นักจิตวิทยาทางการศึกษาเชื่อว่าเด็กทุกคนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์อยู่แล้ว และสามารถพัฒนาได้ตามระดับความสามารถของเด็กแต่ละคน หากเด็กคนนั้นๆ ได้รับการวางพื้นฐานการคิดสร้างสรรค์ตั้งแต่เด็ก
เมื่อสมองถูกกระตุ้นให้คิดอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เซลล์สมองเด็กสามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ที่ได้พบเห็นเข้าด้วยกันได้อย่างง่ายดาย เกิดการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ ซึ่งก็คือเกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้นมานั่นเอง เมื่อเด็กมีความคิดสร้างสรรค์ ก็ง่ายที่เขาจะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมา
ความสำคัญของการริเริ่มสร้างสรรค์ต่อความสำเร็จในอนาคต
มีแนวโน้มว่าเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์มักเป็นเด็กฉลาดและประสบความสำเร็จได้ง่ายในอนาคต เพราะเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ จะมีความคิดที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำแบบใคร มีความคิดหลากหลายรวดเร็ว มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบตั้งคำถามและหาคำตอบในทุกสิ่งที่สงสัย กล้าคิดกล้าลอง ไม่ติดกับกรอบเดิม จึงสามารถจัดการกับข้อมูลที่มีมากมายและทุกคนสามารถเข้าถึงได้เหมือนกัน ได้อย่างแตกต่างและโดดเด่นกว่าคนอื่น
กิจกรรมสำหรับ ลูกน้อยวัย 1-3 ขวบ |
รายละเอียด |
ให้ลูกช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวัน |
การให้ลูกช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวัน เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการจัดการกับสิ่งต่างๆ ที่ตนต้องทำ อาจจะเป็นวิธีใหม่ๆ ที่ต่างไปจากเดิม เช่น ลูกอาจจะสวมหรือถอดเสื้อด้วยวิธีการที่แตกต่างออกไป แปรงฟันในลำดับที่แตกต่างจากพ่อแม่ ฯลฯ ซึ่งหากสิ่งที่ลูกคิดต่าง ไม่ผิดกฎ กติกาของสังคม หรือไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ก็ควรปล่อยให้ลูกได้ทำสิ่งนั้นๆ |
ให้ลูกเล่นอย่างอิสระ |
นำของเล่นปลายเปิด เช่น บล็อกไม้ ตัวต่อ ที่สามารถเล่นได้หลายรูปแบบ รวมถึงสิ่งของรอบตัว เช่น กล่องกระดาษ ทราย ดินน้ำมัน มาให้ลูกเล่น เพราะเป็นของเล่นที่ลูกสามารถใช้จินตนาการ สร้างสรรค์การเล่นด้วยตนเองอย่างอิสระ |
เล่านิทานแล้วถามความเห็น |
เล่านิทานประกอบภาพและอ่านหนังสือให้ลูกฟัง แล้วถามความเห็นว่า... ถ้าลูกเป็นกระต่าย จะนอนหลับจนแพ้เต่ามั้ย ทำไม ถ้าลูกเจอหมาป่าเหมือนหนูน้อยหมวกแดง ลูกจะทำยังไง หรือให้ลูกแต่งนิทานตอนจบของเรื่องที่ฟังเอง เป็นต้น |
ตั้งคำถามปลายเปิด |
เมื่อลูกเริ่มพูดและสื่อสารได้บ้างแล้ว ลองตั้งคำถามปลายเปิดให้ลูกตอบ เช่น “หนูเห็นอะไร” “หนูรู้สึกอย่างไร” เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองคิด ฝึกความคิดสร้างสรรค์ โดยอาจชวนลูกสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัว แล้วถามในสิ่งที่เห็นว่าลูกสนใจ เช่น ใบไม้สีอะไร กลิ่นของดอกไม้เป็นอย่างไร หอมหรือไม่ เป็นต้น |
ฝึกลูกคิดจากสิ่งที่คุ้นเคย |
