Enfa สรุปให้:

  • ทารกเพศชายวัย 6 เดือน หนักประมาณ 7.9 กิโลกรัม สูงประมาณ 67.6 เซนติเมตร ทารกเพศหญิงวัย 6 เดือน หนักประมาณ 7.3 กิโลกรัม สูงประมาณ 65.7 เซนติเมตร

  • เด็ก 6 เดือน เริ่มที่จะสนใจกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากขึ้น จ้องมองมากขึ้น ทั้งยังสามารถที่จะจดจำใบหน้าที่คุ้นเคยได้มากขึ้น เริ่มส่งเสียงเป็นคำที่อาจจะยังไม่ได้ใจความนัก เช่น มามา ดาดา ปาปา โอโอ

  • เด็ก 6 เดือน เป็นวัยที่คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มฝึกให้กินอาหารตามวัย (Solid Foods) ควบคู่ไปกับการให้นมแม่หรือนมผง เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารและพลังงานที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • มีอะไรบ้างเกิดขึ้นในช่วงอายุ 6 เดือน
     • น้ำหนักและส่วนสูงของทารกวัย 6 เดือน
     • การกินของทารกวัย 6 เดือน
     • การขับถ่ายของทารกวัย 6 เดือน
     • การนอนของทารก 6 เดือน
     • พัฒนาการเด็กทารก 6 เดือน
     • กระตุ้นพัฒนาการทารก 6 เดือนอย่างไร
     • ไขข้อข้องใจเรื่องพัฒนาการทารกวัย 6 เดือน กับ Enfa Smart Club

วันเวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก เผลอแว๊บเดียวเจ้าตัวเล็กก็อายุได้ 6 เดือนแล้ว นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญมากค่ะ เพราะระบบต่าง ๆ ในร่างกายของทารกเริ่มจะพัฒนาได้เต็มที่มากขึ้นแล้ว และทารกวัยนี้ก็จะเริ่มกินอาหารอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากนมแม่แล้วด้วย เรามาดูกันค่ะว่าในลูกน้อยวัย 6 เดือน มีพัฒนาการใดที่น่าสนใจบ้างนะ

เด็ก 6 เดือน มีอะไรบ้างที่เกิดขึ้นในช่วงอายุ 6 เดือน


สำหรับเด็ก 6 เดือนนั้น ช่วงนี้ถือเป็นช่วงแห่งการแสดงออกค่ะ ทั้งแสดงออกทางด้านอารมณ์ ความรู้สึก เริ่มส่งเสียงเป็นคำที่อาจจะยังไม่ได้ใจความนัก เช่น มามา ดาดา ปาปา โอโอ เด็กเริ่มที่จะสนใจกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากขึ้น จ้องมองมากขึ้น ทั้งยังสามารถที่จะจดจำใบหน้าที่คุ้นเคยได้มากขึ้นด้วย

และสิ่งที่จะต้องเตรียมตัวเตรียมใจยอมรับให้ดีเลยก็คือ เจ้าตัวเล็กวัยนี้ กำลังจะเริ่มคลานแล้วค่ะ ซึ่งนั่นอาจหมายถึงความยุ่งเหยิงต่าง ๆ ที่จะตามมา เพราะคราวนี้เจ้าตัวเล็กพร้อมแล้วที่จะเริ่มออกสำรวจมุมต่าง ๆ ภายในบ้าน ของมีคม ของที่เสี่ยงจะเกิดอันตราย คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มเก็บเข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อย เพราะอาจเป็นอันตรายกับลูกได้ค่ะ

น้ำหนักและส่วนสูงของทารกวัย 6 เดือน


เมื่อทารกเข้าเดือนที่ 6 ทารกก็จะมีรูปร่างที่ใหญ่ขึ้น น้ำหนักตัวมากขึ้น และมีพัฒนาการด้านต่าง ๆ แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เด็กแต่ละคนจะมีน้ำหนักและส่วนสูงที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ตามเกณฑ์ที่เหมาะสม แต่ก็มีบ้างบางกรณีที่ทารกวัย 6 เดือน มีน้ำหนักและส่วนสูงที่เกินหรือต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น

