ตรวจสอบข้อมูลโดย : ผศ.พญ.ดิษจี ลุมพิกานนท์
กุมารแพทย์ สาขาทารกแรกเกิดและปริกำเนิด
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล
ท่อน้ำนมอุดตัน...ปัญหาที่คุณแม่ต้องรีบจัดการด่วน
ปัญหาท่อน้ำนมตันในแม่ที่ให้นมลูกนั้น ถ้ามองเผินๆ ก็อาจจะดูไม่ร้ายแรงอะไร แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจเกิดการเจ็บเต้านม เต้านมอักเสบหรือเป็นฝี เป็นปัญหารุนแรงถึงขั้นอาจต้องหยุดให้นมก็เป็นได้ ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามเมื่อเริ่มสังเกตได้ว่าท่อน้ำนมเราไหลไม่ดีเวลาลูกดูด
ท่อน้ำนมอุดตันเกิดได้แม้ลูกดูดนมและแม่ปั๊มนมตลอด
ท่อน้ำนมอุดตันนี้เกิดขึ้นได้เสมอสำหรับคุณแม่ที่กำลังให้นมลูก เพราะท่อน้ำนมของคุณแม่เหมือนท่อเล็กๆ ที่นำพาน้ำนมจากเนื้อเยื่อที่อยู่ในเต้านมออกมาสู่ที่หัวนมให้ลูกดูด แต่ละท่อก็แตกแขนงกันออกไปโยงใยไปมา เซลล์กล้ามเนื้อก็จะบีบให้น้ำนมออกมาตามท่อนี้ให้ลูกดื่มกิน พอมีอะไรไปอุดตันท่อนี้น้ำนมก็ไหลออกมาไม่ได้ รู้สึกว่าเป็นก้อนแข็ง คุณแม่มีอาการเจ็บเต้านม ถ้าไม่รีบดูแลแก้ไขจะทำให้เต้านมอักเสบ เพราะน้ำนมคั่งไปยังบริเวณเนื้อเยื่อรอบข้าง มีผลทำให้คุณแม่เป็นไข้ตัวร้อนตามมา
ดังนั้นอย่าลืมสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับเต้านมคุณแม่ตลอดเวลาว่ามีอาการเสี่ยงเป็นท่อน้ำนมอุดตันดังต่อไปนี้หรือไม่...
-
มีก้อนแข็งๆ เจ็บๆ ที่เต้านมข้างใดข้างหนึ่ง
-
มีรอยบวมแดงบนผิวเต้านม
-
มีจุดขาวๆ ประมาณ 1 มิลลิเมตรที่รูท่อน้ำนมบริเวณหัวนม ดูเหมือนก้อนไขมันอุดตัน และคุณแม่รู้สึกเจ็บเวลาให้นมลูก
สาเหตุที่ทำให้ท่อน้ำนมอุดตัน
1. ให้ลูกดูดนมไม่บ่อยและสม่ำเสมอ
เพราะว่าคุณแม่อาจจะกำหนดเวลาในการกินเข้มงวดเกินไป ให้ลูกดูดไม่เพียงพอกับปริมาณน้ำนมที่สร้าง ปล่อยลูกนอนนานเกินไปแล้วคุณแม่ไม่ได้ลุกขึ้นมาปั๊มนมออกมา
2. ลูกดูดไม่เกลี้ยงเต้า
อาจจะเพราะลูกมีปัญหาเรื่องพังผืดใต้ลิ้น หรือน้ำนมไหลแรงเกินไปทำให้ลูกปฏิเสธที่จะดูด หรือแม่เองที่ไม่ได้ให้ลูกดูดนมแต่ละข้างนานพอ
3. ให้ลูกดูดนมอยู่ท่าเดียวตลอดเป็นเวลานาน
ท่อที่ไม่ค่อยได้ถูกกระตุ้นน้ำนมให้ไหลผ่านออกมาก็อาจจะอุดตันได้
4. ใส่เสื้อชั้นในที่มีบางตำแหน่งกดทับ
การใส่เสื้อชั้นในที่มีโครงหรือรัดเกินไปอาจกดทับท่อน้ำนมได้ง่าย
5. คุณแม่รู้สึกเหนื่อยเกินไป
เพราะเซลล์กล้ามเนื้อเล็กๆ ที่จะเป็นตัวผลักดันน้ำนมออกมาต้องใช้พลังงานเหมือนกับกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ถ้าคุณแม่เหนื่อยมาก น้ำนมก็จะไหลออกยาก
6. กินอาหารที่มีไขมันสูงๆ
ต้องระวังการกินอาหารในแต่ละมื้อ เพราะเมื่อกินอาหารไขมันสูงอย่างเนย นม ชีส จะเสี่ยงต่อการเกิดท่อน้ำนมอุดตันขึ้นได้
รู้เมื่อไหร่ แก้ไขเมื่อนั้น!
