Leaving page banner
 
Leaving page banner
 

การตั้งครรภ์/พัฒนาการเด็ก/เคล็ดลับคุณแม่/อาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์

คนท้องท้องเสีย อันตรายไหม ป้องกันได้ยังไงบ้าง

 

Enfa สรุปให้

  • อาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์ เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะการเปลี่ยนอาหาร ร่างกายไวต่ออาหารมากขึ้น อาหารเป็นพิษ ผลข้างเคียงจากวิตามินบำรุงครรภ์ และฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงในขณะตั้งครรภ์

  • แต่โดยปกติแล้วอาการท้องเสียนั้นไม่ใช่อาการทางสุขภาพที่อันตรายร้ายแรง เว้นเสียแต่ว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์มีอาการท้องเสียติดต่อกันตั้งแต่ 2-3 วันขึ้นไปแล้วอาการไม่ดีขึ้น กรณีเช่นนี้อาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ได้ ควรรีบไปพบแพทย์

  • บางครั้งอาการท้องเสียก็อาจหมายถึงสัญญาณใกล้คลอด ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ อาการท้องเสียเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่ากำลังจะมีการคลอดลูกเกิดขึ้น แต่...ก็ไม่ใช่ว่าการท้องเสียในไตรมาส 3 ทุกครั้งจะแปลว่าใกล้คลอดเสมอไป เพราะสัญญาณใกล้คลอดยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาควบคู่กันไป เช่น ปากมดลูกเปิด น้ำคร่ำแตก เป็นต้น

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • สาเหตุของอาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์
     • ท้องเสียขณะตั้งครรภ์มีอาการอะไรบ้าง
     • ท้องเสียขณะตั้งครรภ์อันตรายไหม?
     • ท้องเสียขณะตั้งครรภ์ คุณแม่ควรดูแลตัวอย่างไรดี?
     • ไขข้อข้องใจเรื่องคุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสียกับ Enfa Smart Club

ขณะตั้งครรภ์ระดับฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่จะมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลง จึงมักส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ท้อง ความเครียด รวมถึงอาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์ด้วย

อาการเช่นนี้โดยมากมักไม่ได้เป็นสัญญาณอันตราย แต่มักจะสร้างความรำคาญใจ หรือทำให้รู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจเสียมากกว่า บทความนี้จาก Enfa จะพาคุณแม่มาดูว่า แล้วมีกรณีไหนบ้างนะที่แม่ท้องท้องเสีย แล้วเสี่ยงอันตราย หรือท้องเสียขณะตั้งครรภ์แบบไหนที่ควรไปพบแพทย์ 

คนท้องท้องเสีย เกิดจากอะไร?


อาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์ เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น: 

  • เปลี่ยนอาหารตอนตั้งครรภ์ คุณแม่หลายคนต้องปรับเปลี่ยนการกินอาหารให้เหมาะกับการตั้งครรภ์มากขึ้น ซึ่งบางครั้งอาหารที่เปลี่ยนในช่วงนี้ก็อาจจะทำให้มีอาการท้องเสียได้ 

  • ร่างกายไวต่ออาหารมากขึ้น เมื่อตั้งครรภ์ฮอร์โมนคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ความต้านทานต่อบางสิ่งบางอย่างในอาหารเกิดความอ่อนไหว หรือตอบสนองเร็วขึ้น อาหารบางอย่างที่เคยชอบกิน พอตั้งครรภ์แล้วก็อาจจะไม่ชอบ อาหารบางอย่างที่เคยกินได้ตามปกติ พอตั้งครรภ์กินแล้วก็อาจจะมีอาการท้องเสียตามมา 