น้ำหนักทารก 6 เดือน

แล้วแบบนี้ลูก 6 เดือน หนักกี่โลกันนะ? น้ำหนักของทารกวัย 6 เดือนนั้น สามารถแบ่งออกตามเพศโดยกำเนิดได้ดังนี้

     • ทารกเพศชายวัย 6 เดือน หนักประมาณ 7.9 กิโลกรัม
     • ทารกเพศหญิงวัย 6 เดือน หนักประมาณ 7.3 กิโลกรัม

ส่วนสูงทารก 6 เดือน

ส่วนสูงของทารกวัย 6 เดือนนั้น สามารถแบ่งออกตามเพศโดยกำเนิดได้ดังนี้

     • ทารกเพศชายวัย 6 เดือน สูงประมาณ 67.6 เซนติเมตร
     • ทารกเพศหญิงวัย 6 เดือน สูงประมาณ 65.7 เซนติเมตร

การกินของทารกวัย 6 เดือน


อาหารการกินของทารกวัย 6 เดือน เริ่มที่จะกินอาหารอื่น ๆ นอกจากนมแม่ได้แล้วค่ะ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าให้เลิกกินนมแม่เลยนะคะ นมแม่ยังคงเป็นอาหารหลักเช่นเดิม เพียงแต่จำต้องเพิ่มอาหารตามวัยอื่น ๆ เข้ามาเสริมด้วยค่ะ

โภชนาการสำหรับทารก 6 เดือน

ทารกวัย 6 เดือน สามารถกินอาหารอื่น ๆ ได้แล้ว แต่... อาหารอื่น ๆ ที่ว่านั้น เด็ก 6 เดือน กินอะไรได้บ้างล่ะ? ซึ่งอาหารที่เด็กวัย 6 เดือนสามารถกินได้คือ

     • ผัก เช่น ฟักทองบด มันบด
     • ผลไม้ เช่น กล้วยบด มะม่วงสุกบด
     • เนื้อสัตว์ เช่น ตับบด ไข่แดงบด
     • ธัญพืชต่าง ๆ เช่น ข้าวบด ข้าวโอ๊ตบด

ซึ่งอาหารที่ว่านี้ ยังจำเป็นจะต้องมีการบดให้ละเอียดก่อนนะคะ เพราะแม้ว่าทารกจะสามารถกินอาหารตามวัยได้แล้ว แต่ยังจำเป็นจะต้องมีเนื้อสัมผัสที่นิ่ม เพื่อให้เด็กสามารถกลืนลงคอและย่อยได้ง่ายค่ะ

อาหารตามวัยนี้ ในแต่ละวันทารกควรได้รับประมาณ 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะสำหรับช่วงแรกที่เริ่มให้เด็กกินอาหารตามวัย เมื่อทารกเริ่มคุ้นชินกับอาหารตามวัยแล้ว สามารถเพิ่มขึ้นเป็น 3 ถึง 9 ช้อนโต๊ะได้ค่ะ

ปริมาณนมที่เหมาะสมสำหรับเด็ก 6 เดือน

ทารกวัย 6 เดือน ยังสามารถกินนมแม่ได้ตามปกติ หรือจะเริ่มให้เด็กกินนมผงสลับด้วยก็ได้เช่นกัน โดยปริมาณน้ำนมที่ทารกควรได้รับจะอยู่ที่ประมาณ 24 ถึง 30 ออนซ์ต่อวัน

Solid Foods

Solid Foods อาหารแข็ง หรืออาหารตามวัย เป็นอาหารที่ทารกวัย 6 เดือนควรจะต้องเริ่มทำความรู้จักกับอาหารรูปแบบอื่นที่นอกเหนือไปจากนมแม่ และควรต้องได้รับในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการกินนมแม่หรือนมผง เนื่องจากเด็กวัย 6 เดือนนี้ จำเป็นจะต้องได้รับสารอาหารและพลังงานที่มากขึ้นเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต ซึ่งนมแม่เพียงอย่างเดียว ถือว่าไม่เพียงพอ จำเป็นจะต้องได้พลังงานและสารอาหารที่มีประโยชน์จากอาหารตามวัยนี้ด้วย