เมื่อรู้ว่าท่อน้ำนมอุดตัน คุณแม่รีบแก้ไขทันทีที่รู้จุดที่มีการอุดตันจะถูกทำให้ออกได้เร็วและไม่ยากเท่าปล่อยทิ้งไว้นานๆ ซึ่งแก้ไขได้ดังนี้
-
ให้นมต่อไป
-
- ลูกยิ่งดูดยิ่งดี เพราะพลังแรงดูดของลูกไม่เหมือนกับเครื่องปั๊ม ลูกคือคนที่จะช่วยจัดการปัญหานี้ได้ดีที่สุด พยายามให้ลูกดูดนมบ่อยมากกว่าปกติ อย่างน้อยวันละ 8-12 ครั้ง และดูดนานอย่างน้อยข้างละ 10 -15 นาที
-
- ให้ลูกดูดจากเต้าที่มีปัญหาก่อน เพราะขณะที่ลูกหิวจัดลูกจะดูดแรง ทำให้ระบายน้ำนมออกได้มาก และหลังจากที่ลูกดูดนมเสร็จให้บีบหรือปั๊มน้ำนมออกจะช่วยให้หายเร็วขึ้น
-
- จัดท่าให้นม โดยระหว่างที่ดูดให้หันคางของลูกไปทางท่อน้ำนมตรงที่อุดตันหรือบริเวณที่เต้านมเป็นก้อน ลิ้นของลูกก็จะช่วยรีดน้ำนมออกจากท่อที่ตันได้ ขณะที่ลูกกำลังดูดนม คุณแม่สามารถนวดเบาๆ บริเวณเหนือจุดที่อุดตันหรือบริเวณที่เป็นไตแข็ง ไล่ลงไปถึงหัวนม เพื่อดันก้อนที่อุดตันออก การจัดท่าให้ลูกดูดนมโดยการเปลี่ยนท่าไปเรื่อยๆ ในแต่ละมื้อหลังให้นมเสร็จก็อาจปั๊มต่อจะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้
-
-
ใช้ความร้อนจากน้ำเข้าช่วย
-
- อาบน้ำร้อน สถาบันเกี่ยวกับเด็กอย่าง The American Academy of Pediatrics แนะนำว่าเวลาที่รู้สึกปวดและอยากให้ก้อนแข็งๆ ที่อุดตันหลุดออก ให้คุณแม่ลองอาบน้ำร้อนหรือประคบด้วยน้ำร้อนเท่าที่คุณแม่ทนได้ในบริเวณที่อุดตันแล้วใช้นิ้วโป้งนวดไล่จากฐานเต้านมออกมาที่หัวนม เมื่อก้อนที่อุดตันหลุดออกมา น้ำนมจะไหลแรงออกมาทันที จากนั้นให้ลูกดูดหรือปั๊มต่อได้เลย
-
- ให้ใช้ผ้าอุ่นๆ ประคบ เอาผ้าขนหนูเปียกหมาดๆ อุ่นในไมโครเวฟก็จะได้ผ้าอุ่นอย่างรวดเร็ว หรือใช้ถุงประคบร้อนประคบเต้านมประมาณ 5-10 นาที ก่อนให้นมลูก จะทำให้ท่อน้ำนมทำงานได้ดีขึ้น และช่วยให้ลูกน้อยดูดนมได้เกลี้ยงเต้ามากขึ้น
-
นอกจากนี้คุณแม่ควรเลือกเสื้อยกทรงที่ช่วยพยุงเต้านม ไม่หลวมหรือรัดแน่นเกินไป และสามารถลดอาการปวดบวมด้วยการประคบเย็นหลังให้นมลูกเสร็จ ถ้าปวดมากกินยาแก้ปวดได้
เมื่อได้รู้สาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาท่อน้ำนมอุดตันแล้ว เชื่อว่าคุณแม่จะสามารถรับมือปัญหาท่อน้ำนมอุดตันนี้ได้เพื่อให้การให้นมแม่ดำเนินไปได้อย่างที่คุณแม่ตั้งใจไว้ค่ะ
นมแม่ดีที่สุดโดยเฉพาะน้ำนมเหลืองที่มีแลคโตเฟอร์ริน
เพราะมี แลคโตเฟอร์ริน โปรตีนในนมแม่ที่จะพบได้มากที่สุดในน้ำนมเหลือง หรือน้ำนมระยะแรกที่จะไหลออกมาใน 1-3 วันแรกหลังคลอด ซึ่งทำหน้าที่ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา จึงช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
นมแม่ดีที่สุดต่อสมองเด็ก
เพราะมี MFGM เยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในน้ำนม ช่วยให้เซลล์ไขมันคงรูปอยู่ได้ในน้ำนม MFGM ประกอบด้วยสารอาหารต่างๆ เช่น โปรตีนต่างๆ และไขมันเชิงซ้อน ซึ่งล้วนแต่เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสมองเด็ก และมีดีเอชเอ กรดไขมันที่ช่วยพัฒนาสมองเด็กนั่นเอง