แม่ตั้งครรภ์ต้องกินอะไรเพิ่ม
ช่วงตั้งครรภ์ อาหารที่คุณแม่ต้องกินเพิ่มก็คือ อาหารพวกโปรตีน หรืออาหารพวกเนื้อสัตว์ นม ไข่ และถั่วต่าง ๆ และอาหารพวกให้พลังงานสำหรับการเติบโต ซึ่งจะได้จากทั้งอาหารพวกแป้งและไขมัน ซึ่งควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป เพราะหากมากเกินไปก็จะเหลือตกค้างที่แม่มากกว่าลูกจะได้ รวมทั้งเกลือแร่และวิตามินบางชนิด
ช่วงนี้คุณแม่หายจากอาการแพ้ท้องแล้ว ควรใส่ใจกับอาหารที่ควรจะได้รับเพิ่มเติมประจำวันดังนี้
-
นมวันละ 2 แก้ว คุณแม่ที่ดื่มนมเป็นประจำก่อนตั้งครรภ์ ควรจะดื่มนมในปริมาณเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนคุณแม่ที่ไม่เคยดื่มนมเลย หรือดื่มไม่สม่ำเสมอ ควรดื่มนมวันละนิด เพิ่มปริมาณขึ้นวันละหน่อย อาจจะในลักษณะวันเว้นวันหรือเว้น 2 วัน แต่ละครั้งควรดื่มครั้งละ 1 แก้ว ไม่ควรดื่มมาก
สำหรับคุณแม่ที่ไม่ดื่มนม หรือดื่มนมแล้วมีอาการท้องเสีย สามารถทดแทนได้ด้วยการกินไข่วันละ 2 ฟอง หรือเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมทั้งปลาและตับด้วย วันละประมาณ 50-60 กรัม หรือเต้าหู้ โดยอาจจะกินคละกันก็ได้ เช่น กินอาหาร 2 อย่างรวมกัน แต่ปริมาณของแต่ละอย่างลดเป็นครึ่งหนึ่งของที่ระบุไว้ เช่น ไข่ 1 ฟอง ร่วมไปกับปลาหรือเนื้อสัตว์ เป็นต้น
-
ผักผลไม้ คุณแม่ควรจะกินผักผลไม้ให้ทุกวัน โดยเน้นการกินให้หลากหลายวันละ 2-3 ชนิด เช่น ส้มเขียวหวาน กล้วย แอปเปิ้ล เงาะ มะละกอสุก เป็นต้น ส่วนผักชนิดต่าง ๆ นั้น คุณแม่สามารถกินได้โดยไม่จำกัด โดยเฉพาะพวกผักใบเขียวต่างๆ เช่น ผักบุ้ง ตำลึง คะน้า ถั่วฝักยาว หรือผักสีอื่นๆ เช่น มะเขือเทศ ฟักทอง แครอต ฯลฯ ซึ่งจะให้แร่ธาตุ วิตามินต่างๆ ที่จำเป็นต่อลูกน้อยในครรภ์ และให้กากใย ช่วยเรื่องการขับถ่ายของคุณแม่ด้วยค่ะ