MFGM เพื่อ IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก

การขับถ่ายของทารกวัย 6 เดือน


ทารกวัย 6 เดือน แน่นอนค่ะว่าเมื่อเริ่มกินอาหารอื่น ๆ ควบคู่ไปกับนมแม่ อัตราความถี่ในการอุจจาระก็อาจจะเพิ่มมากขึ้น ลักษณะอุจจาระ รวมถึงสีของอุจจาระ ก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปตามอาหารที่กิน จากที่เมื่อก่อนจะเป็นอุจจาระจากการกินนมแม่แค่เพียงอย่างเดียว

ทารก 6 เดือน ถ่ายวันละกี่ครั้ง

สุขภาพของเด็กแต่ละคนนั้นแตกต่างกันค่ะ ดังนั้น จึงถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะเจาะจงว่าทารกวัย 6 เดือนจะขับถ่ายวันละกี่ครั้ง อาจจะเป็น 1 ครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง หรือ 4 - 6 ครั้งต่อวันก็ได้เช่นกันค่ะ

สีอุจจาระของทารกวัย 6 เดือน

อุจจาระปกติควรจะเป็นสีเหลืองหรือสีเหลืองเข้ม แต่ในช่วงวัย 6 เดือนนี้ คุณแม่อาจะเริ่มสังเกตว่าสีอุจจาระลูกบางครั้งก็เปลี่ยนไป โดยบางครั้งอาจมีสีเขียวออกมาด้วย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้และไม่ใช่เรื่องผิดปกตินะคะ เพราะเด็กวัยนี้เริ่มกินอาหารอื่น ๆ นอกเหนือจากนมแม่แล้ว สีของอุจจาระ อาจแปรเปลี่ยนไปตามผักและผลไม้ที่ทารกกินเข้าไปได้ค่ะ

แต่ถ้าหากทารกมีอุจจาระสีดำ อุจจาระสีแดง อุจจาระสีขาว และอุจจาระสีเทา ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย ควรพาลูกไปพบแพทย์ค่ะ

การนอนของทารก 6 เดือน


การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการที่สมบูรณ์และแข็งแรง จึงถือเป็นภารกิจสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องพาลูกน้อยเข้านอนให้เหมาะสม

เด็ก 6 เดือน นอนกี่ชั่วโมง

เด็กวัย 6 เดือน ควรจะนอนให้ได้ประมาณ 14-15 ชั่วโมงต่อวัน แบ่งเป็นนอนตอนกลางวัน 3-4 ชั่วโมง และนอนตอนกลางคืนอีก 11 ชั่วโมง

เด็ก 6 เดือน ไม่ยอมนอนควรทำอย่างไร

ทารกวัย 6 เดือน บางครั้งอาจจะไม่ยอมนอน กล่อมยังไงก็ไม่ยอมนอน ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากฟันที่เริ่มขึ้น ทำให้เด็กรู้สึกไม่สบายตัว จนนอนไม่หลับ หรือเด็กอาจจะหิว เนื่องจากเริ่มโตขึ้นและต้องการพลังงานมากขึ้น ซึ่งวิธีรับมือเมื่อลูกนอนไม่หลับนั้น สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

     • ควรดูให้แน่ใจว่าในแต่ละวันลูกได้กินนมและกินอาหารเพียงพอหรือไม่ หากลูกกินน้อยเกินไป อาจส่งผลให้เด็กตื่นกลางดึกบ่อย ๆ เพราะหิวนม
     • การอุ้ม การกอด การลูบหลัง หรือสัมผัสที่อบอุ่น สามารถช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัย และหลับได้ง่ายขึ้น
     • จัดบรรยากาศให้เหมาะกับการนอน ไฟไม่ควรจะสว่างจ้า ควรจะสลัวให้มากที่สุด เพื่อให้เหมาะสมกับการนอนหลับ
     • เมื่อจะพาลูกเข้านอน พยายามมีบทสนทนาให้น้อยที่สุด เพื่อเป็นสัญญาณว่าต้องเข้านอนแล้ว ยิ่งพูดคุยและหยอกล้อมาก อาจทำให้เด็กเข้าใจว่าตอนกลางคืนเป็นเวลาแห่งการเล่นสนุก
     • ก่อนพาลูกเข้านอน ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมชิ้นใหม่ เพราะถ้ายังใช้ผ้าอ้อมชิ้นเดิม บางครั้งผ้าอ้อมอาจจะเต็มในตอนดึก ทำให้ลูกไม่สบายตัว และนอนไม่หลับได้