  • อาหารเป็นพิษ คุณแม่อาจเผลอไปกินอาหารบางอย่างที่เกิดการปนเปื้อน หรือมีกรรมวิธีการปรุงที่ไม่สะอาดมากพอ ก็อาจจะทำให้เกิดการปนเปื้อนของไวรัสหรือแบคทีเรียที่ทำให้ท้องเสียได้ ขณะตั้งครรภ์จึงควรใส่ใจอาหารการกินมากเป็นพิเศษ นอกจากจะต้องเลือกอาหารที่หลากหลายและดีต่อสุขภาพแล้ว กรรมวิธีในการปรุงก็ควรจะต้องสุกและสะอาด เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และเด็กในท้อง 

  • วิตามินบำรุงครรภ์ คุณแม่บางคนอาจจะกินวิตามินเสริมเพื่อบำรุงครรภ์ ซึ่งวิตามินบางชนิดก็มีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ คุณแม่จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งที่จะกินวิตามินหรืออาหารเสริมเพื่อบำรุงครรภ์ 

  • ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์ส่งผลต่อสุขภาพคุณแม่หลายประการ บางครั้งการผกผันของฮอร์โมนก็ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้า จนคุณแม่ท้องผูก แต่บางครั้งก็ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานเร็วกว่าปกติ จนทำให้คุณแม่ท้องเสีย 

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

แม่ท้องท้องเสีย มีอาการอะไรบ่งบอกบ้าง?


คุณแม่สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นในกรณีที่มีอาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์ได้ ดังนี้ 

  • มีอาการท้องอืดบ่อย 

  • ปวดหน่วงที่ท้อง 

  • มีอาการปวดท้อง 

  • กลั้นอุจจาระไม่ค่อยได้ 

  • อุจจาระบ่อยกว่าปกติ 

ท้องเสียขณะตั้งครรภ์อันตรายไหม?


คุณแม่ที่ตั้งท้องครั้งแรกแล้วมีอาการท้องเสียบ่อย ก็อาจจะนึกสงสัยหรือเป็นกังวลว่าคนท้องท้องเสียอันตรายไหม? ท้องเสียตอนตั้งท้องผิดปกติหรือเปล่า? 

โดยปกติแล้วอาการท้องเสียนั้นไม่ใช่อาการทางสุขภาพที่อันตรายร้ายแรง เว้นเสียแต่ว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์มีอาการท้องเสียติดต่อกันตั้งแต่ 2-3 วันขึ้นไปแล้วอาการไม่ดีขึ้น กรณีเช่นนี้อาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ได้ ควรรีบไปพบแพทย์หากอาการท้องเสียไม่ดีขึ้นเลย 

แม่ตั้งครรภ์ท้องเสีย มีผลกระทบอะไรบ้าง?

เนื่องจากอาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์ ไม่ใช่อาการทางสุขภาพที่รุนแรงจนน่าเป็นห่วงนัก โดยทั่วไปแล้วจึงไม่ค่อยมีอะไรที่จะต้องเป็นกังวล คนท้องสามารถมีอาการท้องเสียเมื่อไหร่ก็ได้ในขณะที่ตั้งครรภ์

การที่คนท้องท้องเสียขณะตั้งครรภ์อ่อน หรือคนท้องท้องเสียในช่วงไตรมาส 3 จึงถือว่าเป็นเรื่องทั่วไปที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ ไม่ควรปล่อยให้ท้องเสียต่อเนื่องยาวนาน เพราะจะส่งผลกระทบกับระดับเกลือแร่ในร่างกายของคุณแม่

อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาการท้องเสียในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ ก็เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่าอาจจะมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดเกิดขึ้น แต่...ก็ไม่ใช่ว่าการท้องเสียในไตรมาส 3 ทุกครั้งจะแปลว่าใกล้คลอดเสมอไป เพราะสัญญาณใกล้คลอดยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาควบคู่กันไป เช่น ปากมดลูกเปิด น้ำคร่ำแตก เป็นต้น 

ท้องเสียตอนท้อง คุณแม่ควรดูแลตัวอย่างไรดี?

อาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์ แม้จะไม่ได้มีอาการรุนแรงที่น่าเป็นห่วง แต่คุณแม่ก็ยังต้องดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอเมื่อมีอาการท้องเสียเกิดขึ้น  

โดยคุณแม่ที่มีอาการท้องเสียสามารถดูแลสุขภาพได้ง่าย ๆ ดังนี้ 

  • กินอาหารที่ย่อยง่าย เพื่อให้ร่างกายสามารถย่อยและขับถ่ายได้ง่ายขึ้น 

  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด โดยเฉพาะอาหารที่รสเผ็ดจัด เพราะเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบย่อยอาหารและทำให้ท้องเสียรุนแรงขึ้นได้ 

  • หลีกเลี่ยงการดื่มนม เพราะมีแนวโน้มที่จะทำให้อาการท้องเสียหนักขึ้นได้ 

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เพราะมีแนวโน้มที่จะทำให้อาการท้องเสียหนักขึ้นได้ 

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ อาการท้องเสียอาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำได้ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ คุณแม่จึงควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อทดแทนที่ร่างกายสูญเสียน้ำไปในขณะท้องเสีย 

  • กินยาตามที่แพทย์สั่ง คนท้องไม่ควรซื้อยามากินเองโดยไม่ปรึกษากับแพทย์ หากมีอาการท้องเสียควรซื้อยาตามที่แพทย์หรือเภสัชกรเห็นชอบเท่านั้น เพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากยาแก้ท้องเสีย 

คนท้องท้องเสีย กินยาอะไรได้บ้าง?

แม่ท้องไม่ควรซื้อยาใด ๆ มากินเอง โดยที่ไม่ได้ปรึกษากับแพทย์ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ท้องที่มีอาการท้องเสีย ไม่ควรที่จะ: 

  • ไม่ควรซื้อยาแก้ท้องเสียมากินเอง 

  • ไม่ควรกินยาท้องเสียที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์  

  • ไม่กินยาหยุดถ่าย เพราะยาที่ทำให้เกิดการหยุดถ่ายทันที อาจทำให้เชื้อโรคที่ทำให้ท้องเสียยังตกค้างอยู่ในร่างกาย และผลข้างเคียงของยาก็อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของแม่และเด็กในท้องได้ 

  • ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียในการรักษาอาการท้องเสียเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน 

ในกรณีที่มีอาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์ แพทย์อาจสั่งจ่ายยาเป็นกรณี ๆ ไป โดยแพทย์อาจสั่งจ่ายยาฆ่าเชื้อ ในกรณีที่อาการท้องเสียนั้นเกิดจากการติดเชื้อไวรัส  

คนท้องท้องเสีย กินเกลือแร่ได้ไหม?

อาการท้องเสียที่รุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าเดิม คนท้องสามารถกินเกลือแร่สำหรับอาการท้องเสีย เพื่อช่วยทดแทนการสูญเสียน้ำในร่างกายจากอาการท้องเสีย 

คนท้องท้องเสีย กินคาร์บอนได้ไหม?

ถึงแม้ว่าคาร์บอนจะมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแก้ท้องเสีย แต่คนท้องไม่ควรซื้อยาแก้ท้องเสียมากินเอง ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ หากแพทย์เห็นชอบก็สามารถกินได้ แต่ถ้าแพทย์พิจารณาแล้วไม่เห็นชอบ ก็ควรหลีกเลี่ยง 

มากไปกว่านั้น คนท้องไม่ควรกินยาหยุดถ่าย เพราะยาที่ทำให้เกิดการหยุดถ่ายทันที อาจทำให้เชื้อโรคที่ทำให้ท้องเสียยังตกค้างอยู่ในร่างกาย และผลข้างเคียงของยาก็อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของแม่และเด็กในท้องได้ 

ท้องเสียขณะตั้งครรภ์ แล้วมีอาการแบบนี้ คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์

อาการท้องเสียตอนตั้งครรภ์ โดยมากแล้วมักไม่รุนแรงจนน่าวิตกกังวล แต่ถ้าหากคุณแม่มีอาการท้องเสียตอนตั้งครรภ์ ดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที 

  • ท้องเสียติดต่อกันตั้งแต่ 2-3 วัน และอาการไม่ดีขึ้น 

  • ท้องเสียและมีอาการปวดท้องเกร็งร่วมด้วย 

  • ขณะที่มีอาการท้องเสีย รู้สึกว่าลูกไม่ดิ้น ไม่เคลื่อนไหวเหมือนปกติ 

  • มีอาการของภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง อ่อนเพลีย 

  • ท้องเสีย และมีไข้ 

  • ท้องเสีย และคลื่นไส้ อาเจียน 

  • มีเลือดปนออกมากับอุจจาระ 

  • ท้องเสียและมีอาการปวดท้องส่วนล่างร่วมด้วย 

  • ท้องเสีย และมีอาการใกล้คลอด เช่น น้ำคร่ำแตก ปากมดลูกเปิด มีเลือดไหลออกทางช่องคลอด 

ไขข้อข้องใจเรื่องคุณแม่ตั้งครรภ์ท้องเสียกับ Enfa Smart Club


1. ท้องเสียตอนตั้งครรภ์ 8 เดือนอันตรายไหม?

อาการท้องเสีย ไม่ว่าจะท้องเสียในอายุครรภ์ที่เท่าไหร่ โดยมากมักไม่รุนแรงจนน่าวิตกกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการท้องเสียตอนอายุครรภ์ 8 เดือน ซึ่งอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 3 อาการท้องเสียในไตรมาสสุดท้ายนี้อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณของอาการใกล้คลอดได้ 

อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่มีอาการท้องเสียนานกว่า 1 - 2 วัน ควรรีบไปพบแพทย์

2. ท้องเสียตอนตั้งครรภ์ 9 เดือน อันตรายไหม?

อาการท้องเสีย ไม่ว่าจะท้องเสียในอายุครรภ์ที่เท่าไหร่ โดยมากมักไม่รุนแรงจนน่าวิตกกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการท้องเสียตอนอายุครรภ์ 9 เดือน ซึ่งอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 3 อาการท้องเสียในไตรมาสสุดท้ายนี้อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณของอาการใกล้คลอดได้ 

3. แม่ตั้งครรภ์ท้องเสีย ต้องไปหาหมอไหม?

อาการท้องเสียโดยมากแล้วจะดีขึ้นเองตามลำดับ ยกเว้นแต่ว่าเป็นอาการท้องเสียที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ คุณแม่อาจจำเป็นต้องไปพบแพทย์ หรือมีอาการท้องเสีย และมีอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที 

  • ท้องเสียติดต่อกันตั้งแต่ 2-3 วัน และอาการไม่ดีขึ้น 

  • ท้องเสียและมีอาการปวดท้องเกร็งร่วมด้วย 

  • ขณะที่มีอาการท้องเสีย รู้สึกว่าลูกไม่ดิ้น ไม่เคลื่อนไหวเหมือนปกติ 

  • มีอาการของภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง อ่อนเพลีย 

  • ท้องเสีย และมีไข้ 

  • ท้องเสีย และคลื่นไส้ อาเจียน 

  • มีเลือดปนออกมากับอุจจาระ 

  • ท้องเสียและมีอาการปวดท้องส่วนล่างร่วมด้วย 

  • ท้องเสีย และมีอาการใกล้คลอด เช่น น้ำคร่ำแตก ปากมดลูกเปิด มีเลือดไหลออกทางช่องคลอด 

4. ปวดท้องเหมือนท้องเสียตอนตั้งครรภ์ อันตรายไหม?

หากมีปวดท้องคล้ายกับท้องเสีย สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุที่อันตรายและสาเหตุที่ไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตาม หากอาการปวดท้องไม่ดีขึ้นภายใน ควรไปพบแพทย์ทันที 

5. คนท้องปวดท้องบิดกินยาอะไรได้บ้าง?

