เวลาที่เราได้สอนลูกในเรื่องความฉลาดทางอารมณ์ ก็เหมือนการที่เราได้สอนเค้าให้รู้จักกับความรู้สึกของตัวเอง ให้เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และเรียนรู้ที่จะจัดการกับมัน เป็นอีกหนึ่งทักษะเพื่อเตรียมพร้อมให้ลูกน้อยประสบความสำเร็จในชีวิต

ความจริงที่ว่าเด็กสมัยนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งหน้าจอคอม และจ้องอยู่แต่กับสมาร์ทโฟน เพื่อทักหาเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับ คนแปลกหน้าบนโลกโซเชียล ยิ่งทำให้การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ให้กับลูกตั้งแต่ยังเล็กมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

แดเนียล โกลแมน (Daniel Goleman) นักจิตวิทยา ได้ระบุถึงทักษะที่เรียกว่า ความฉลาดทางอารมณ์ ไว้ดังนี้

  • 1. การตระหนักรู้ในตนเอง : การรู้จักและเข้าใจในอารมณ์ของตนเอง
  • 2. การควบคุมตนเอง : สามารถจัดการและควบคุมการตอบสนองที่เกิดจากอารมณ์ของตัวเองได้
  • 3. การสร้างแรงจูงใจให้ตนเอง : สัมผัสได้ว่าอะไรมีความสำคัญกับชีวิต และใช้มันเป็นแรงขับเคลื่อนให้ไปถึงเป้าหมาย
  • 4. การเอาใจเขามาใส่ใจเรา : เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น
  • 5. การมีมนุษยสัมพันธ์ : สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ

ข่าวดีก็คือองค์ประกอบทั้ง 5 อย่างของความฉลาดทางอารมณ์นี้ สามารถสอนและเรียนรู้กันได้ตลอดชีวิต ถ้าเด็กๆ ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนในเรื่องของอารมณ์จากที่บ้าน เมื่อต้องมาเจอกับสังคมและผู้คนจากภายนอก เค้าอาจจะอ่อนไหว กับแรงกดดันจากเพื่อนๆ มีความกังวลและกระวนกระวาย จนเค้าต้องอดทนเก็บความวิตกกังวล และความกลัวเหล่านั้นเอาไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลระยะยาวทำให้เค้ากลายเป็นพวกชอบใช้กำลัง หรือกลายเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเนื่องจากขาดแรงจูงใจ

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

คุณแม่จะช่วยลูกน้อยเสริมสร้าง EQ ได้อย่างไรบ้างนะ ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ดูสิคะ :

• บอกอารมณ์ของตนเอง :

อย่าเห็นว่าอารมณ์ของลูกเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราต้องช่วยเค้าให้เข้าใจสิ่งที่เค้ากำลังรู้สึก และรู้เหตุผลว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นฝึกการรับรู้อารมณ์และบอกได้ว่าเป็นอารมณ์แบบไหน ทำให้ติดเป็นนิสัยตั้งแต่ยังเด็ก ยกตัวอย่าง เวลาที่เค้ากำลังโมโห หรือน้อยใจ ให้เค้าอธิบายว่าตอนนี้เค้ากำลังรู้สึกอย่างไร หรือไม่ก็ให้เค้าเขียนหรือวาดออกมา วิธีการนี้ก็สามารถใช้กับเวลาที่เค้ามีอารมณ์ดีได้เช่นกัน

• ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง :

แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยังมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง แน่นอนว่าไม่มีใครสมบูรณพร้อมไปทั้งหมด แต่ให้จำไว้เสมอในฐานะพ่อแม่ว่า มันเป็นหน้าที่ของเรา ที่จะต้องสอนลูกน้อยให้สามารถควบคุมอารมณ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ

• สอนเรื่องการเอาใจเขามาใส่ใจเรา :

