ก่อนสู่วัยอนุบาล ลูกวัย 1-3 ขวบหรือวัยเตาะแตะพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกก้าวหน้าไปมากทีเดียว หากคุณแม่ได้มีแนวทางในการดูแลลูกน้อยอย่างเหมาะสม เราเชื่อมั่นว่าพัฒนาการของลูกจะยิ่งมีมากจนน่าอัศจรรย์ใจ ที่สำคัญ ลูกวัยนี้ยังต้องการสารอาหารมาพัฒนาสมองอย่างต่อเนื่อง แต่บางครั้งคุณแม่อาจไม่ทราบแน่ชัดว่าลูกวัยนี้ต้องการสารอาหารสำคัญปริมาณเท่าไหร่ อย่างไรบ้าง เรามีข้อมูลส่วนหนึ่งมาแนะนำคุณแม่ค่ะ

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

โภชนาการ คือสิ่งสำคัญต่อสมองและการเรียนรู้

นอกจากการเลี้ยงดู การเสริมสร้างพัฒนาการด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัยแล้ว การดูแลเรื่องโภชนาการก็สำคัญต่อการเตรียมพัฒนาการทางสมองให้พร้อมสำหรับการเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ รอบตัว ที่เข้ามาให้เรียนรู้ตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เด็กๆ นั้นต้องการพลังงานและสารอาหารที่แตกต่างกันไปตามพัฒนาการและกิจกรรมของแต่ละช่วงวัย คุณแม่จึงควรให้ความสำคัญกับให้ลูกได้รับสารอาหารที่สำคัญอย่างเพียงพอกับวัยของเขา

 
เด็กวัยเตาะแตะสามารถพัฒนาสมองได้ด้วยการกินและการฝึกฝนการเรียนรู้
 
  • เด็กวัย 1-3 ขวบ ควรได้รับสารอาหารอะไรพิเศษบ้าง

    เด็กอายุระหว่าง 1-3 ปีนั้น ต้องการพลังงานสูงเนื่องจากการเจริญเติบโตเป็นไปอย่างรวดเร็วและเริ่มมีกิจกรรมเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงต้องการอาหารที่ให้พลังงานสูง รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุด้วย สารอาหารที่สำคัญสำหรับเด็กวัยนี้ ได้แก่ โปรตีน แคลเซียม เหล็ก วิตามินเอและวิตามินดี แหล่งของโปรตีนคือเนื้อสัตว์ นม และไข่ แหล่งแคลเซียมที่ดีคือนม ในขณะที่เหล็กได้รับจากเนื้อสัตว์และตับ ผักใบเขียว และธัญพืช วิตามินเอมีมากในผักใบเขียว ส่วนวิตามินดีมีมากในปลาที่มีไขมันสูง อย่างปลาแซลมอน ปลาทู และไข่

  • สารอาหารใดที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองของลูกวัยนี้

    เนื่องจากเด็กวัยนี้อยู่ในช่วงที่สมองกำลังพัฒนา จึงควรได้รับสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของสมองอย่างดีเอชเอMFGM ด้วย งานวิจัยพบว่า MFGM ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กอีกหลายด้าน ว่าจะเป็น :

    • สมองและสติปัญญา มีงานวิจัยทางคลินิกพบว่าเด็กที่ได้รับ MFGM ร่วมกับกรดไขมันดีเอชเอ มีระดับคะแนนพัฒนาการทางสติปัญญาสูงกว่าเด็กที่ได้รับดีเอชเอ เพียงอย่างเดียว อีกทั้งมีรายงานว่าเมื่อ MFGM ทำงานร่วมกับดีเอชเอ ที่เวลา 21 วันในห้องปฏิบัติการ จะช่วยเพิ่มโอกาสการเชื่อมต่อเซลล์สมองมากกว่าการใช้ดีเอชเอ เพียงอย่างเดียว*

    • ภูมิคุ้มกัน โปรตีนบางชนิดใน MFGM มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบการป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสและแบคทีเรีย ช่วยให้ร่างกายเด็กต่อสู้กับการติดเชื้อได้ เช่น พบว่า MFGM ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน เป็นต้น เมื่อลูกน้อยมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง พร้อมเรียนรู้เรื่องราวรอบตัวได้ดี

      • พัฒนาอารมณ์ MFGM จะช่วยให้เด็กสามารถควบคุมพฤติกรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการทางอารมณ์ของเขาได้**

      • พัฒนาร่างกายและการเคลื่อนไหว มีงานวิจัยทางคลินิกพบว่า เด็กกลุ่มที่ได้รับนมเสริม MFGM มีพัฒนาการร่างกาย โดยเฉพาะทักษะการใช้กล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหวที่ดีกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่ได้เสริม

      • พัฒนาภาษาและการสื่อสารที่ซับซ้อนกว่า มีงานวิจัยในเด็กพบว่า เด็กกลุ่มที่ได้รับนมเสริม MFGM มีพัฒนาการด้านภาษาที่ดีและทักษะการสื่อสารที่ซับซ้อนกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่ได้เสริม

      • เพิ่มสมาธิจดจ่อที่นานกว่า งานวิจัยในเด็กพบว่า เด็กกลุ่มที่ได้รับนมเสริม MFGM มีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมที่ทำนานกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่ได้เสริม

  • ใน 1 วัน เด็กอายุ 1-3 ขวบ ต้องการโปรตีนกี่กรัม

    สำหรับเด็กอายุ 1-3 ขวบต้องการโปรตีนประมาณ 1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยโปรตีนที่ได้รับควรเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพดี เช่น จากเนื้อสัตว์ นม และไข่ เนื่องจากมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน ซึ่งดูตามน้ำหนักโดยเฉลี่ยของเด็กวัยนี้ ในแต่ละวันเด็กควรได้รับเนื้อสัตว์ 3-4 ช้อนกินข้าว ไข่ 1 ฟอง นม 2-3 แก้ว