ฝึกลูกนอนยาว 6 เดือน

การฝึกลูกนอนยาวนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกันทุกบ้านค่ะ เพราะเด็กแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน วิธีรับมือก็แตกต่างกัน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจมีวิธีเฉพาะที่ช่วยให้ลูกนอนหลับได้นานขึ้นในแบบฉบับของตัวเอง อย่างไรก็ตาม วิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ อาจช่วยให้ลูกนอนหลับได้ยาวขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

     • การให้ลูกเข้านอนในเวลาเดิมทุกวัน จะช่วยให้เด็กเริ่มจดจำว่า ช่วงเวลาแบบนี้ ตอนพ่อแม่ทำแบบนี้ เป็นเวลาเข้านอนแล้ว
     • ลดเสียงรบกวนภายในห้องนอนของเด็กให้ได้มากที่สุด ไฟต้องสลัว เสียงเพลงกล่อมสามารถเปิดเบา ๆ ได้ เพื่อคลอจนทารกหลับ เมื่อหลับแล้วควรปิด เพื่อให้บรรยากาศสงบ เหมาะแก่การนอน
     • พยายามให้ลูกได้กินอาหารตามวัย และกินนมอย่างเพียงพอ จะช่วยลดปัญหาลูกตื่นกลางดึกเพราะหิวได้ค่ะ
     • พยายามอย่าให้ลูกนอนกลางวันนานเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกไม่ยอมนอน หรือนอนแป๊บเดียวแล้วก็ตื่น
     • พยายามสร้างสัญญาณการนอน เช่น การอ่านนิทาน การร้องเพลงกล่อมก่อนเข้านอน เด็กก็จะค่อย ๆ เริ่มจดจำว่า เมือ่ถึงกิจกรรมเช่นนี้ แปลว่าใกล้จะได้เวลานอนแล้ว เป็นการช่วยฝึกให้เด็กเริ่มเข้านอนเป็นเวลา และสามารถนอนได้นานขึ้นค่ะ

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

พัฒนาการเด็ก 6 เดือน


สำหรับพัฒนาการทารก 6 เดือน ถือได้ว่าเจ้าตัวน้อยเติบโตมาจนครึ่งขวบแล้วนะคะ ซึ่งเดือนนี้ลูกกำลังเปลี่ยนผ่านจากเด็กที่นอนเล่นเป็นหลักมาเป็นนั่งเล่นเป็นหลักกันบ้างแล้ว รวมทั้งสนใจโลกรอบตัวมากขึ้นอีกด้วย มาดูพัฒนาการรอบด้านของลูกน้อยเดือนนี้กันค่ะ

พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็ก 6 เดือน

     • เดือนนี้เด็ก ๆ หลายคนเริ่มมีอาการคันเหงือกหรือไม่ค่อยสบายจากการที่ฟันใกล้จะงอก ซึ่งส่งผลให้ลูกอาจงอแงได้ ทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาเจ็บปวดและความรู้สึกอารมณ์หงุดหงิดของลูกได้ คือให้คุณแม่ลองหายางกัดลวดลายน่ารัก ๆ ขนมปังกรอบ หรือผักผลไม้เนื้อแข็ง เช่น แตงกวา แอปเปิ้ล มาให้ลูกถือกัดเล่นแก้คันเหงือกได้

     • เด็ก ๆ จะอารมณ์ดีถ้าได้เล่น ยิ่งมีคนเล่นด้วยยิ่งชอบ โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่ควรจัดสรรเวลาสำหรับการเป็นเพื่อนเล่นของลูกด้วย การเล่นที่จะทำให้หนูน้อยวัยนี้อารมณ์ดีก็คือ การเล่นจ๊ะเอ๋ เพียงแค่เอามือหรือผ้าปิดหน้าเราแล้วเปิดออก เจ้าตัวเล็กก็หัวเราะชอบใจแล้ว