เริ่มตั้งแต่ตัวคุณแม่ที่ต้องเข้าใจในตัวลูกก่อน สังเกตและจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกเอาใจใส่ในสิ่งที่ลูกสนใจ ร่วมยินดีไปกับความสำเร็จของเค้า และอยู่กับเค้าในวันที่ลูกเสียใจ ในเวลาที่พูดคุยกัน เราจะต้องใส่ใจและตั้งใจฟังในสิ่งที่ลูกกำลังจะบอก ถึงแม้ว่าจะเป็นการพูดคุยเล่นๆระหว่างซื้อของก็ตาม และการอ่านหนังสือ นับว่าเป็นอีกกิจกรรมที่ดี ที่จะช่วยให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้ใช้เวลาร่วมกัน บางทีอาจจะลองหันมาคุยกันถึงตัวละครในนิทานว่ากำลังรู้สึกแบบไหน เด็กที่รู้สึกว่าตนเองมีคนรับฟังและเห็นคุณค่า ก็จะกลายเป็นคนทีเห็นอกเห็นใจ เคารพ และเห็นคุณค่าในตัวของคนอื่นเช่นกัน

• อยู่กับลูกเสมอ :

คุณแม่ควรพยายามสร้างความผูกผันกับเจ้าตัวเล็ก เพื่อให้ลูกน้อยเข้าใจและมั่นใจว่าไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจะมีคุณแม่คอยอยู่ข้างๆ เสมอ อยู่ในช่วงเวลาที่ลำบาก ยิ่งจะทำให้เค้าไว้วางใจในตัวคุณแม่มากขึ้น และทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยโดยความรู้สึกที่ได้รับจากคุณแม่ ลูกจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันความรู้สึกนั้นแก่ผู้คนรอบตัว

• สอนการแก้ปัญหา :

ทำให้ลูกรู้ว่าทุกปัญหามีทางแก้เสมอ หากจัดการด้วยความอดทนและมีเหตุผล ใส่ใจในสิ่งดีๆ และคอยคิดหาหนทางในการแก้ไข แม้ในสถานการณ์ที่ดูซับซ้อน รวมทั้งสอนให้ลูกเข้าใจความผิดหวัง ให้ลูกได้รู้จักเรียนรู้จากอดีต และเดินหน้าต่อไปยังอนาคต

• ให้เค้าได้รับสารอาหารที่เหมาะสม :

คุณแม่อาจจะยังสงสัยว่าว่าอาหารของเด็กส่งผลกับ EQ ของลูกได้อย่างไร? อันที่จริงแล้วสารอาหารเป็นส่วนสำคัญในการเสริมพัฒนาการทางสมองของลูกน้อย เพราะสมองเป็นเหมือนศูนย์กลางในการควบคุมอารมณ์เลยก็ว่าได้ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ สารอาหารมีผลต่อพัฒนาการด้าน EQ หรือไม่?)

เด็กที่มีพัฒนาการทางด้าน EQ สูงมักจะมีความสัมพันธ์ที่ดี สื่อสารมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขความขัดแย้ง รับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก และจัดการกับความเครียดได้ดี เมื่อเด็กเหล่านี้โตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ ความฉลาดทางอารมณ์ก็จะส่งผลให้พวกเค้ามีความสุขและความมั่นคง ทั้งในหน้าที่การงานและความสัมพันธ์กับคนรอบตัว

ดาวน์โหลดฟรี! แอพพลิเคชั่นเพื่อแม่ตั้งครรภ์

หากคุณแม่ต้องการข้อมูล เคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับพัฒนาการของทารกตลอดช่วงระยะเวลาการตั้งครรภ์ คำแนะนำด้านโภชนาการ และรับสิทธิประโยชน์เพื่อลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์จนถึง 3 ปี คุณสามารถสมัครสมาชิก Enfa Smart Club ผ่านแอพพลิเคชั่นเพื่อแม่ตั้งครรภ์ฟรี ที่นี่ Enfa A+ Genius Baby