การใช้ชีวิตเป็นคุณแม่ลูกอ่อนอยู่กับบ้านในแต่ละวัน บางครั้งคุณแม่ก็เจอกับปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการดูแลลูก จนทำให้คุณแม่เก็บมาคิดมากจนเกิดอาการเครียดหลังคลอดได้ ยิ่งกลับมาทำงาน ยิ่งมีเรื่องงานให้คิดอีก อาจทำให้คุณแม่เครียดจนหมดไฟในการทำงานได้ ลองมาหาทางแก้กันค่ะ
แม่เครียดหลังคลอดจนส่งผลต่องาน แก้ไขยังไงดี?
-
คิดถึงเรื่องดีๆ ให้คุณแม่ลองคิดถึงสิ่งต่าง ๆ หรือเรื่องราวดี ๆ ที่จะทำให้มีความสุข เรื่องอะไรที่ไม่เป็นไปอย่างใจหวังให้ลืมมันไป เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ ทำให้คุณแม่มีความเครียดซึ่งสามารถส่งผลเสียไปยังลูกน้อยได้ คุณแม่ต้องอยู่กับปัจจุบันให้มากๆ เลยนะคะ พยายามอย่าคิดถึงเรื่องที่เรากังวลหรือท้อ เทคนิคที่ใช้แล้วได้ผลก็คือ “ต้องทำสิ่งที่ตัวเองพอใจในแต่ละวัน” อย่างเช่น นั่งเฉยๆ ฟังเพลงที่ชอบ เดินไปเลือกลิปสติกสักแท่ง ทำอาหารดีๆ ให้ตัวเอง ฯลฯ คือต้องมีอะไรที่เป็นความสุขเล็กๆ ของคุณแม่ สร้างอะไรแบบนี้ขึ้นมาก่อนแล้วความสุขอื่นๆ จะตามมา รวมทั้งความสุขในการทำงาน
-
มอบหน้าที่ให้คุณพ่อทำแทนบ้าง แม้คุณแม่มีหน้าที่หลักในการเลี้ยงลูก แต่การขอให้คุณพ่อช่วยแบ่งเบาภาระจะช่วยคลายความเครียดของคุณแม่ลงได้มาก แถมไม่ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้ามากเกินไป เพราะต้องไม่ลืมว่า ถ้าคุณแม่เครียดหรืออารมณ์เสียย่อมส่งผลกระทบต่อลูกด้วย ลองให้คุณพ่อช่วยอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูก ทำงานบ้าน ล้างขวดนม ซักผ้าลูก หรือทำกับข้าว ระหว่างที่คุณแม่ให้นม จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก แถมยังได้เห็นมุมน่ารักๆ ของแฟมิลี่แมนที่คุณแม่อาจคาดไม่ถึงก็เป็นได้
-
หาเวลาดูแลตัวเอง ในวันหยุดคุณแม่มือใหม่อาจจะเป็นกังวลว่าจะดูแลลูกน้อยได้ไม่เต็มที่ จนบางทีไม่ยอมหลับยอมนอนเพราะห่วงลูกมากเกินไป ซึ่งคุณแม่ต้องผ่อนคลายจิตใจของตนเองด้วย และควรหาเวลาให้กับตัวเองบ้าง เช่น เวลาที่คุณแม่ดูแลเจ้าตัวน้อยจนหลับปุ๋ยแล้ว คุณแม่อาจจะอ่านหนังสือเล่มโปรด นั่งฟังเพลงสบาย ๆ เพื่อผ่อนคลาย หรือนอนหลับไปพร้อมลูก หรืออาจแว่บไปร้านเสริมสวยใกล้ๆ บ้านทำสวยสักนิด จะได้มีเรื่องสดใสในชีวิตของการเป็นแม่ลูกอ่อน ช่วยคลายเครียดได้ทางหนึ่งค่ะ เมื่อคุณแม่ไม่เครียดขณะอยู่บ้าน เมื่อกลับไปทำงานก็จะรู้สึกดีขึ้นค่ะ
-
จัดตารางชีวิตใหม่ให้สดใสขึ้น ก่อนมีลูก คุณแม่อาจตื่นสาย มีเวลาแต่งหน้าจัดเต็ม ทำงานชิลๆ หรือติดประชุมยาวจนดึกก็ไม่เป็นไร แต่พอมีลูก เวลาทุกวินาทีมีค่าเสมอ ปกติแล้วแม่ลูกอ่อนมักรู้สึกกังวลใจเมื่อต้องห่างลูก จนทำงานได้ไม่เต็มที่