     • เด็กเริ่มที่จะมีอาการพึงพอใจกับตนเองมากขึ้น มักจะชอบยิ้มให้กับเงาตนเองในกระจกบ่อย ๆ

พัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสารของเด็ก 6 เดือน

     • เด็ก 6 เดือนจะเริ่มส่งเสียงเลียนพยัญชนะได้มากขึ้น คุมการออกเสียงได้มากขึ้นแต่ว่ายังไม่ค่อยเป็นภาษาเท่าไร และมักใช้วิธีการส่งเสียงเพื่อบอกอารมณ์ต่าง ๆ ของตัวเอง

     • เด็กวัย 6 เดือน สามารถที่จะจดจำและรู้จักชื่อตัวเอง พร้อมที่จะหันหาเมื่อมีคนเรียก มีปฏิสัมพันธ์ตอบกลับเมื่อถูกเรียกชื่อ

พัฒนาการด้านสมองของเด็ก 6 เดือน

     • เด็ก 6 เดือนจะเริ่มเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างมือและของที่อยู่ในมือผ่านการทำซ้ำ ๆ เช่น บางคนชอบที่จะคว้าของ โยน หรือปล่อยของลงพื้นซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อสังเกตดูปฏิกิริยาของสิ่งของที่ตกลงบนพื้น รวมไปถึงท่าทีของคนอื่น ๆ ต่อการกระทำของเขา และจะส่งเสียงให้รู้ว่าช่วยเก็บของมาคืนหนูหน่อย

     • ระบบประสาทต่าง ๆ ของเด็ก 6 เดือนทำงานสัมพันธ์กันมากขึ้น คว้าสิ่งของด้วยความแม่นยำมากขึ้น มองตามวัตถุได้ทั้งซ้ายและขวา อย่างไรก็ตาม เด็กๆ ควรได้รับการพัฒนาระบบการรับรู้อย่างรอบด้าน ทั้งการมอง การได้ยิน การสัมผัสและการรับรส เพราะเด็กที่มีโอกาสมองเห็น ได้ยินและเคลื่อนไหวไปพร้อม ๆ กัน จะเรียนรู้และพัฒนาทักษะการคิดได้หลากหลายและสมองทำงานเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบมากขึ้นด้วย

     • เด็ก 6 เดือนสามารถเรียนรู้และเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะกิจวัตรประจำวัน รู้ว่าตื่นนอนแล้ว แม่จะพาไปอาบน้ำ กินนม เล่น เป็นต้น เด็ก 6 เดือนจะเข้าใจหน้าที่ของของเล่นและของใช้ต่าง ๆ ได้ดี โดยเชื่อมโยงกับกิจกรรมประจำวัน  เช่น ช้อนเอาไว้ตักอาหารเข้าปาก

พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของเด็ก 6 เดือน

     • เด็ก 6 เดือนสามารถหันหน้าเอี้ยวตัวไปมาได้อย่างคล่องแคล่ว เช่นเดียวกับการพลิกคว่ำที่บางครั้งอาจพลิกคว่ำมาเป็นท่าทางกึ่งนั่งได้

     • เดือนนี้คุณแม่อาจได้เห็นลูกพยายามเคลื่อนตัวไปข้างหน้าในลักษณะคืบไปข้างหรือถอยหลังได้บ้างแล้ว

     • เด็ก 6 เดือนสามารถนั่งได้มั่นคงขึ้น แต่คุณแม่ก็ต้องหาหมอนหรือเบาะนุ่มๆ วางไว้รอบ ๆ ตัวลูกป้องกันไว้ เพราะบางครั้งลูกอาจเสียศูนย์ หน้าคว่ำหรือหงายหลังได้

     • ลูกสามารถถือขวดนม จับแก้วน้ำแบบมีหูเองได้แล้ว จับของเล่นและถ่ายของจากมือหนึ่งไปอีกมือหนึ่งได้อย่างคล่องแคล่วเช่นกัน

MFGM is an essential nutrient found in breast milk and MFGM fortified milk.

