ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
ภูมิคุ้มกัน พื้นฐานสำคัญให้ลูกน้อยแข็งแรง

ภูมิคุ้มกัน พื้นฐานสำคัญให้ลูกน้อยแข็งแรง

Enfa สรุปให้:

  • ระบบภูมิคุ้มกัน เป็นระบบหนึ่งที่สำคัญของร่างกาย ที่ในช่วง 3 เดือนก่อนคลอด ภูมิคุ้มกันจากแม่จะถ่ายทอดไปสู่ลูกผ่านรก และสายสะดือ ซึ่งทำหน้าที่ปกป้อง และกำจัดสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย
  • ทารกแรกเกิดจะได้รับภูมิคุ้มกันหยดแรกหลังคลอดจากน้ำนมเหลือง (Colostrum) หรือน้ำนมแม่ระยะแรก ซึ่งประกอบด้วยสารอาหารต่าง และสารที่จำเป็นต่อการสร้างภูมิคุ้มกัน อย่างแลคโตเฟอร์ริน (Lactoferrin)
  • จากงานวิจัย แลคโตเฟอร์รินในน้ำนมแม่ เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของทารกได้

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • ภูมิคุ้มกันคืออะไร
     • ประเภทของระบบภูมิคุ้มกัน
     • ภูมิคุ้มกันในเด็ก
     • ภูมิคุ้มกันในเด็กผ่าคลอด
     • ภูมิคุ้มกันในนมแม่
     • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยแลคโตเฟอร์ริน

สิ่งสำคัญที่จะทำให้ทารกเติบโตได้อย่างแข็งแรง มีภูมิต้านทาน และไม่ป่วยบ่อย คือ การมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ซึ่งนอกจากการได้รับวัคซีนแล้ว การให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารครบถ้วน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้เหมาะสมตามวัย ฯลฯ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจอย่างมากในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อให้การเจริญเติบโตของลูกน้อยมีคุณภาพมากที่สุด

ภูมิคุ้มกัน คืออะไร


ภูมิคุ้มกัน (Immune) หรือภูมิต้านทาน เป็นระบบหนึ่งของร่างกายที่เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ระหว่างทารกอยู่ในครรภ์ ซึ่งทำหน้าที่ต่อต้าน และป้องกันอันตรายจากสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต เห็ดราบางชนิด ที่เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย

เมื่อร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอม ภูมิคุ้มกันจะทำงานโดยการดักจับ กำจัดเชื้อโรค และเกิดเป็นแอนติบอดีเพื่อต่อต้าน อย่างไรก็ตามบางคนอาจมีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่องจากคความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน หรือจากการติดเชื้อบ่อยเกินไปจนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดเพี้ยน บางคนจึงมักเจ็บป่วยได้ง่าย

ระบบภูมิคุ้มกันมี 2 ประเภท


ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรา สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่

           1. ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด (Innate หรือ Natural Immunity) คือ ภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นเอง และติดตัวมาตั้งแต่เกิด หรือได้รับถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม สามารถป้องกันโรคที่ไม่จำเพาะเจาะจงกับเชื้อโรคชนิดใดชนิดหนึ่ง โดยเป็นกลไกการตอบสนองของร่างกาย เพื่อต่อต้านไม่ให้เกิดการติดเชื้อเหล่านั้น เช่น การไอ จาม น้ำมูก น้ำตา เหงื่อ กรดในกระเพาะอาหาร การตอบสนองทางเคมีระดับเซลล์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบมีการขัดขวาง ดักจับกินเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย

           2. ภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ (Adaptive หรือ Acquired Immunity) เกิดขึ้นหลังจากร่างกายได้รับเชื้อโรค หรือแบคทีเรียชนิดใดชนิดหนึ่งเข้าไปแล้ว ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะทำหน้าที่ดักเชื้อโรค หรือแบคทีเรียเพื่อรักษาร่างกาย อย่างเฉพาะเจาะจงกับเชื้อโรคแต่ละชนิด และในครั้งต่อไปหากได้รับเชื้อโรคชนิดเดียวกันเข้าสู่ร่างกายอีก ร่างกายก็จะจดจำ และสามารถขจัดเชื้อนี้ด้วยรูปแบบที่เคยทำมาแล้ว