คนท้องไม่ควรซื้อยาใด ๆ มากินเองโดยที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากแพทย์ ดังนั้น หากคุณแม่มีอาการท้องเสีย และมีอาการปวดท้องบิดร่วมด้วย ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรับการรักษา 

6. คนท้องท้องเสียกินสปอนเซอร์ได้ไหม?

สปอนเซอร์เป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและเกลือแร่ คุณแม่จึงสามารถดื่มได้ เพียงแต่ควรดื่มในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป และควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย เพื่อสุขภาพที่ดีของแม่และทารกในครรภ์ 

7. ท้องเสียหลังทำ IVF อันตรายไหม?

การทำ IVF หรือการทำเด็กหลอดแก้ว หากมีอาการท้องเสียเกิดขึ้นภายหลังก็ไม่ถือว่าเป็นอาการทางสุขภาพที่น่ากังวล เว้นเสียแต่ว่าเป็นอาการท้องเสียที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส หรือมีอาการท้องเสีย และมีอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที 

  • ท้องเสียติดต่อกันตั้งแต่ 2-3 วัน และอาการไม่ดีขึ้น 

  • ท้องเสียและมีอาการปวดท้องเกร็งร่วมด้วย 

  • ขณะที่มีอาการท้องเสีย รู้สึกว่าลูกไม่ดิ้น ไม่เคลื่อนไหวเหมือนปกติ 

  • มีอาการของภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง อ่อนเพลีย 

  • ท้องเสีย และมีไข้ 

  • ท้องเสีย และคลื่นไส้ อาเจียน 

  • มีเลือดปนออกมากับอุจจาระ 

  • ท้องเสียและมีอาการปวดท้องส่วนล่างร่วมด้วย 

  • ท้องเสีย และมีอาการใกล้คลอด เช่น น้ำคร่ำแตก ปากมดลูกเปิด มีเลือดไหลออกทางช่องคลอด 

8. คนท้องท้องเสียช่วงไตรมาส 2 อันตรายไหม?

อาการท้องเสีย ไม่ว่าจะท้องเสียในอายุครรภ์ที่เท่าไหร่ โดยมากมักไม่รุนแรงจนน่าวิตกกังวล เว้นเสียแต่ว่าเป็นอาการท้องเสียที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส หรือมีอาการท้องเสีย และมีอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที 

  • ท้องเสียติดต่อกันตั้งแต่ 2-3 วัน และอาการไม่ดีขึ้น 

  • ท้องเสียและมีอาการปวดท้องเกร็งร่วมด้วย 

  • ขณะที่มีอาการท้องเสีย รู้สึกว่าลูกไม่ดิ้น ไม่เคลื่อนไหวเหมือนปกติ 

  • มีอาการของภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง อ่อนเพลีย 

  • ท้องเสีย และมีไข้ 

  • ท้องเสีย และคลื่นไส้ อาเจียน 

  • มีเลือดปนออกมากับอุจจาระ 

  • ท้องเสียและมีอาการปวดท้องส่วนล่างร่วมด้วย 

  • ท้องเสีย และมีอาการใกล้คลอด เช่น น้ำคร่ำแตก ปากมดลูกเปิด มีเลือดไหลออกทางช่องคลอด 

9. คนท้องท้องเสีย ปวดท้อง กินยาอะไรได้บ้าง?

คุณแม่ที่ท้องเสียตอนท้องสามารถดื่มเกลือแร่เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำของร่างกายและลดความเสี่ยงของภาวะขาดน้ำได้ แต่ยาต่าง ๆ ที่จะใช้รักษาอาการปวดท้องและท้องเสีย ควรได้รับความเห็นชอบจากแพทย์และเภสัชกรเสียก่อน ไม่ควรซื้อยาแก้ปวดท้องและท้องเสียนมากินเอง เพราะยาที่ทำให้เกิดการหยุดถ่ายทันที อาจทำให้เชื้อโรคที่ทำให้ท้องเสียยังตกค้างอยู่ในร่างกาย และผลข้างเคียงของยาก็อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของแม่และเด็กในท้องได้ 



บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

EFB Form

EFB Form