กระตุ้นพัฒนาการทารก 6 เดือนด้วยวิธีไหนดี


วิธีเล่นกับลูก 6 เดือน เพื่อกระตุ้นพัฒนาการนั้นถือว่ามีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ แข็งแรง และสมวัย คุณพ่อคุณแม่สามารถเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของลูกได้ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ทุกวัน ดังนี้

1. พัฒนาการทารก 6 เดือน ด้านอารมณ์และสังคม

เด็กวัย 6 เดือน เริ่มที่จะสนุกกับการเข้าหาและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมทักษะด้านอารมณ์และสังคมของลูกน้อยได้ ดังนี้

     • พยายามพูดคุยกับลูกบ่อย ๆ อาจจะเป็นเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว เรื่องอาหาร เรื่องนิทาน เพื่อเสริมทักษะปฏิสัมพันธ์ โดยเวลาพูดให้พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ อ่อนโยน
     • พยายามหาของเล่นที่เด็กสามารถเห็นเงาสะท้อนของตัวเองได้ เช่น กระจก เพื่อให้เด็กสามารถเห็นหน้าตาและการเคลื่อนไหวของตัวเองได้
     • พยายามให้ลูกได้เล่นเกมที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น

2. พัฒนาการทารก 6 เดือน ด้านภาษาและการสื่อสาร

เด็กวัย 6 เดือน เริ่มมีการโต้ตอบ เริ่มมีการแสดงออกถึงสิ่งที่ตนเองต้องการมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมทักษะด้านภาษาและการสื่อสารของลูกน้อยได้ ดังนี้

     • พยายามมีส่วนร่วมกับบทสนทนาของลูก พูดโต้ตอบกับลูกบ่อย ๆ แม้ว่าลูกจะยังไม่สบามารถตอบกลับเป็นภาษาที่เข้าใจได้ก็ตาม
     • พยายามเรียกชื่อลูกบ่อย ๆ เพื่อให้เด็กคุ้นเคยกับชื่อของตนเอง และสามารถที่จะคุ้นเคย หรือมีการโต้ตอบกลับเมื่อถูกเรียกชื่อ

3. พัฒนาการทารก 6 เดือน ด้านสติปัญญาและการเรียนรู้

สมองของเด็กวัย 6 เดือนพัฒนาขึ้นมาก เด็กเริ่มที่จะสงสัย อยากรู้ อยากเห็น อยากหยิบจับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมทักษะด้านสติปัญญาและการเรียนรู้ของลูกน้อยได้ ดังนี้

     • พยายามหาของเล่นที่เด็กสามารถหยิบขึ้นมาได้ด้วยมือเดียว เพื่อให้เด็กสามารถหยิบจับและทำความเข้าใจกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ง่ายขึ้น
     • เวลาเล่นของเล่นกับลูก ควรมีบทสนทนาในการเรียกชื่อของเล่นต่าง ๆ ด้วย เพื่อให้เด็กเกิดการจดจำสิ่งใหม่ ๆ รอบตั

4. พัฒนาการทารก 6 เดือน ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว

เด็กวัย 6 เดือน สามารถเคลื่อนที่ได้อิสระมากขึ้น เริ่มที่จะม้วนตัวเองได้ กลิ้งไปมาได้ เริ่มคลานได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมทักษะด้านร่างกายและการเคลื่อนไหวของลูกน้อยได้ ดังนี้

     • พยายามปล่อยให้ลูกได้มีอิสระในการหยิบจับของเล่นด้วยตัวเอง ให้ลูกสามารถคลานไปมาได้ ได้ลองกลิ้งตัว ม้วนตัวด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเข้าไปช่วยทุกครั้ง เพียงแค่คอยระวังเมื่อจะเกิดท่าทางที่เป็นอันตรายก็พอ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้มีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น

ไขข้อข้องใจเรื่องพัฒนาการทารกวัย 6 เดือน กับ Enfa Smart Club


 ลูก 6 เดือน ยังไม่นั่ง ปกติไหม?

