คุณแม่ที่มีลูกในยุคนี้ อาจมีเรื่องให้กังวลใจอยู่ตลอด โดยเฉพาะกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป เด็กๆ ต้องเติบโตขึ้นมากับสภาพอากาศที่แย่ลง ต้องอยู่กับฝุ่นพิษ PM 2.5 อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แล้วไหนจะการระบาดโควิด-19 อีกล่ะ ซึ่งล้วนทำให้คุณแม่กังวลใจ ที่สำคัญ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญที่ลดประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของลูกน้อย จึงเสี่ยงที่ลูกจะเกิดโรคต่างๆ

ภูมิคุ้มกันสำคัญอย่างไร

ภูมิคุ้มกันของร่างกายเปรียบเหมือนเกราะคอยป้องกันเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะทำให้เกิดโรคหรืออาการต่างๆ เมื่อแรกเกิดที่ทารกได้รับสารภูมิคุ้มกันหรือแอนตี้ บอดี้ชุดแรกจากคุณแม่ ซึ่งจะเพียงพอสำหรับช่วง 2-3 เดือนแรกของชีวิต แต่หลังจากนั้นภูมิคุ้มกันของเขาเองก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่ จึงเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้มากกว่าผู้ใหญ่ ประกอบกับมลพิษในยุคนี้ การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อลดการเจ็บป่วย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคของลูกลง

วิธีเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย

  • ให้ลูกกินนมแม่

    เราต่างทราบดีว่านมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก นอกจากอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ แล้ว ยังมี MFGM สารที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย คุณแม่จึงควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน

  • ฉีดวัคซีนตามกำหนด

    การฉีดวัคซีนคือการสร้างภูมิคุ้มกันให้ระบบร่างกาย เพราะวัคซีนจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรค คุณแม่ควรพาลูกไปรับวัคซีนให้ครบถ้วนตามที่คุณหมอนัด

  • ให้อาหารเสริมลูกตามวัย

    เมื่อวัย 6 เดือนขึ้นไป ลูกสามารถกินอาหารเสริมเพิ่มเติมจากนมได้ คุณแม่ควรเลือกอาหารเสริมที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการและภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

  • ให้ลูกนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

    การนอนหลับยาวจะช่วยระบบภูมิคุ้มกันของเด็กทำงานได้ดี จึงส่งผลต่อความแข็งแรงของร่างกายด้วย เด็กๆ จึงควรได้รับการพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง

  • ให้ลูกได้ออกกำลังกาย

    เมื่อลูกได้ออกกำลังกายทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว ที่ทำหน้าที่สร้างสารภูมิคุ้มกันและจับกินเชื้อโรค ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ส่งผลให้ร่างกายลูกแข็งแรงด้วย คุณแม่จึงควรให้ลูกได้ออกกำลังกายเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ

  • เลือกนมที่เสริมสาร MFGM

    หากคุณแม่มีความจำเป็นไม่สามารถให้นมแม่ได้ ต้องควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกเสริมนมผงให้กับลูก หรือเมื่อถึงวัยที่ลูกสามารถกินนมผงได้ นมผงที่เสริมสารอาหาร MFGM จะเป็นทางเลือกให้คุณแม่ยุคใหม่ในการเสริมสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกได้

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

ชวนคุณแม่ยุคใหม่รู้จัก MFGM ในนมแม่ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลูกเจ็บป่วยน้อยลง

คุณแม่อาจสงสัยว่า MFGM คืออะไร และช่วยให้ลูกเจ็บป่วยน้อยลงได้อย่างไร

MFGM (Milk Fat Globule Membrane) คือเยื่อชีวภาพที่ห่อหุ้มอยู่รอบๆ อนุภาคไขมันในนมที่พบในนมแม่ ทำให้ไขมันสามารถคงรูปอยู่ได้ในน้ำนม ซึ่งประกอบด้วยสารอาหารสำคัญต่างๆ ทั้งโปรตีนต่างๆ และไขมันรวมกว่า 150 ชนิด

MFGM ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลูกเจ็บป่วยน้อยลง

ในยุคสมัยที่สารก่อภูมิแพ้อย่างฝุ่น PM 2.5 ฟุ้งไปทั่วเมือง โรคโควิด-19 กำลังระบาด การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเด็กๆ ให้แข็งแรงเพื่อต่อสู้กับสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก และ MFGM เป็นตัวช่วยคุณแม่ในเรื่องนี้ได้

ทั้งนี้เพราะจากการศึกษาพบว่าโปรตีนบางชนิดใน MFGM มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายและระบบการป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสและแบคทีเรีย ช่วยให้ร่างกายเด็กต่อสู้กับการติดเชื้อได้ เช่น มีการศึกษาพบว่า MFGM ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน1 รวมทั้งลดการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนและภูมิแพ้ในเด็ก2

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาในเด็กก่อนวัยเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีครึ่งถึง 6 ปี พบว่า เด็กที่ได้รับนมเสริม MFGM จะมีระยะเวลาในการเป็นไข้หรือเจ็บป่วยและใช้ยาปฏิชีวนะน้อยกว่าเด็กที่กินนมที่ไม่มีส่วนผสมของ MFGM แสดงถึงการมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

เมื่อลูกน้อยมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีก็จะทำให้สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยบ่อย พร้อมเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ รอบตัวที่มีสิ่งใหม่ๆ ให้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

ทำไมแม่ยุคใหม่ต้องรู้จัก MFGM

MFGM ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อเซลล์สมองด้วย

นอกจากจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว MFGM มีส่วนประกอบของไขมันเชิงซ้อนอย่าง Sphingomyelin ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซด์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างปลอกหุ้มเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งสัญญาณของประสาท และช่วยในการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง สมองก็จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการพัฒนาทางสมองและสติปัญญา จากงานวิจัยทางคลินิก พบว่า เด็กที่ได้รับ MFGM ร่วมกับ DHA มีระดับคะแนนพัฒนาการทางสติปัญญาสูงกว่าเด็ก ที่ได้รับ DHA เพียงอย่างเดียว3 นอกจากนั้นจากการทดลองในห้องปฏิบัติการเพื่อศึกษาการทำงานของ MFGM พบว่า เมื่อใช้สารอาหารใน MFGM ทำงานร่วมกับ DHA ที่เวลา 21 วัน จะช่วยเพิ่มโอกาสการเชื่อมต่อเซลล์สมองมากกว่าการใช้ DHA เพียงอย่างเดียว

เหล่านี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่บอกว่าทำไมคุณแม่ยุคใหม่จึงต้องรู้จักและเลือก MFGM ให้ลูก ใครๆ ก็อยากให้ลูกมีพัฒนาการสมองที่ดีและภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงใช่มั้ยคะ

 

References :

1 Timby N et al.Pediatr Gastroenterol Nutr.2013;60:384-389
2 Birch EE et al.J Nutr.2010;156 (6):902-906
3 NeuroProof report for Mead Johnson Nutrition

 

ไขรหัสลับ MFGM สารอาหารสำคัญที่พบในนมแม่ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางสมอง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เขาแข็งแรง