ดังนั้น คุณแม่ควรจัดตารางชีวิตเสียใหม่ อาจลองตื่นเช้าขึ้นอีกสัก 1 ชั่วโมง เพื่อมีเวลาเตรียมตัวและให้นมลูกก่อนมาออฟฟิศ ควรเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการจัดลำดับงานที่ต้องทำให้ชัดเจน อาจลิสต์สิ่งที่ต้องทำ ของวันนั้นเอาไว้และคำนวณเวลาคร่าวๆ ของงานแต่ละชิ้น จะได้มีช่วงพักสำหรับปั๊มนมด้วย
ถ้าวางแผนดีตั้งแต่ต้น คุณแม่ลูกอ่อนก็ทำงานเสร็จและดีได้ไม่แพ้สาวออฟฟิศคนอื่น ไม่เครียดเพราะทำงานไม่เสร็จ ไม่เหนื่อยเกินไป แถมได้กลับบ้านตรงเวลาไปหาลูกได้ทันทีด้วย
แม่เครียดส่งผลต่อปริมาณนมนะ
นอกจากจะส่งผลต่อการงานแล้ว ความเครียดของคุณแม่อาจส่งผลต่อการสร้างน้ำนมด้วย คุณแม่อาจเห็นว่าปั๊มนมได้น้อยลง ซึ่งหากคุณแม่เห็นว่าน้ำนมที่ปั๊มได้มีน้อยลง ลูกกินไม่อิ่ม อาจต้องยอมใช้นมผงเสริมด้วย โดยคุณแม่ควรเลือกนมผงที่เสริม MFGM และสารอาหารอื่น ๆ ซึ่งเป็นเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในน้ำนมแม่ ซึ่งเยื่อหุ้มนี้ช่วยให้เซลล์ไขมันคงรูปอยู่ได้ในน้ำนม MFGM ประกอบด้วยสารอาหารต่างๆ ที่พบในนมแม่ เช่น โปรตีนต่างๆ และไขมันเชิงซ้อน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสารที่มีประโยชน์ส่งผลดีต่อร่างกายและสมองเด็ก, ดีเอชเอ กรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดสายโซ่ยาว เป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มสมองและจอประสาทตา ถือเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้ของเด็ก
เมื่อแม่มีความสุข ก็สนุกไปกับงาน
เมื่อคุณแม่เริ่มรู้สึกดีกับตัวเองแล้ว เรื่องงานก็จะค่อยๆ ตามมา มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาชีพชื่อดังท่านหนึ่งบอกไว้ว่า “แม่หลังคลอดจะรู้สึกหมดไฟในการทำงานเป็นเวลา 6 เดือนหลังคลอด และหลังจากนั้นถ้าไม่พยายามลุกขึ้นมาให้ได้ แม่คนนั้นจะซึมเซาในเรื่องงานต่อไปอีกเป็นปี” แปลว่าเราต้องมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แล้วทำให้ดีที่สุด และหาอะไรที่เรามีความสุขทำไปพร้อมๆ กันด้วย มีแม่ทำงานคนหนึ่งเธอใช้แนวคิดนี้ เธอบอกว่า “ฉันจะมองว่าทำงานคือการผ่อนคลายตัวเอง ฉันได้เป็นตัวของตัวเอง ได้มีสมาธิ และเวลาทำงานก็ดีออก ได้แว่บไปหาอะไรที่อยากกินบ้าง”
ถ้าเราจำเป็นต้องลุยงานต่อ ก็อาจจะไม่มีเวลามานั่งคิดอะไรในแง่ลบลงไปอีก สโลแกนหนึ่งของแม่ทำงานก็คือ “แม่ป่วยไม่ได้ แม่แพ้ไม่ได้” อนาคตของลูก วันที่เราสบายใจเรื่องลูกๆ แล้วคือเป้าหมายของเรา อาจมีหมดไฟได้บ้าง....แต่อย่านาน ไม่เป็นไรหรอกถ้าเราจะต้องให้กำลังใจตัวเองบ่อยๆ อย่างน้อยเราก็จะภูมิใจว่า ยิ้มของลูกที่เวลาแม่พาไปเที่ยว ก็มาจากความอดทนที่แม่ทำงานมานี่ล่ะ ว่าแล้วก็ลุยต่อกันเลยนะคะ
ความเครียดหลังคลอดสามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน แต่การตั้งรับที่ดีอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่นานทุกอย่างจะดีขึ้นได้ ขอเป็นกำลังใจให้เวิร์กกิ้งมัมทุกคนนะคะ
