
ชอบให้มีคนชมมากกว่าตำหนิหรือดุ
-
กิจกรรมที่เด็กวัยนี้ให้ความสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ การเต้นรำ โยกตัวไปตามจังหวะเพลง คุณแม่จึงอาจหาเทปเพลงเด็กๆ มาเปิดให้ลูกฟัง ซึ่งเพลงไหนที่ชอบเขาจะขอให้คุณแม่เปิดซ้ำๆ
ศักยภาพของเด็กวัย 15 เดือนมีไม่น้อย แต่ก็ยังต้องการการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ จากคุณแม่อยู่ เพื่อพัฒนาการที่รุดหน้าของเขาค่ะ