แล้วภูมิคุ้มกันในเด็กล่ะ


อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ระบบภูมิคุ้มกันนั้นได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งก็คือช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอดที่ทารกจะได้รับแอนติบอดีจากแม่ โดยชนิดของแอนติบอดีที่ถูกส่งต่อจะขึ้นอยู่กับระดับภูมิคุ้มกันของแม่ด้วย เช่น หากแม่เคยเป็นอีสุกอีใส ภูมิคุ้มกันของโรคอีสุกอีใสจะถูกส่งต่อให้ทารก จึงทำให้ทารกมีโอกาสเป็นอีสุกอีใสน้อยลงเพราะมีภูมิสำหรับโรคนี้โดยเฉพาะแล้วนั่นเอง

ซึ่งภูมิคุ้มกันในทารกจะเป็นภูมิคุ้มกันทั่ว ๆ ไป และอาจยังไม่แข็งแรงพอที่จะป้องกันการติดเชื้ออย่างรุนแรง การฉีดวัคซีนตามเกณฑ์อายุให้ครบถ้วนอย่างต่อเนื่อง และได้รับสารอาหารอย่างถูกหลัก จะทำให้ลูกน้อยของเราแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดี การเจริญเติบโตเป็นไปอย่างมีคุณภาพ

เด็กผ่าคลอดจะมีภูมิคุ้มกันเพียงพอหรือไม่


เด็กผ่าคลอดนั้นอาจจะมีพัฒนาการภูมิคุ้มกันช้ากว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เนื่องจากไม่ได้รับแบคทีเรียชนิดดี หรือโพรไบโอติก ซึ่งมีส่วนช่วยในการยับยั้งแบคทีเรียก่อโรค และส่งเสริมภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อชนิดต่างๆผ่านกระบวนการทำงานภายในทางเดินอาหาร แต่ภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดสามารถเสริมให้เพียงพอได้ด้วยสารอาหารในน้ำนมเหลืองของนมแม่ ที่ประกอบด้วยโปรตีนสำคัญอย่างแลคโตเฟอร์ริน ที่สามารถช่วยปกป้องเด็กจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา ลดโอกาสการเกิดท้องเสีย ท้องร่วง

เด้กผ่าคลอดเริ่มต้นดีต้องมีครบ 3

นมแม่มีสารภูมิคุ้มกันสำคัญ


การจะทำให้เด็ก ๆ มีร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดี จะต้องมาจากการพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสุขภาพจิตแจ่มใส การได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอจากนมแม่เองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จำเป็น และถือว่าเป็นวัคซีนธรรมชาติแรกที่ทารกได้รับ เพราะนมแม่มีสารอาหารสำคัญ และจำเป็นต่อเด็กที่จะช่วยให้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

จากงานวิจัย ในน้ำนมแม่ประกอบไปด้วยสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะน้ำนมระยะแรก ที่เรียกกันว่า น้ำนมเหลือง หรือ Colostrum ซึ่งถือว่ามีปริมาณสารภูมิคุ้มกันสูง มีเม็ดเลือดขาวที่คอยปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค และเป็นส่วนประกอบถึง 2 ใน 3 ส่วน นอกจากนั้นยังมีโปรตีนกว่า 1,000 ชนิด หนึ่งในนั้นประกอบด้วยโปรตีนสำคัญอย่าง แลคโตเฟอร์ริน (Lactoferrin) ที่จำเป็นต่อลูกน้อยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยด้วย Lactoferrin


การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกนอกจากวิธีที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะทำอยู่แล้ว อย่างการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ การพักผ่อน การออกกำลังกายตามวัย จนไปถึงการให้วัคซีนตามวัย อีกสิ่งที่สำคัญอย่างมาก คือ การได้รับสารอาหารจากนมแม่อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะโปรตีนอย่าง Lactoferrin ที่สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในทารก ออกฤทธิ์ต้านการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสในลำไส้ ที่เป็นสาเหตุของปัญหาระบบทางเดินอาหาร หรืออาการท้องเสียของทารก

น้ำนมเหลือง



บทความแนะนำสำหรับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

EFB banner
Mobile efb banner
EFB banner

Leaving page banner

 

Leaving page banner