ให้ลูกบอกความน่ารักของลูกหมาของลูกมา 3 ข้อให้ลูกบอกความน่าเกลียดของลูกหมาของลูกมา 3 ข้อ หรือขณะเล่นก็บอกให้ลูกเล่นคุยโทรศัพท์กับคุณพ่อคุณแม่ โดยที่ไม่มีอุปกรณ์ให้ ดูว่าลูกจะทำอย่างไร เด็กบางคนอาจจะยกบล็อกไม้ ขวดน้ำ ฯลฯ มาพูดแทนโทรศัพท์ เป็นต้น เป็นการช่วยฝึกความคิดสร้างสรรค์ของลูก |
ตั้งคำถาม “ถ้า...” ฝึกคิดนอกกรอบ |
เมื่อพูดคุยหรืออ่านหนังสือกับลูก คือ โอกาสอันดีที่จะตั้งคำถามให้ลูกได้คิดต่อ โดยควรใช้คำถามปลายเปิด หรือคำถามที่ขึ้นต้นด้วย “ถ้า....” ซึ่งมีคำตอบหลากหลาย ไม่มีผิด-ถูก ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์หรือจินตนาการของเด็ก สมองของเด็กได้ทำงาน เพราะเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบที่หลากหลาย ไร้ขอบเขต ซึ่งทำให้เด็กกล้าคิด กล้าตอบ เป็นตัวของตัวเอง เช่น “ถ้ารถพ่อเสียวิ่งไม่ได้เราจะไปปากซอยกันได้อย่างไร” “ถ้าลูกเหาะได้ ลูกอยากไปไหน ไปทำอะไร” เป็นต้น |
แต่งนิทานนอกกรอบ |
ลองตั้งโครงเรื่องนิทาน แล้วให้ลูกคิดต่อ เช่น “กาลครั้งหนึ่งมีม้าตัวหนึ่งมีปีกบินและพูดได้...” ให้พ่อแม่และลูกช่วยกันเล่าเรื่องราวการผจญภัยของม้าตัวนี้ |
งดคำ “อย่า” “ห้าม” |
การเปิดโอกาสให้ลูกได้คิดสิ่งต่างๆ อย่างอิสระ ได้ลองทำอะไรๆ อย่างอิสระ โดยไม่อยู่ในกรอบที่เคยชิน ที่เคยทำ ที่เคยเห็น โดยไม่สกัดกั้นความคิดต่างของลูกด้วยคำว่า “อย่า” และ “ห้าม” (ยกเว้นสิ่งนั้นเป็นอันตรายและผิดกฎกติกาของสังคม) ก็จะทำให้ลูกคิดเป็น สนุก ท้าทายที่จะคิดอย่างสร้างสรรค์และหลากหลาย |
สร้างสรรค์ดนตรีจากเครื่องครัว |
เด็กๆ ชอบเคาะชอบตี ลองให้ลูกตั้งวงดนตรีจากเครื่องครัว เช่น หม้อ กะละมัง ทัพพี ฯลฯ ดูว่าลูกใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการใช้สิ่งเหล่านี้อย่างไร ลูกอาจคิดเอาตะหลิวมาเคาะกับกระทะ หรือทัพพีมาตีกับหม้อ เอาแก้วน้ำหลายๆ ใบใส่น้ำในปริมาณต่างกันมาเคาะฟังเสียง เป็นต้น |
ทำของเล่นเอง |
คุณพ่อคุณแม่ลองชวนลูกทำของเล่นเองจากสิ่งใกล้ตัว เช่น สร้างหุ่นยนต์ สร้างบ้านจากกล่องกระดาษ สร้างลูกแซกจากขวดพลาสติกใส่ทราย (และทดลองว่าหากใส่สิ่งอื่นๆ เช่น เมล็ดถั่วขนาดต่างๆ จะให้เสียงที่แตกต่างกันอย่างไร) |
ทำงานศิลปะ |
งานศิลปะอย่างการวาดภาพ ระบายสี ปั้นดินน้ำมัน ปั้นแป้งโดว์ ฯลฯ เป็นกิจกรรมที่ทำให้ลูกได้ใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้มาก เพราะเขาสามารถสร้างสรรค์งานได้อย่างอิสระตามจินตนาการ (ให้หัดวาด หรือปั้นเองตามที่ลูกคิด ไม่ควรให้ทำตามแบบที่มี) |
เปิดจินตนาการกับเงา |
เด็กๆ จะตื่นเต้นกับเงาที่เขาได้เห็น คุณแม่สามารถชวนลูกใช้มือสร้างเงาเป็นรูปต่างๆ เช่น รูปสุนัข เป็ด นก ฯลฯ (หาแบบได้จากอินเตอร์เน็ต) ให้ลูกดู ให้เขาทำตามและสร้างสรรค์เงาของเขาเอง และให้เขาเล่าเรื่องจากเงาเหล่านั้น |
ตั้งคำถามจากธรรมชาติรอบตัว |
ธรรมชาติรอบตัวสามารถนำมาฝึกความคิดสร้างสรรค์ลูกได้ เช่น เดินไปเจอใบไม้ ก็ลองให้ลูกคิดต่อว่า ใบไม้ไปทำอะไรได้บ้าง เขาอาจจะตอบว่าเอาไปลอยน้ำ เป็นเรือ เป็นมงกุฎ ฯลฯ หากให้ดีก็ลองนำความคิดลูกมาทำให้เป็นจริงด้วย |