นิทานส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้

Stories can promote children's development.

Almost all children like to hear stories. But some mothers may think that their children are still young, listen to the story of the story read You don't have to hurry and read it. Let me say that it was a misunderstanding. Because there is a lot of research that results in exactly Stories can help promote child development. Children that parents read to listen to since young There will be various developments Better than children whose parents neglect this.

The benefits of fairy tales to child development

Reading stories to children It is a way to create a learning process that can be easily and almost always done to children. Importantly, it is a valuable activity for many aspects of child development. Whether it is:

• Develop kid brain

  While listening to the story, the children concentrate on the story they listen to. His brain will imagine according to that story. Mothers will see that the children repeatedly call to listen to the same story. His brain is working The children want to listen to the story repeatedly. Not to remember Because children of this age have a special development of memory Most children can remember the story in a story after listening only once. But some tales fill the feelings of children When listening to the story, children will be happy. Therefore want to listen repeatedly. In addition, while listening to each story, children must use their imagination power. The child's brain cells will create a new connection kit. Repeated storytelling Together for a long time will help make the connection set more efficient That means the ability to think and learn will increase as well.

• Language development

  ขณะที่ลูกนั่งบนตักแล้วคุณแม่อ่านนิทานไปด้วยกัน ลูกจะเห็นความแตกต่างระหว่างการพูดคุยธรรมดากับการอ่านหนังสือ คุณแม่ชี้ชวนให้ลูกดูรูปภาพ พร้อมตัวอักษรที่เป็นคำบรรยาย ลูกจะมีสมาธิจดจ่อ ได้ฝึกการใช้สายตามองภาพ ทำความเข้าใจกับภาพเชื่อมโยงกับคำ พูดได้เร็วขึ้นจากการฟังเสียง และเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆที่ได้ฟังจากนิทาน อีกทั้งเขาจะรู้สึกสนุกกับการดูภาพพร้อมตัวอักษรที่เห็นมากขึ้น

• พัฒนาทักษะการฟังที่ดีให้เด็ก

  เด็กๆ จะชอบฟังนิทานที่พ่อแม่เล่าหรืออ่าน เพราะเขาอยากรู้และอยากเข้าใจเรื่องราวนั้น ขณะที่ฟัง เด็กๆ ก็เปิดใจกว้างเตรียมพร้อมที่จะซึมซับทุกถ้อยคำของพ่อแม่เพื่อนำมาเรียงร้อยสร้างสรรค์เป็นโลกอัศจรรย์ในจินตนาการของตัวเขาเอง ด้วยเหตุนี้ ระหว่างที่พ่อแม่เล่านิทาน เด็กๆ จึงฝึกฝนตนเองให้รู้จักฟังอย่างตั้งใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และพัฒนาสติปัญญาของเด็กตลอดชีวิต

• พัฒนาอารมณ์และสังคมเด็ก

  เด็กๆ ที่ได้ฟังนิทานจากคุณพ่อคุณแม่จะรู้สึกมีความสุข ทั้งจากการได้ใกล้ชิดคุณพ่อคุณแม่ ทั้งจากการได้ฟังเรื่องราวสนุกของนิทาน คุณแม่จึงจะเห็นว่าลูกจะชอบช่วงเวลาที่ได้ฟังนิทานมาก

  ขณะอ่านหรือเล่านิทานให้ลูกฟัง คุณแม่สามารถใช้นิทานเป็นเครื่องมือในการปลูกฝังความดี ความมีวินัย คุณธรรม และจริยธรรมด้านต่างๆ ให้ลูกได้ เรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับจริยธรรม คุณธรรม การอยู่ร่วมกัน ฯลฯ จากนิทานที่เด็กได้ฟัง จะค่อยๆ พัฒนาเป็นความฉลาดทางอารมณ์และทักษะทางสังคมที่จะติดตัวเขาไปเมื่อโตขึ้น

• ปลูกฝังให้เด็กคุ้นเคยกับหนังสือ

  การอ่านนิทานให้ลูกฟังจะช่วยปลูกฝังให้ลูกคุ้นเคยกับหนังสือได้มากและลึกซึ้งเพียงนั้น เมื่อเด็กรักหนังสือแล้วเขาก็จะไม่ละเลย ไม่ฉีกทำลายหนังสือ ตรงกันข้าม เขากลับจะค่อยๆ รู้สึกว่าหนังสือไม่ได้มีไว้แค่อ่าน แต่เป็นเพื่อนเหมือนของเล่นชิ้นโปรดชิ้นหนึ่ง เมื่อเด็กรักหนังสือก็จะรักการอ่านไปด้วยนั่นเอง

มาอ่านนิทานให้ลูกฟังกันเถอะ

ในแต่ละวันคุณแม่ควรหาเวลาอ่านนิทานให้ลูกฟังอย่างน้อยวันละ 1 เรื่อง โดยพยายามหาเวลาที่เงียบสงบ เช่น เวลาก่อนนอนให้เป็นช่วงของการอ่าน ซึ่งเวลานี้เป็นเหมือนเวลาว่างที่ถ่ายโอนจากเวลาเล่นมาสู่เวลานอน ทำบรรยากาศสบาย ๆ ให้ลูกได้รับรู้ มีความสุข และปลอดภัยจากไออุ่นจากแม่ด้วย จะเป็นการส่งเสริมทัศนคติที่ดีต่อการอ่านให้ลูกได้