  • ใน 1 วัน เด็กอายุ 1-3 ขวบ ควรกินไข่กี่ฟอง

    ในปัจจุบันไม่ได้มีการระบุปริมาณไข่ที่ควรบริโภคใน 1 วัน ในบุคคลแต่ละวัย ซึ่งที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินว่าวัยผู้ใหญ่ห้ามบริโภคไข่เกินวันละ 1 ฟองหรือต่ำกว่านั้น เนื่องจากความกังวลต่อปริมาณคอเลสเตอรอล ซึ่งอาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจ อย่างไรก็ตาม ’2015-2020 Dietary Guidelines for Americans’ ซึ่งจัดทำโดย U.S. Department of Health and Human Services ร่วมกับ U.S. Department of Agriculture ไม่ได้จำกัดปริมาณคอเลสเตอรอลในอาหารที่ได้รับอีกต่อไป แต่เน้นจำกัดการกินไขมันอิ่มตัว (saturated fat) แทน

    สำหรับในเด็กวัย 1-3 ขวบ หากกินไข่ฟองใหญ่ (น้ำหนักประมาณ 50 กรัม) มีโปรตีนประมาณ 6 กรัม ซึ่งถ้ารับประทานไข่วันละ 1 ฟอง เท่ากับจะได้รับโปรตีนจากไข่ 6 กรัม ซึ่งถ้าเด็กมีน้ำหนักตัว 8 กิโลกรัม จะต้องการโปรตีน 9.6 กรัม ซึ่งโปรตีนส่วนที่เหลือควรได้รับจากอาหารชนิดอื่นด้วย

 
เด็กกินปลาเท่าไหร่ต่อวันถึงจะดีต่อสมอง
 
  • ใน 1 วัน เด็กอายุ 1-3 ขวบ ควรกินปลากี่กรัม

    จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีการกำหนดปริมาณปลาที่เหมาะสมที่เด็กควรกินต่อ 1 วัน เพราะต้องดูน้ำหนักและอาหารโปรตีนอื่นๆ ที่เด็กควรได้รับประกอบด้วย เพื่อให้ได้โปรตีนต่อวันที่เหมาะสมกับน้ำหนักของเด็กคนนั้นๆ ทั้งนี้ปลามีโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ย่อยง่าย และเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาสมองของเด็ก

  • ใน 1 วัน เด็กควรดื่มนมกี่แก้ว

    ปริมาณนมที่เด็กในวัยตั้งแต่ 1 -3 ขวบ ควรดื่มวันละ 2-3 แก้ว เนื่องจากนมเป็นแหล่งของโปรตีน แคลเซียมและโพแทสเซียมที่สำคัญ

  • เด็กควรได้รับ DHA เท่าไหร่ต่อวัน

    เด็กอายุระหว่าง 6 ถึง 24 เดือน ควรได้รับ DHA ในปริมาณ 10-12 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (FAO, 2010) สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป ไม่ได้มีการระบุปริมาณ DHA ที่แนะนำต่อวัน แต่ FAO (2010) ได้ระบุปริมาณ DHA และ EPA(DHA+EPA) ที่แนะนำเท่ากับ 100 -150 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่ง EPA เป็นกรดไขมันชนิดโอเมก้า 3 อีกชนิดหนึ่งนั่นเอง

  • นมสูตรใดเหมาะสมกับเด็กวัย 1-3 ปี

    เด็กๆ นั้นต้องการพลังงานและสารอาหารที่แตกต่างกันไปตามพัฒนาการและกิจกรรมของแต่ละช่วงวัย คุณแม่จึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกนมให้ลูก นมแต่ละสูตรของเด็กๆ จะได้รับการพัฒนาให้เหมาะกับพัฒนาการเฉพาะของเด็กแต่ละวัย ทั้งอุดมด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อสมองครบถ้วนและหลากหลาย เด็กวัย 1 ขวบขึ้นไปเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ การได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นนมที่เหมาะกับเขาคือ นมสูตร 3 ซึ่งคือนมผงครบส่วน ซึ่งมีการเสริมสารอาหารสำคัญต่อสมองและพัฒนาการต่างๆ อย่างครบถ้วน เช่น MFGM ดีเอชเอ  รวมทั้งใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายอย่าง FOS

นอกจากนี้ พบว่าเด็กบางคนอาจมีปัญหาไม่สบายท้อง เช่น ท้องอืด เมื่อกินนมสูตรปกติ คุณแม่สามารถเลือกนมสูตรย่อยง่าย ที่มีโปรตีนผ่านการย่อยบางส่วน และมีปริมาณแลคโตสต่ำ จึงทำให้ย่อยง่าย ปัญหาลูกไม่สบายท้องก็จะลดลงได้ เมื่อสบายท้องลูกก็เรียนรู้ได้เต็มที่ ดังนี้คุณแม่จึงควรเลือกนมให้เหมาะกับความต้องการที่แตกต่างของลูกน้อยนะคะ

 

Reference:
*NeuroProof report for Mead Johnson Nutrition
**eereman-Wauters G, Staelens S, Rombaut R, et al. Milk fat globule membrane (INPULSE) enriched formula milk decreases febrile

 

คุณแม่รู้ไหม สมองลูกน้อยพัฒนาตั้งแต่ในครรภ์ถึง 3 ขวบปีแรก ผู้เชียวชาญพร้อมให้คำปรึกษาได้ที่นี่