สัปดาห์ที่ 23 คำแนะนำ
* เล่นกับลูกในครรภ์ การเล่นกับลูกในครรภ์ เช่น การเรียกชื่อลูกช้าๆ เป็นจังหวะ 3 ครั้งแล้วนวดสัมผัสหน้าท้อง บริเวณที่ต่ำจากใต้สะดือเพียงเบาๆ ลองคลำหาอวัยวะส่วนต่างๆ ของลูก หรือจะใช้นิ้วมือจั๊กจี้ไปที่อวัยวะที่ลูกโก่งตัวออกมา ลูกจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสของคุณแม่ค่ะ
* เดินเล่น ชมสวน ชมธรรมชาติ เมื่อคุณแม่เดินหรือเคลื่อนไหว ร่างกายจะทำให้ลูกในท้องมีการเคลื่อนไหวตามไปด้วย และผิวกายของลูกจะไปสัมผัสกับผนังด้านในของมดลูก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสและพัฒนาการด้านฉลาดเคลื่อนไหวของลูก
* นอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง การนอนหลับ เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด คุณแม่ควรพักผ่อนอย่างเพียงพอ คือประมาณวันละ 8-10 ชั่วโมง เพราะส่งผลต่อพัฒนาการด้านต่างๆ รวมทั้งด้านอารมณ์ของลูกในท้องด้วย โดยควรจัดบรรยากาศห้องนอนให้ปลอดโปร่งเงียบสงบ และจัดท่าทางในการนอนให้สบายที่สุด
* เข้าคอร์สอบรมพ่อแม่มือใหม่ มีการจัดคอร์สอบรมพ่อแม่มือใหม่อยู่บ่อยๆ ซึ่งขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าร่วม เพราะจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแลครรภ์ การเตรียมคลอด การเลี้ยงลูกหลังคลอด ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้

 

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

 

สัปดาห์ที่ 24 คำแนะนำ
* งีบหลับระหว่างวัน การงีบหลับ 30-60 นาทีระหว่างวัน จะช่วยเพิ่มความตื่นตัว ความจำที่ดี และลดอาการเหนื่อยล้าของคุณแม่ลงได้
* หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัด เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องผิวแห้ง คุณแม่ควรเลือกอาบน้ำธรรมดา น้ำที่ค่อนข้างร้อนจะทำให้ผิวแห้ง แตกเป็นขุย เพราะขาดความชุ่มชื้น โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้หน้าท้องแตกลายมากขึ้น
* พูดคุย เข้าสังคมกับกลุ่มเพื่อนหรือญาติพี่น้องบ้าง คุณแม่ควรหาโอกาสออกไปพบปะเพื่อนฝูง หรือชวนเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้องมาเยี่ยมเยือน พูดคุยกันบ้าง เพราะจะส่งผลดีต่ออารมณ์ของแม่ และส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ของลูกด้วย เพราะเขาได้ซึมซับความรัก ความอบอุ่นจากคนรอบข้างอย่างเดียวกับที่แม่ได้รับ
* ทักทายและตอบสนองการดิ้นของลูก เมื่อลูกดิ้นหรือเตะ ชวนคุณพ่อแตะตรงอวัยวะที่เป็นรอยนูนตรงหน้าท้อง พร้อมพูดคุยทักทายลูก เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับเสียงพูดคุย ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านภาษาของเขาต่อไป

 

สัปดาห์ที่ 25 คำแนะนำ
* พูดคุย ท่องบทกลอนหรือคำคล้องจองให้ลูกในครรภ์ฟัง การท่องบทกลอนหรือคำคล้องจอง จะช่วยพัฒนาระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินของลูกในครรภ์ และเตรียมพร้อมสำหรับพัฒนาการด้านภาษาของลูกหลังคลอด
* ไม่กลั้นปัสสาวะ แม้ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย แต่คุณแม่ก็ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดการติดเชื้อได้
* ทานอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่มากมื้อ การกินอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ แต่มากมื้อและกินถี่ขึ้น โดยเว้นระยะห่างของแต่ละมื้อประมาณ 2-3 ชั่วโมง จะทำให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารได้สะดวกขึ้น คุณแม่จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป
* เคลื่อนไหวช้าๆ ตามบทเพลง คุณแม่เปิดเพลงที่มีจังหวะช้าๆ แล้วเคลื่อนไหวตามบทเพลง โดยเลือกท่าเคลื่อนไหวช้าๆ เช่น นั่งเก้าอี้โยกพร้อมโยกตัวไปมา ยกแขนขึ้นลง วาดแขนไปมาในอากาศช้าๆ ตามจังหวะเพลง จะช่วยพัฒนาประสาทด้านการทรงตัวของลูกได้