เมื่อจะเล่านิทานให้ลูกฟัง หากคุณแม่ได้เตรียมการให้พร้อม ลูกจะสนุกและได้เรียนรู้มากขึ้น ซึ่งสามารถทำได้โดย:

• เตรียมหนังสือนิทานที่เน้นภาพสีสันสดใส
• ทำตุ๊กตากระดาษประกอบการเล่านิทาน (หากเป็นไปได้)
• จับลูกมานั่งตักอ่านนิทานด้วยกัน ให้คุณพ่อคุณแม่และลูก ถือตุ๊กตาคนละตัว พร้อมเล่นเป็นตัวละครในนิทาน
• คุณพ่อคุณแม่เป็นคนเล่า ให้ลูกน้อยฟังและดูภาพตาม
• ระหว่างเล่า ให้ชี้แต่ละภาพพร้อมอธิบายไปด้วยว่าคืออะไร
• ทำน้ำเสียงให้สนุกสนานให้ลูกเพลิดเพลินตามไปด้วย เช่น ถ้าในนิทานมีตัวละครเป็นสัตว์ต่างๆ ให้ทำเสียงสัตว์นั้นแล้วให้ลูกทายว่าเป็นเสียงของสัตว์ตัวไหน

ต่อยอดการเรียนรู้

• เปลี่ยนจากการอธิบายภาพในนิทานแล้วให้ลูกน้อยเป็นผู้ฟังอย่างเดียว มาเป็นการถามให้ลูกน้อยลองตอบเพื่อกระตุ้นการจดจำคำศัพท์
• ชวนลูกเป็นผู้เล่าเรื่องในบางตอน เพื่อเสริมสร้างจินตนาการ
• ตั้งคำถามต่อเรื่องราวในนิทาน เช่น ใช้คำถาม “ถ้าราชสีห์ไม่ติดบ่วงนายพราน ลูกจะตอบแทนบุญคุณราชสีห์ได้อย่างไรอีกบ้าง” ฯลฯ เพื่อท้าทายให้ลูกได้ใช้ความคิด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตเขา เพราะจริงๆ แล้วเด็กๆ มีศักยภาพในการคิดอย่างมาก ขอเพียงแต่ละวันผู้ผู้ใหญ่ได้เปิดโอกาส ท้าทายให้เขาได้คิดอยู่เสมอ

สารอาหารเพื่อพัฒนาสมองและอารมณ์ลูก

นอกจากการพัฒนาสมองและอารมณ์ รวมทั้งพัฒนาการเด็กด้านต่างๆ ด้วยนิทานแล้ว การให้ลูกได้รับสารอาหารที่เหมาะสมจะช่วยพัฒนาทั้งสมองและอารมณ์ลูกได้เช่นกัน เพราะสารอาหารมีผลต่อพัฒนาการทางสมอง และสมองเป็นศูนย์กลางของพัฒนาการต่างๆ

มีงานวิจัยทางคลินิกพบว่า เด็กที่ได้รับสารอาหารพัฒนาสมองที่เป็นส่วนผสมในนมผงอย่าง MFGM ซึ่งประกอบด้วยสารอาหารต่างๆ ที่พบในนมแม่ เช่น โปรตีนต่างๆ และไขมันเชิงซ้อน และ ดีเอชเอ กรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งพบมากในเยื่อหุ้มสมองและจอประสาทตา มีระดับคะแนนพัฒนาการทางสติปัญญาสูงกว่าเด็กที่ได้รับดีเอชเอ เพียงอย่างเดียว นอกจากนั้นจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ เพื่อศึกษาการทำงานของ MFGM พบว่า เมื่อใช้สารอาหาร MFGM ทำงานร่วมกับดีเอชเอ ที่เวลา 21 วัน จะช่วยเพิ่มโอกาสการเชื่อมต่อเซลล์สมองมากกว่าการใช้ดีเอชเอ เพียงอย่างเดียว และงานวิจัยยังพบอีกว่า MFGM จะช่วยให้เด็กสามารถควบคุมพฤติกรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการทางอารมณ์ของเขาได้*

ดังนั้น เพื่อพัฒนาการที่ดีของลูก คุณแม่จึงไม่ควรมองข้ามการอ่านนิทานให้ลูกฟัง ควบคู่ไปกับการเลือกสารอาหารเพื่อช่วยพัฒนาสมองและอารมณ์ลูกนะคะ

ฟรี! ดาวน์โหลดนิทานดนตรีเพื่อพัฒนาการเด็กที่นี่

Music story clip "Timo and the language savvy princess"     
music clip "The little fairy and the shoemaker"     
music clip "Four Musicians Companion"