เด็กวัย 6 เดือน สามารถที่จะเริ่มลุกขึ้นนั่งเองได้โดยไม่ต้องให้พ่อกับแม่คอยประคองแล้วค่ะ แต่ก็อาจจะยังทุลักทุเลอยู่บ้าง อาจมีการเอนเอียงนิดหน่อย แต่โดยรวมถือว่าเริ่มนั่งเองได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เด็ก 6 เดือนบางคนก็อาจจะยังไม่เริ่มนั่งในเดือนที่ 6 ซึ่งไม่ถือว่าผิดปกติค่ะ เพราะช่วงเวลาที่เด็กจะเริ่มลุกขึ้นนั่งเองนั้นจะอยู่ระหว่างเดือนที่ 6-8 แต่ถ้าเข้าเดือนที่ 9 แล้วลูกยังไม่สามารถลุกขึ้นนั่งเองได้ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยค่ะ

 ทารก 6 เดือน กินข้าวกี่มื้อ?

ทารก 6 เดือนเริ่มกินอาหารตามวัยอื่น ๆ นอกเหนือจากนมแม่ได้แล้ว แต่อาหารหลักก็ยังคงเป้นนมแม่อยู่นะคะ ส่วนอาหารตามวัยนั้นในระยะเดือนที่ 6 นี้ อาจเริ่มให้แค่เพียงวันละมื้อก่อนค่ะ แล้วค่อยเพิ่มจำนวนมื้อเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น

 ทารก 6 เดือน กินผลไม้อะไรได้บ้าง?

ทารกวัย 6 เดือนสามารถกินผลไม้ได้หลายชนิดมากค่ะ ตราบเท่าที่ผลไม้นั้นมีเนื้อสัมผัสที่นิ่ม และไม่แข็งจนเกินไป โดยผลไม้ที่เหมาะสำหรับเด็กวัย 6 เดือน เช่น กล้วย อะโวคาโด มะม่วงสุก มะละกอสุก เป็นต้น

 ลูก 6 เดือนตกเตียง ต้องไปพบแพทย์ไหม?

อาจต้องดูปัจจัยแวดล้อมร่วมด้วยค่ะ เช่น ลูกตกจากเตียงสูงมากไหม ลูกมีเลือดออกไหม ลูกตัวนิ่งแข็งทื่อไหม ลูกร้องไห้ไม่หยุดหรือเปล่า หากมีอาการข้างต้น ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยค่ะ

แต่ถ้าหากลูกไม่มีอาการใด ๆ ที่น่าเป็นห่วง เช่น แม้จะร้องไห้ แต่ปลอบแล้วก็หยุดร้อง และสามารถกินนม กินข้าวได้ตามปกติ อย่างนี้ก็สบายใจได้ค่ะ ถือว่าไม่มีอาการที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม หากคุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจ ก็สามารถพาลูกไปพบแพทย์เพื่อทำการเช็กดูว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับลูกหรือไม่

 เด็ก 6 เดือนนอนยาก ทำอย่างไรดี?

วิธีรับมือเมื่อลูกนอนไม่หลับนั้น สามารถทำไดหลายวิธี เช่น

     • ควรดูให้แน่ใจว่าในแต่ละวันลูกได้กินนมและกินอาหารเพียงพอหรือไม่ หากลูกกินน้อยเกินไป อาจส่งผลให้เด็กตื่นกลางดึกบ่อย ๆ เพราะหิวนม

     • การอุ้ม การกอด การลูบหลัง หรือสัมผัสที่อบอุ่น สามารถช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัย และหลับได้ง่ายขึ้น

     • จัดบรรยากาศให้เหมาะกับการนอน ไฟไม่ควรจะสว่างจ้า ควรจะสลัวให้มากที่สุด เพื่อให้เหมาะสมกับการนอนหลับ

     • เมื่อจะพาลูกเข้านอน พยายามมีบทสนทนาให้น้อยที่สุด เพื่อเป็นสัญญาณว่าต้องเข้านอนแล้ว ยิ่งพูดคุยและหยอกล้อมาก อาจทำให้เด็กเข้าใจว่าตอนกลางคืนเป็นเวลาแห่งการเล่นสนุก

     • ก่อนพาลูกเข้านอน ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมชิ้นใหม่ เพราะถ้ายังใช้ผ้าอ้อมชิ้นเดิม บางครั้งผ้าอ้อมอาจจะเต็มในตอนดึก ทำให้ลูกไม่สบายตัว และนอนไม่หลับได้



บทความแนะนำสำหรับพัฒนาการลูกน้อย

MFGM เพื่อ IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก